
รีวิว All-New Toyota Corolla Cross ลองสั้นๆ ครั้งแรกในโลก บอกเลยดีเกินคาด!!
เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Toyota Corolla Cross รุ่นใหม่ จากค่าย Toyota หลังจากที่ปล่อยให้ค่ายอื่นๆ โกยยอดขายในกลุ่ม C-SUV มาตั้งหลายปี
การมาครั้งถึงนี้จึงต้องจัดหนักจัดเต็ม เพื่อหวังทวงยอดขายคืน และเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าแบบครอบครัวยุคใหม่ที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา
และพร้อมที่จะพาคุณและคนที่คุณรักออกไปค้นหาชีวิตในแบบที่คุณเลือก
ทั้งนี้ All-New Toyota Corolla Cross ประกาศเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยในวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นย่อย 2 รูปแบบเครื่องยนต์
ซึ่งภายในงานเปิดตัวดังกล่าว ทาง Toyota ยังได้จัดกิจกรรม Test Drive ที่เปิดโอกาสให้คณะสื่อมวลชนได้ทดลองขับ SUV รุ่นใหม่เป็นครั้งแรกของโลก
ซึ่งทีมงาน 9carthai.com ก็ได้สัมผัสมาแล้ว ส่วนจะใช่รถอเนกประสงค์ที่คุณมองหาอยู่หรือไม่? เดี๊ยวจะเหลาให้ฟัง…
ก่อนอื่นต้องขอบรรยายสรรพคุณ และรายละเอียดของ All-New Toyota Corolla Cross ให้ได้ทราบกันก่อน ว่ามันมีอุปกรณ์มาตรฐานอะไรติดตั้งมาให้บ้าง โดยเจ้า SUV รุ่นนี้ มาพร้อมกับ
ดีไซน์ภายนอก รุ่น Hybrid Premium Safety (รุ่นท็อปสุด)
ดีไซน์ภายใน รุ่น Hybrid Premium Safety (รุ่นท็อปสุด)
สิ่งอำนวยความสะดวก
ในส่วนของขุมพลังเครื่องยนต์ บอกตรงๆ ว่ายกชุดมาจาก Toyota Corolla Altis ซึ่งมีให้เลือก 2 รูปแบบได้แก่
รายละเอียดการปรับปรุงระบบ Hybrid ใหม่ มีดังนี้
ระบบความปลอดภัยของ All-New Toyota Corolla Cross จัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก ได้แก่
ระบบความปลอดภัยแบบป้องกัน (Active Safety)
ระบบความปลอดภัยแบบปกป้อง (Passive Safety)
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก Toyota Safety Sense
เอาละเมื่อทำความรู้จักกับ All-New Toyota Corolla Cross เบื้องต้นกันแล้ว ก็ถึงคราวทดลองขับเพื่อพิสูจน์สมรรถนะกันบ้าง โดยการทดลองครั้งนี้เป็นเพียงการทดลองสั้นๆ ในสนามทดสอบ (ให้ขับคนละ 2 รอบ) โดยจุดแรกที่อยากจะพูดถึงก็คือ ในเรื่องของความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร ซึ่งผู้เขียนได้ลองนั่งทั้งด้านหลัง และตำแหน่งผู้ขับ
โดยที่นั่งด้านหลังนั้นค่อนข้างกว้างขวาง ประตู 2 บานท้ายเปิดได้กว้าง สามารถอุ้มเด็กเข้าไปนอนในรถได้แบบไม่ติดขัด เบาะนั่งนั่งได้อย่างสบาย พื้นที่ระหว่างหัวเข่า (ช่องว่างพื้นที่วางเท้า) เหลือค่อนข้างเยอะ เช่นเดียวกับพื้นที่เหนือศรีษะ ผสานกับกระจกรอบด้านที่มีเยอะเกือบ 10 บานเต็มๆ ทำให้มิติมุมมอง และความรู้สึกด้านท้ายโป่งโล่ง นั่งสบาย ไม่อึดอัด ซึ่งจุดนี้นั่งสบายกว่า Toyota C-HR และ Mazda CX-30 อย่างรู้สึกได้ อีกทั้งยังมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง หลังคามูนรูฟ รวมถึงช่องเสียบชาร์จ USB 2 ตำแหน่ง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารตอนหลังได้เป็นอย่างดี
การทดสอบแรกเริ่มต้นขึ้นด้วยการขับแบบ Slalom ความเร็วต่ำ (ไม่เกิน 20 กม./ชม.) เพื่อพิสูจน์ความหนัก-เบาของพวงมาลัย ที่แปรผันตามความเร็วของตัวรถ ซึ่งจุดนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับพื้นที่แคบๆ เช่น ลานจอดรถในห้างฯ โดยความเร็วต่ำพวงมาลัยจะมีความเบา (มือเดียวสามารถเหนี่ยวได้) ส่วนความเร็วสูงจะถูกปรับให้หนัก และหน่วงยิ่งขึ้น
ต่อมาเป็นการทดลองระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense กับระบบ Lane Departure Alert With Steering Assist ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ ซึ่งจะเริ่มทำงานที่ความเร็วระดับ 50 กม./ชม. ขึ้นไป เมื่อตัวรถจับเส้นแบ่งเลนถนนได้ จะขึ้นโชว์สถานะเริ่มทำงานของระบบ Lane Departure และเมื่อตัวรถมีการขับออกนอกเลยโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะทำการแจ้งเตือน พร้อมค่อยๆ หน่วงพวงมาลัยกลับเข้ามาในเลนให้อัตโนมัติ ซึ่งก็มีการหน่วงพวงมาลัยแบบรู้สึกได้ แต่ถ้าเราฝืนดื้อยังจะขืนพวงมาลัยออกนอกเลย ตัวรถก็จะปล่อยให้เราสามารถควบคุมต่อไปได้
ถัดมาเป็นการทดลองขับแบบ Slalom ความเร็วสูง (ไม่เกิน 70 กม./ชม.) ซึ่งตรงนี้ถือเป็นบทพิสูจน์โครงสร้างตัวถังแบบ TNGA และระบบช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ โดยสมรรถนะการทรงตัวของ All-New Toyota Corolla Cross นั้น มีเสถียรภาพในการยึดเกาะถนนที่ดี ช่วงล่างนุ่มและหนึบ อาการโยนของตัวรถมีน้อยมาก (แม้น้ำหนักตัวรถจะเยอะ และเป็นรถแบบยกสูงก็ตาม) ซึ่งจุดนี้ถือเป็นไฮไลท์เด็ดที่คณะสื่อมวลชนชื่นชมกันเป็นเสียงเดียวว่า “เยี่ยม”
ด้านอัตราเร่งก็มีให้ได้ทดลองกันแบบหอมปากหอมคอ ระยะทางประมาณ 300 เจ้า Toyota Corolla Cross สามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาประมาณ 12 วิ ซึ่งเป็นการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid
เสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบ อัตราเร่งไต่ระดับได้รวดเร็ว การขับรถ Hybrid ต้องค่อยๆ เหยียบคันเร่งลึกลงไป (หากกระทืบคันเร่ง หรือ Kick Down) ตัวรถจะไม่ค่อยพุ่งสักเท่าไหร่ ซึ่งในส่วนของอัตราเร่งนี้ ก็ถือว่าพอใช้ได้ แต่จุดขายหลักๆ ของ Toyota Corolla Cross เห็นทีจะเป็นในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเสียมากกว่า
บทสรุป
ต้องบอกว่า All-New Toyota Corolla Cross นั้น เป็นอีกหนึ่งรถอเนกประสงค์ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยมีจุดเด่นที่เข้ามาเติมเต็มไลน์อัพระหว่าง Toyota C-HR และ Toyota Fortuner ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งใครที่ต้องการรถอเนกประสงค์ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ และอรรถประโยชน์ รวมไปถึงมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ในขนาดมิติตัวรถที่ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป อีกทั้งยังประหยัดน้ำมัน และนั่งสบาย บอกเลย All-New Toyota Corolla Cross คือ SUV ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน
ราคาจำหน่าย All-New Toyota Corolla Cross
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
ราคาพิเศษ 959,000 บาท (ณ วันเปิดตัว – 30 กันยายน 2563 มีจำนวนจำกัด)
ดูตารางผ่อนคลิก https://www.9carthai.com/new-toyota-corolla-cross-price/
บทความน่าอ่าน!!
รีวิว : สัมผัสแรก Nissan Kicks e-Power ขับดีเกินคาด อัตราเร่งทันใจ ใช่เลย!!
รีวิว Toyota Hilux REVO Rocco 2020 บอกเลย Minorchange ครั้งนี้ เหนือกว่า All-New ค่ายอื่นเสียอีก
รีวิว All-New Mazda 3 ความลงตัวที่สง่างาม เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี ไม่ง้อขุมพลัง
รีวิว All-New Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในปฐพีนี้
รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เพิ่มเติมเทคโนโลยี ยืนหนึ่ง City Car 3 ปีติดต่อกัน
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car
รีวิว Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิต
รีวิว ขับ Ford Ranger Raptor 2020 บุกป่า ฝ่าดง ตะลุยทะเลทราย บนผืนแผ่นดินเวียดนาม
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Vios ราคาเริ่มต้น 609,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
โตโยต้า อัลติส| โตโยต้า รีโว | Honda City | Honda Civic | มาสด้า 2 | Mazda CX-5 | นิสสัน อัลเมร่า | นิสสัน คิกส์ | นิสสัน เทียน่า | Suzuki Swift | มิราจ | แอททราจ | ISUZU D-MAX | ISUZU MU-X
แสดงความคิดเห็น