
รีวิว : สัมผัสแรก Nissan Kicks e-Power ขับดีเกินคาด อัตราเร่งทันใจ ใช่เลย!!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ได้รับความสนใจ และมีกระแสร้อนแรงเป็นอย่างมาก สำหรับรถอเนกประสงค์ Crossover รุ่นใหม่ล่าสุดในตลาด กับ All-New Nissan Kicks e-Power
ที่มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนรูปแบบใหม่หนึ่งเดียวในโลก เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในราคาเริ่มต้นที่ 8.89 แสนบาท
ล่าสุด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญคณะสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะของ All-New Nissan Kicks e-Power รถอเนกประสงค์น้องใหม่ที่ทาง Nissan หมายมั่นปั้นมือ
และเคลมว่าเทคโนโลยี e-Power นี้ จะให้ฟิลลิ่งการขับขี่ที่เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า งานนี้ทีมงาน 9carthai.com จึงต้องลองไปพิสูจน์ให้ทราบด้วยตัวเอง
สำหรับการทดสอบในครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามปทุมธานีสปีดเวย์ ซึ่งทาง Nissan ได้เตรียมรถทดสอบ All-New Nissan Kicks e-Power รุ่น VL (ท็อปสุด) ไว้ให้ 10 คัน (คันละ 1 สื่อ) ซึ่งเปิดโอกาสให้แต่ละสื่อได้ทดลองขับ และทดสอบสมรรถนะกันแบบเต็มไม้เต็มมือ จะขับกี่ครั้งหรือกี่รอบก็ได้ภายในเวลากว่า 3 ชั่วโมง
โดยภายในสนามทดสอบดังกล่าว ถูกแบ่งออกเป็น 2 สถานี ได้แก่
– สถานี A ที่จะเป็นการทดสอบในรูปแบบ Lane Change (การเปลี่ยนเลนแบบกระทันหัน) และ Slalom (ซิกแซกอ้อมกรวย)
– ส่วนสถานี B จะเป็นการจำลอง Track แบบ Circuit Race ให้ได้ลองขับกันแบบเต็มๆ ซึ่งจะมีจุดให้ได้ทดลองอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
และปิดท้ายด้วย Double Lane Change (การเปลี่ยนเลนแบบกระทันหันทั้งซ้ายและขวา)
แต่ก่อนจะถึงขั้นทดลองขับ เรามาทำความรู้จักกับสเปคพื้นฐานของตัวรถเบื้องต้นกันก่อน ซึ่งในบทความนี้ผมขอไม่บรรยายถึงรายละเอียดภายนอก – ภายในของตัวรถ เพราะทุกท่านคงทราบรายละเอียดกันดีอยู่แล้ว
แต่ถ้าใครอยากได้ข้อมูลสามารถดูจาก VDO และอ่านบทความเพิ่มเติมที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย
สิ่งที่อยากจะอธิบายให้เข้าใจก็คือ เทคโนโลยี e-Power ของ All-New Nissan Kicks นั้น ไม่ใช่ระบบ Hybrid ซึ่งบางท่านอาจจะยังเข้าใจผิด โดยระบบขับเคลื่อนดังกล่าวถือเป็นระบบขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวส่งกำลังไปยังล้อ (Hybrid จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ในการส่งกำลัง)
โดย e-Power จะให้อัตราเร่งแบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่มีเครื่องยนต์เป็นตัวปั่นกระแสไฟ จึงไม่ต้องเสียบชาร์จไฟจากภายนอก แค่เติมน้ำมันให้เครื่องยนต์สามารถปั่นไฟไปส่งกำลังที่มอเตอร์เท่านั้นเอง
ทั้งนี้ All-New Nissan Kicks e-Power จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ HR12 DE ขนาด 1.2 ลิตร สำหรับปั่นไฟ ทำงานร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) แล้วส่งไปที่ Inverter ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวเปลี่ยนกระแสไฟให้เป็น AC หรือ DC และควบคุมการจ่ายกระแสไฟว่าจะส่งไปจัดเก็บที่ Battery หรือส่งไปขับเคลื่อนล้อที่ Motor
โดยมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 AC3 Synchronous Motor ใน All-New Nissan Kicks จะให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร จัดเก็บพลังงานด้วยชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 kWh แบบ 4 โมดูล
All-New Nissan Kicks มีโหมดการขับขี่ให้เลือกได้ 4 รูปแบบ ได้แก่
เอาละเมื่อรู้จักกับกลไกการทำงาน และโหมดต่างๆ ของ All-New Nissan Kicks e-Power ไปแล้ว ก็ถึงคราวทดสอบขับจริง ว่าจะมีสมรรถนะการขับขี่เป็นอย่างไรบ้าง
โดยเริ่มที่สถานี A ที่เป็นการขับขี่แบบ Lane Change (เปลี่ยนเลนกระทันหัน) จุดนี้เริ่มแรกเดิมทีจะให้ผู้ขับเลือกเลนที่จะไปเอง (ซ้ายหรือขวา) โดยมีกรวยวางห่างกันกว้างประมาณ 3 เมตร ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาของ Crossover รุ่นใหม่นี้ สามารถขับขี่ได้อย่างคล่องตัว การหักเลี้ยวของพวงมาลัยทำได้เฉียบคม ตัวรถควบคุมเสถียรภาพเข้าโค้งได้ชนิดที่ขับสนุก ปลอดภัย ไม่โยนมาก (แต่ก็มีโยนบ้างเล็กน้อย)
รอบหลังๆ ที่งาน Nissan จะเป็นผู้วอบอก ให้ขับมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม. เมื่อใกล้ถึงทีมงานจะแจ้งให้ว่าไปเลนซ้ายหรือขวา ซึ่งจุดนี้จำลองจากเหตุการณ์บนถนนจริงที่ต้องหักหลบสิ่งกรีดขวาง (ด้วยความเร็ว) จุดนี้จึงทำให้สัมผัสกับสมรรถนะการทรงตัวของ All-New Nissan Kicks e-Power อย่างชัดเจน ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีการทรงตัวที่ดีมาก ขับได้อย่างคล่องตัว การเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วมีความแม่นยำ และสามารถควบคุมรถต่อได้เมื่อพ้นจากจุดนั้น
ต่อด้วยการเข้าไลน์แบบ Slalom (ด้วยความเร็ว 80 กม./ชม.) จุดนี้ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เป็นมาตรฐานในการทดสอบรถอยู่แล้ว ซึ่ง All-New Nissan Kicks e-Power ก็ยังคงให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี ไม่โคลงเคลง ตัวรถจิกไลน์ได้ดี การควบคุมรถทำได้อย่างปลอดภัย
มาต่อกันที่ในสถานี B จุดนี้เป็นการขับแบบเต็มรอบในสไตล์ Circuit Race โดยจะมีจุดให้ได้ทดลองอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
ซึ่งผลปรากฏว่า All-New Nissan Kicks e-Power ใช้ระยะเวลาเพียง 9 วินาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับรถประเภทนี้
โดยอัตราเร่งจะให้ฟิลลิ่งเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า ที่เหยียบปุ๊บรถพุ่งปั๊บ ไม่รอรอบ (แต่จะมีเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ให้ได้ยิน)
ด้านสมรรถนะการเข้าโค้งต่างๆ ก็อย่างที่ได้อธิบายไป สามารถทำได้อย่างเฉียบคม อาการโยนของตัวรถรู้สึกได้น้อยมาก ขับได้อย่างคล่องตัว
และที่สำคัญรัศมีวงเลี้ยวของ All-New Nissan Kicks e-Power ยังแคบที่สุดในคลาส Crossover ทำให้การเลี้ยวโค้งไม่ต้องหักพวงมาลัยกันเยอะ ตัวรถก็พร้อมจะไปยังทิศทางตามที่กำหนด
ซึ่งจุดนี้ถือว่าตอบสนองได้ดีมาก ผนวกกับอัตราเร่งที่ฉับไว ในการออกโค้งเพียงเติมคันเร่งลงไป ตัวรถก็พร้อมจะพุ่งทะยานออกตัวไปต่ออย่างไม่รีรอ
อีกหนึ่งจุดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ กับระบบ One-Pedal ที่จะทำงานในโหมดการขับขี่แบบ S หรือ ECO เท่านั้น โดยผู้ขับสามารถใช้แป้นคันเร่งในการเร่งความเร็ว – ลดความเร็ว และหยุดรถได้เพียงแป้นเดียว ซึ่งจะรู้สึกได้ชัดเจนในย่านความเร็วต่ำ
โดยตัวมอเตอร์จะค่อยๆ หน่วงการส่งกำลังที่ล้อจนรถหยุดสนิท ซึ่งคล้ายกับการทำงานในระบบ e-Paddle ของ Nissan Leaf แต่ใน All-New Nissan Kicks e-Power จะมีแรงฉุดของเครื่องยนต์ (แรง G) ที่น้อยกว่า ทำให้การชะลอรถนุ่มนวล ไม่หัวทิ่ม
ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด จุดนี้คงไม่สามารถบอกได้แบบเป๊ะๆ เพราะเป็นการขับทดสอบในสนามสั้นๆ ที่ใช้อัตราเร่งเต็มสปีดเกือบตลอดเวลา แต่ที่แน่ๆ ทาง Nisasn เขาระบุไว้ว่า อัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 23.8 กม./ลิตร ซึ่งนั้นเท่ากับมาตรฐานใน Eco Sticker เลยทีเดียว
นอกจากนี้ All-New Nissan Kicks e-Power ยังมาพร้อมเทคโนโลยี NissanIntelligent Mobility ที่ดีที่สุด ได้แก่
ขณะที่คุณสมบัติด้านความปลอดภัยมาตรฐานยังมาพร้อมกับ
All-New Nissan Kicks e-Power มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ในราคา
All-New Nissan Kicks e-Power ทุกรุ่น มาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีอายุการใช้งานที่นาน มีความทนทาน และคุณภาพสูง เป็นเวลา 10 ปี และรับประกันระบบไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี และการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
บทความน่าอ่าน!!
รีวิว Toyota Hilux REVO Rocco 2020 บอกเลย Minorchange ครั้งนี้ เหนือกว่า All-New ค่ายอื่นเสียอีก
รีวิว All-New Mazda 3 ความลงตัวที่สง่างาม เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี ไม่ง้อขุมพลัง
รีวิว All-New Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในปฐพีนี้
รีวิว New Mazda 2 ขับมันส์กว่าเดิม เพิ่มเติมเทคโนโลยี ยืนหนึ่ง City Car 3 ปีติดต่อกัน
รีวิว All-New Nissan Almera เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ ก้าวสู่ยุคใหม่ Eco Car
รีวิว Mazda CX-30 ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิต
รีวิว ขับ Ford Ranger Raptor 2020 บุกป่า ฝ่าดง ตะลุยทะเลทราย บนผืนแผ่นดินเวียดนาม
รีวิว All-New Isuzu D-Max แอ่วเหนือ สัมผัส “พลานุภาพ พลิกโลก”
รีวิว Toyota Yaris Cross อีโคคาร์สไตล์ครอสโอเวอร์หนึ่งเดียวในคลาส ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิต
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Vios ราคาเริ่มต้น 609,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
โตโยต้า อัลติส| โตโยต้า รีโว | Honda City | Honda Civic | มาสด้า 2 | Mazda CX-5 | นิสสัน อัลเมร่า | นิสสัน คิกส์ | นิสสัน เทียน่า | Suzuki Swift | มิราจ | แอททราจ | ISUZU D-MAX | ISUZU MU-X
แสดงความคิดเห็น