GROUT TEST : รีวิว NEW MG EXTENDER สัมผัสแรกกับกระบะพันธุ์ใหม่แห่งค่าย MG
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ทาง SAIC Motor – CP และ MG Sales (Thailand) ได้ทำการเชิญชวนสื่อมวลชน และนักข่าวทั่วฟ้าเมืองไทย เข้าร่วมงานเปิดตัว รถกระบะรุ่นแรกของทาง MG นั่นก็คือ “NEW MG EXTENDER กระบะพันธ์ุใหม่ ให้มากกว่าความแกร่ง” ซึ่งงานดังกล่าวนอกจากจะเป็นงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงานสามารถทดลองขับขี่ได้อีกด้วย
โดยงานดังกล่าวถูกจัดขึ้นที่สนาม 8 Speed เขาใหญ่ ซึ่งมีทั้งสนามแบบออนโรด และออฟโรด ให้ผู้ขับได้สัมผัสสมรรถนะเปรี่ยบเทียบกันไปเลยว่าถนนดำ-ถนนดิน เจ้ารถกระบะน้องใหม่คันนี้จะเอาอยู่หรือไม่
ในงานดังกล่าวจะมีการแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงเช้าจะเป็นงานแถลงข่าวของทางค่าย MG และ SAIC Motor-CP ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นช่วงที่เราได้ทดสอบตัวรถกันครับ
สำหรับงานช่วงเช้าคุณ Zhang Haibo ประธานบริษัท และคุณ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการของ MG เป็นผู้กล่าวเปิดงาน, แสดงวิสัยทัศน์ของบริษัท และพูดถึงโปรดักส์ใหม่อย่าง NEW MG EXTENDER โดยมีใจความว่า
“ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ที่ผ่านมา เราทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และแนะนำผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มรถยนต์นั่งเป็นหลัก ด้วยการชูจุดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์เอ็มจี ทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะของเครื่องยนต์ ระบบบังคับควบคุม ระบบความปลอดภัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย สำหรับการเปิดตัวรถกระบะ NEW MG EXTENDER ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่ง ความท้าทายใหม่สำหรับเรา และเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการดำเนินธุรกิจของเอ็มจีในประเทศไทย ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทยอย่างแท้จริง”
“เราตั้งเป้าให้ NEW MG EXTENDER เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าที่กำลังมองหารถสำหรับการใช้งานและใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว โดยจะทำตลาดในกลุ่มรถกระบะแบบตอนครึ่ง หรือ Giant Cab และแบบ 2 ตอน หรือ Double Cab ซึ่งถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ด้วยขนาดมิติตัวถังขนาดใหญ่ จึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกและภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย สมรรถนะที่โดดเด่นจากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรล เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 161 แรงม้า ซึ่งให้ทั้งการประหยัดน้ำมันและประหยัดค่าบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังให้ความสะดวกสบายและมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพถนนด้วยระบบช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน รวมทั้งยังเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถยนต์เอ็มจี”
“สำหรับ NEW MG EXTENDER มี 9 รุ่นย่อยครอบคลุมทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ระบบส่งกำลังแบบธรรมดาและแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD) และแบบ 4 ล้อ (4WD) ให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานได้อย่างลงตัว” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
รูปลักษณ์ภายนอก หลายคนที่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของ NEW MG EXTENDER เพียงแว๊บแรก ต่างพากันบอกว่าเหมือนกับรถกระบะที่วิ่งกันอยู่บนท้องถนนบ้านเราทั้งพี่โต พี่F บ้างก็บอกว่าลอกมารึเปล่า ก๊อปมารึเปล่า ผมคิดว่านั่นอาจจะเกิดจากความคุ้นชินเนื่องจากว่าเราได้เห็นรถรุ่นนั้นๆ กันมาเป็นเวลานานจนภาพของรถเหล่านั้นติดตากลายเป็นภาพจำ แต่หากพิจารณาให้ดี เราจะเห็นความแตกต่างโดยเฉพาะในส่วนของกระจังหน้า ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยลายรังผึ้งดีไซน์ไม่เหมือนใคร ส่วนมิติของตัวถังทาง MG เขากล้าเคลมว่าเป็นรถกระบะที่มีความยาวกระบะท้ายยาวที่สุดในระดับเดียวกันด้วยความยาว 1.9 เมตร บรรทุกได้มากกว่า ในขณะที่ไฟหน้าให้มาแบบโปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Lights ระบบช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น ทำงานควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic
ภายในห้องโดยสาร NEW MG EXTENDER เป็นรถกระบะพันธุ์ใหม่ ที่นอกจากเรื่องขนของแล้วยังให้ความสำคัญกับห้องโดยสาร เพื่อตอบสนองลักษณะการใช้งานของคนไทยให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่าในยุคสมัยนี้รถกระบะนั้นไม่ได้นำมาใช้งานเพียงเพื่อขนของเท่านั้น แต่ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่หลงใหลในรถกระบะจนนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันแทนรถยนต์ 4 ที่นั่ง ก็มีให้เห็นกันจนเป็นเรื่องปกติ ทั้งขับไปเที่ยว ขับไปห้าง ซึ่งลักษณะนิสัยนี้เองที่ทำให้ทาง MG นำมาต่อยอดพัฒนาห้องโดยสารให้มีการเก็บเสียงที่ดีขึ้นด้วยฉนวนกันเสียง 9 จุด ภายในให้ความนุ่มนวลในส่วนที่มีการสัมผัส พร้อมฟังก์ชั่นพื้นฐานที่มีในรถยนต์ก็จัดมาให้ครบถ้วนเช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, หน้าจอสัมผัสขนาดถึง 10 นิ้ว, กุญแจ Smart Key + Push Start และแอร์อัตโนมัติ โดยหากเป็นรุ่น Double Cap เพิ่มระบบปรับเบาะไฟฟ้า เบาะหลังพับได้ และที่ผมชอบเป็่นพิเศษคือแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ช่างเป็นอะไรที่ตอบโจทย์กับสภาพอากาศของไทยอย่างมาก
ระบบ i-SMART ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่มีใน MG ZS ถูกพอร์ตมาใส่ในรถกระบะอย่าง NEW MG EXTENDER นี้ด้วย ทำให้เติมเต็มเรื่องการเป็นรถโดยสารได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เสริมคำกล่าวของผมที่บอกว่ารถกระบะเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ขนของอย่างเดียว แต่ขนคนได้แบบระดับพรีเมี่ยมไม่แพ้รถยนต์เลยล่ะครับ
สำหรับระบบ i-SMART เป็นเอกสิทธิ์ที่มีเฉพาะรถของ MG เท่านั้น สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสาร ตรวจหวย และเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ และการตรวจเช็กรถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
ขุมพลัง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ และแบบธรรมดา 6 จังหวะ ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน โดยในรุ่น Double Cab จะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L
ระบบความปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก ANCAP ออสเตรเลียในระดับ 5 ดาวจากการทดสอบการชน ซึ่งสามารถยืนยันด้านความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี โดยโครงสร้างตัวถังเป็นแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และเสริมความมั่นคงในการขับขี่ พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ รวมถึงกล้องมองภาพ รอบทิศทาง สัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังและด้านหน้า และกล้องมองหลังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่
หลังจากที่เราได้ทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี รูปลักษณ์ภายนอกภายในกันไปแล้ว ต่อไปจะเป็นช่วงของการทดสอบสมรรถนะ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สนาม แบบออนโรด และแบบออฟโรด ซึ่งความรู้สึกหลังจากที่ผมได้สัมผัส NEW MG EXTENDER จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามกันต่อได้เลยครับ
ช่วงทดสอบสนาม On Road : สำหรับการทดสอบนั้นเป็นเพียงการทดสอบระยะสั้นๆ พอหอมปากหอมคอ เนื่องจากระยะเวลาที่จำกัดและมีผู้เข้าร่วมงานเปิดตัวเป็นจำนวนมาก จึงต่องแบ่งสรรปันส่วนกันไปคนละนิดคนละหน่อย ช่วงแรกเป็นการทดสอบอัตราเร่ง เพื่อไต่ระดับขึ้นไปมากกว่า 80 km/hr ผลการทดสอบนั้นอัตราเร่งดูจะยังไม่ค่อยทันใจเท่าไร แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่แบบกดแล้วไม่มาเลย เพียงแต่อาจจะมาช้าหนืดไปสักหน่อย ถัดไปเป็นส่วนของการทดสอบระบบเบรก โดยต่อเนื่องจากช่วงทางตรงที่เร่งมาจนความเร็ว 80 km/hr แล้วแตะเบรกเพื่อให้ ABS ทำงาน ต้องบอกว่าในส่วนนี้ทำงานได้ดี ระยะเบรกสั้น และไม่เสียการทรงตัว ซึ่งส่งผลมาจากระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ทาง MG อัดมาให้ตามหัวข้อที่แล้ว
ช่วงต่อมาเป็นช่วงสลาลม (Slalom) และทางโค้ง ทดสอบการทรงตัวของตัวรถ ซึ่งข้อนี้ก็สามารถสอบผ่านไปได้ดีด้วยระบบ SCS (Stability Control System) รถไม่เสียการควบคุม แม้จะชูตมาด้วยความเร็ว 60 km/hr+ เพื่อเข้าโค้งแต่สามารถบังคับให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ น้ำหนักพวกมาลัยแปรผกผันตามความเร็วควบคุมง่ายไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจเพราะรัศมีโค้งของสนามไม่ได้แคบนัก จึงทำให้ MG EXTENDER สอบผ่านไปได้แบบไม่ยากเย็น ต่อมาจนช่วงสุดท้ายเป็นการทดสอบช่วงล่างด้วยสนามที่นำเชือกมาวางบนพื้นถนน ช่วงที่ขับผ่านยังคงรู้สึกได้ถึงความสะเทือน แต่ไม่ถึงกับแข็งกระด้างจนรำคาญ มั่นใจว่าผู้โดยสารยังคงนั่งได้อย่างสบายก้นแน่นอนไม่มีอะไรให้ติติง
ช่วงทดสอบสนาม Off-Road : เน้นทดสอบเพื่อให้สัมผัสถึงสมรรถนะช่วงล่าง การซับแรงกระแทก การขับเคลื่อนแบบ 4WD เพื่อให้เห็นอัตราทดที่แตกต่างระหว่างระบบ 2H 4H 4L และทดสอบตัวช่วยการขึ้นลงเนิน เริ่มช่วงแรกด้วยด่านเนินสลับ/เนินเอียง การไต่ขึ้นลงโดยใช้ระบบ 4L รีดอัตราเร่งออกมาได้เพียงแค่แตะคันเร่งเบาๆ การถ่วงสมดุลของเพลาล้อก็ไม่มีอะไรให้ติ แค่ใช้การประคองพวงมาลัย นักขับมือใหม่ก็สามารถผ่านด่านนี้ได้สบาย
ด่านถัดมาเป็นการไต่เนินสูงยังคงใช้ระบบ 4L เพื่อเพิมอัตราเร่งให้รอบจัด ความชันประมาณ 35-40 องศา ช่วงแรกของการทดสอบอาจเพราะยังไม่ชินกับแป้นคันเร่ง จึงมีจังหวะที่กดแล้วขึ้นเนินไม่ไหวบ้างล้อฟรีบ้าง เนื่องจากแตะคันเร่งค้าง และแรงเกินไปจนเกิดรอบที่สูญเปล่า แต่พอเริ่มเข้าใจจังหวะตั้งหลักใหม่พร้อมคำแนะนำของ Instructor ค่อยๆ แตะส่งคันเร่ง ก็สามารถไต่ผ่านเนินได้แบบชิลๆ
ส่วนท้ายของสนามเป็นเนินสูงเพื่อทดสอบระบบ HAS และ HDA การขึ้นเนินให้นึกภาพเหมือนตอนขึ้นลานจอดรถห้าง แล้วมีจังหวะรถติดจนเราต้องแตะเบรก พอถอนเท้าออกจากเบรกช่วงนี้จะมีการหน่วง 3 วินาที ไม่ให้รถถอยหลัง รวมถึงเพิ่มแรงส่งในการออกตัวให้ขึ้นเนินง่ายขึ้น นั่นคือระบบ HAS กำลังทำงาน ส่วนจังหวะลงเนินหากเป็นรถปกติจะต้องใช้การเลี้ยงเบรกด้วยตนเอง แต่พอมีระบบ HDC รถจะทำการหน่วงโดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องแตะเบรก โดยจะควบคุมให้อยู่ในความเร็วที่เหมาะสม ซึ่งตัวระบบช่วยขึ้นลงเนินก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไร้ข้อบกพร่อง
สรุป สำหรับ NEW MG EXTENDER รถกระบะรุ่นแรกของค่าย MG สิ่งที่หลายคนคาดหวังจากการเปิดตัวครั้งนี้คงเป็นเรื่องของราคา แต่หลังจากที่ประกาศราคาออกมาต้องบอกว่าผิดคาดไปพอสมควร โดยราคาเริ่มอยู่ที่ 549,000 บาท ไปสุดที่ตัวท๊อปราคา 1,029,000 บาท เกินตัวเลขในใจไปบ้าง
แต่หลังจากที่ได้ทราบรายละเอียด ฟังก์ชั่น ระบบความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใส่เข้ามาในตัวโปรดักส์ จึงไม่แปลกใจว่าทำไม MG ถึงไม่สามารถดัมพ์ราคาให้ถูกกว่านี้ได้ ก็พี่เล่นจัดเต็มมาให้ครบครันขนาดนี้ แถมหน้าตาดีไซน์ก็ดูสวยงามโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ใครอีกด้วย
เอาเป็นว่าหากใครสนใจอยากเห็นหน้าตาตัวเป็นๆ สามารถไปเจอได้ที่งาน Big Motor Sale 2019 ไบเทค บางนา วันที่ 16-25 สิงหาคมนี้ หรือโชว์รูม MG ทั่วประเทศครับ
NEW MG EXTENDER รุ่น GIANT CAB (กระบะตอนครึ่ง)
NEW MG EXTENDER รุ่น DOUBLE CAB (4 ประตู)
ส่วนเรื่องสมรรถนะที่ได้สัมผัสกันไปนั้น ต้องบอกว่าเบื้องต้นถือว่ามี First Impression ที่ดี แต่ด้วยการทดสอบในครั้งนี้มีเวลาให้เหล่าสื่อมวลชนได้ทดสอบกันเพียงเล็กน้อย เสมือนเป็นแค่การ Mini Test เท่านั้น หวังว่าในโอกาสหน้าทาง MG คงจะมีกิจกรรมครั้งใหญ่ที่ให้ได้ทดสอบกันอย่างเต็มรูปแบบต่อไปครับ ซึ่งทาง 9carthai สัญญาว่าจะไม่พลาดโอกาสดีๆ เพื่อไปเก็บข้อมูลมาฝากเพื่อนๆอย่างแน่นอนครับผม ขอบคุณที่ติดตามครับ _/\_
รีวิว Chevrolet Colorado High Country Storm 4×4 เมื่อคำว่าสุด…มิอาจหยุดเราได้
รีวิว All-New Mazda CX-8 มาตรฐานอเนกประสงค์ยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
รีวิว MG Extender สมาร์ทปิกอัพ ตัวถังใหญ่นั่งสบาย อ็อพชั่นมากมายเต็มคัน
รีวิว All-New Toyota Altis Hybrid ยืนหนึ่งเรื่องความประหยัด อ็อพชั่นคุ้มค่าคุ้มราคา
รีวิว All-New Mazda 3 หรูหรา แต่ทรงพลัง อ็อพชั่นอัดแน่นเต็มคัน เทียบชั้นรถยุโรป
รีวิว All-New Chevrolet Captiva 2019 โดดเด่นอย่างมีสไตล์ สะดวกสบายทุกที่นั่ง
รีวิว Mitsubishi Pajero Sport 2019 ปรับลุคใหม่ ใส่อ็อพชั่น คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
รีวิว Honda Accord 2.0 Hybrid TECH เจ้าของค่าตัว 1.799 ล้านบาท มีดีที่ตรงไหน? ไปหาคำตอบกัน
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " GROUT TEST : รีวิว NEW MG EXTENDER สัมผัสแรกกับกระบะพันธุ์ใหม่แห่งค่าย MG "