MG Extender VS Toyota REVO เทียบสเปคกระบะรุ่นท็อปน้องใหม่กับเจ้าตลาด รุ่นไหนเด็ดกว่ากัน?

เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ VS โตโยต้า รีโว่ เทียบสเปคกระบะรุ่นท็อปน้องใหม่กับเจ้าตลาด รุ่นไหนเด็ดกว่ากัน?

ยังไงซะตลาดรถกระบะในบ้านเรา ก็ยังเป็นที่ต้องการของคนส่วนมาก และยังมียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความอเนกประสงค์ และสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งราคาในรุ่นสูงสุดยังถูกกว่ารถเก๋งในระดับ C-Segment ทำให้หลายท่านที่จะควักเงินจำนวน 1 ล้านต้นๆ หันมามองหาความคุ้มค่า และเทใจเลือกเสียตังค์กับรถกระบะได้อย่างไม่ลังเลใจ แต่ทว่ารถกระบะตัวท็อปรุ่นไหนจะมัดใจคุณนั้น วันนี้ 9carthai.com มีคำตอบ

สำหรับการเทียบสเปคครั้งนี้ ทางทีมงานขอหยิบนำเอา 2 รถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 รุ่นท็อปน้องใหม่กับเจ้าตลาดอย่าง MG Extender กับ Toyota Hilux REVO มาเทียบสเปคให้ได้ชมกัน ว่ารุ่นใดจะเป็นคำตอบในความต้องการของคุณ

MG Extender

เรามาเริ่มกันที่น้องใหม่แห่งวงการรถกระบะ กับ MG Extender ที่เปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม และจะพร้อมเปิดตัวสู่สาธารณะชนพร้อมจำหน่ายในช่วงงาน BIG Motor Sale 2019 โดยมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ซึ่งในรุ่นสูงสุดอย่าง 2.0 DC Grand 4WD x 6AT มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,029,000 บาท

สำหรับดีไซน์ของ MG Extender นั้น มาพร้อมการออกแบบที่ดูโดดเด่นล้ำสมัย ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบโครเมียม เข้าชุดกับไฟหน้าอัตโนมัติ LED Projector พร้อมระบบควบคุมไฟหน้าปรับเลี้ยวตามองศาพวงมาลัย และไฟ DRL แบบ LED, ไฟท้ายดีไซน์สปอร์ตแบบ LED, ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 18″

ส่วนภายในห้องโดยสารของ MG Extender ชูจุดเด่นด้วยความกว้างขวางสะดวกสบาย และเก็บเสียงที่ดีด้วยการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด การออกแบบภายในสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้โทนสีเข้ม ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม, แผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว, กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า เบาะหลังพับได้ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

สำหรับจุดขาย และไฮไลท์สำคัญของ MG Extender อยู่ที่ระบบปฏิบัติการ i–SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์ MG ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วย SMART Command ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก, เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ, หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music, ค้นหาร้านอาหาร และที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสาร และเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ และ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู, ตรวจสอบตำแหน่ง และค้นหารถ, แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

ขุมพลังเครื่องยนต์ของ MG Extender ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L

MG Extender มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ซึ่งประกอบไปด้วย

• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Braking System)
• ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบตรวจสอบความผิดปดติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning System)

Toyota Hilux REVO

มาต่อกันที่เจ้าตลาดอย่าง Toyota Hilux REVO ซึ่งในรุ่นท็อปขับ 4 นั้น จะใช้ชื่อย่อยว่า 4×4 2.8G AT ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ชูจุดเด่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน และสมรรถนะของขุมพลัง 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร VN Turbo 177 แรงม้า ในราคาค่าตัว 1,140,000 บาท

สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Toyota Hilux REVO นั้น ถูกถ่ายทอด DNA มาจากรุ่น Tacoma ที่ขายดีอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดดเด่นที่กระจังหน้าอันดุดันกรอบโครเมียม รับกับไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบ Follow-me-home, ไฟ DRL แบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED, กันชนหลังโครเมียม ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 18″

ส่วนภายในห้องโดยสารของ Toyota Hilux REVO มาในโทนสีดำตัดด้วยวัสดุสีเทา, เรือนไมล์จอสี TFT, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบ Cruise Control, ช่องเก็บของด้านหน้ามาพร้อมระบบทำความเย็น (Cool Box), เบาะหนังปรับไฟฟ้าคู่หน้า, ปุ่ม Push Start, ระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอสัมผัสรองรับระบบ T-Connect และ Telematics ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และช่องชาร์จไฟ DC 12 โวลต์

ขุมพลังเครื่องยนต์ของ Toyota Hilux REVO ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร VN Turbo และ Intercooler สมรรถนะ 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับระบบ Differential Lock ที่เฟืองท้าย

ด้านระบบความปลอดภัยของ Toyota Hilux REVO นั้น มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ GOA, ถุงลม 7 ตำแหน่ง, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC, กล้องมองหลัง, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อล็อค ABS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบกระจายแรงเบรก EBD และ ระบบควบคุมการส่ายของพ่วงท้าย TSC

ตารางเทียบสเปค MG Extender กับ Toyota Hilux REVO

บทสรุป

ต้องบอกว่าทั้ง 2 รุ่น ต่างก็มีข้อดี และข้อได้เปรียบที่แตกต่างกันออกไป โดยหากใครที่ต้องการรถกระบะที่มีพละกำลัง และแรงบิดสำหรับการบรรทุก ดูเหมือนว่า Toyota Hilux REVO จะได้เปรียบอยู่พอสมควรสำหรับความต้องการครั้งนี้ แต่สำหรับใครที่ต้องการรถกระบะขับใช้งานในเมือง ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ครบครัน MG Extender นั้น เหนือชั้นกว่าอย่างชัดเจน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องยอมรับว่า Toyota Hilux REVO นั้น เป็นเจ้าตลาดที่ครองใจมหาชนชาวไทยมาเป็นเวลานาน ซึ่งหากจะวัดกันในรุ่นท็อปจริงๆ ในระยะยาวความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนก็ยังมองว่า Toyota REVO นั้นมีความคุ้มค่ากว่า ทั้งในเรื่องของราคาขายต่อ, ศูนย์บริการ และอะไหล่ แต่ก็ใช่ว่า MG Extender จะไม่มีหมัดเด็ดไว้ใช้ต่อกร เพราะน้องใหม่คันนี้เป็นคันแรกในโลกที่มีระบบปฏิบัติการ i–SMART ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุด อีกทั้งทาง MG ยังได้ยืนยันด้วยว่า MG Extender มีค่าบำรุงรักษาที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน 100,000 กม. ไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง ว่าต้องการสมรรถนะ หรือ อรรถประโยชน์ด้านไหน ซึ่งการเปรียบเทียบครั้งนี้เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจเท่านั้น