Group Test : รีวิว Chevrolet Colorado High Country Storm 4×4 เมื่อคำว่าสุด…มิอาจหยุดเราได้
อาจจะไม่หวือหวา หรือมีการอัปเดตเปลี่ยนโฉมใหม่เหมือนค่ายอื่นๆ แต่ Chevrolet ก็ยังคงมั่นใจ กล้าการันตีคุณภาพ ว่ารถกระบะ Colorado ของเขานั้น ไม่เป็นสองรองใครหน้าไหน ล่าสุด เชฟโรเลต ประเทศไทย ได้จัดทริปทดสอบสมรรถนะ และพิสูจน์ความแกร่งของรถกระบะ Chevrolet Colorado ในกิจกรรม Colorado Jungle Drive Experience กับเส้นทางออฟโรดสุดท้าทาย ถ้าไม่เจ๋งจริง รับรองว่าจอดกินข้าวลิงแน่นอน
สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ ทาง เชฟโรเลต ประเทศไทย ได้จัดเตรียมรถกระบะไว้ให้ได้ทดสอบกัน 4 รุ่น ได้แก่ Chevrolet Colorado High Country, Chevrolet Colorado High Country Storm, Chevrolet Colorado Midnight Edition และ Chevrolet Colorado 4th of July Edition ซึ่งทั้งหมดเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4×4 ด้วยกันทั้งสิ้น
โดยการทดสอบครั้งนี้ ทีมงาน 9carthai.com ถูกจัดให้ขับ Chevrolet Colorado High Country Storm กระบะมาดเท่ ที่มาพร้อมชุดแต่งอันดุดันทรงพลัง
เริ่มจากสติ๊กเกอร์บนฝากระโปรงหน้า พร้อมตราสัญลักษณ์รุ่น Colorado High Country, กระจกมองข้าง และมือจับประตูสีดำ พร้อมคาดสติกเกอร์ด้านข้างตัวรถเพิ่มความสปอร์ต, เสริมลุคออฟโรดด้วยชุดบันไดข้าง และการ์ดกันกระแทกประตูสีดำ รวมไปถึงชุดสปอร์ตบาร์สีดำ พร้อมประทับตรา 4×4 บ่งบอกความเป็นที่สุดของสปอร์ตออฟโรด, กันชนหลังสีดำ Anthracite สุดเข้ม และมือจับฝาท้ายสีดำ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีดำ ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ตัวรถดูแข็งแกร่ง และดุดันขึ้นไปอีกระดับ
มิติตัวถัง Chevrolet Colorado High Country Storm
เนื่องจาก Chevrolet Colorado High Country Storm เป็นโมเดลปัจจุบันนั้น ทาง 9carthai.com เคยได้รีวิวเจาะลึกทุกรายละเอียดกันไปแล้ว สำหรับใครที่ต้องการทราบสเปคและข้อมูลทั้งหมด สามารถติดตามได้ที่บทความด้านล่างนี้
รีวิว CHEVROLET COLORADO HIGH COUNTRY STORM 4×4 ขับสนุก ลุยสบาย ความปลอดภัยจัดเต็ม
โดยรายละเอียดและสเปคข้อมูลทั้งหมดของ Chevrolet Colorado นั้น ยังคงเหมือนเดิม ผมจึงขอข้ามไปไม่พูดถึง เพราะทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับทริปนี้ต้องบอกเลยว่า เชฟโรเลต ประเทศไทย ใจถึง กล้านำ Chevrolet Colorado เดิมๆ จากโรงงาน มาลุยในเส้นทางที่ต้องบอกว่าโหดเอาเรื่อง ซึ่งหากสมรรถนะของรถไม่ถึงจริงๆ บอกเลยว่าไม่มีทางที่จะฝ่าไปได้อย่างแน่นอน
เส้นทางในวันแรกนั้น เริ่มด้วยการขับขี่บนถนนหลักจาก จ.เลย มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขา-ลงเขา สลับกับโค้งซ้าย-ขวา ที่ทำให้ Chevrolet Colorado ได้วาดลวดลายกันอย่างเต็มที่
โดยเครื่องยนต์ Duramax ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน Variable Geometry Turbo (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ที่มอบสมรรถนะสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชั่น Manual Mode นั้น ให้การตอบสนองในด้านของอัตราเร่งได้อย่างน่าประทับใจ
ซึ่งถนนส่วนใหญ่นั้นจะเป็นแบบ 2 เลนสวน อัตราเร่งจึงมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างมากในจังหวะเร่งแซง โดยสิ่งหนึ่งที่ Chevrolet Colorado ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างโดดเด่นก็คือ ในเรื่องของอัตราทด และจังหวะการเข้าเกียร์ที่แม่นยำ โดยในจังหวะ Kick Down หรือต้องการใช้อัตราเร่งนั้น เกียร์จะถูกเชนจ์ลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกรอบเครื่องยนต์ได้ทันอกทันใจ ไม่มีรอรอบหรือเร่งไม่ขึ้น ทำให้จังหวะแซงทำได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัย
รวมไปถึงในส่วนของระบบช่วงล่าง ที่ถือว่าเกาะถนนใช้ได้ (แม้เข้าโค้งหนักๆ ยางจะมีอาการหอนบ้างก็ตาม) แต่ก็ยังสามารถควบคุมรถได้อย่างอยู่มือ ไม่เป๋ ไม่ดิ้นจนเกินงาม
เมื่อเดินทางมาถึงเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทางทีมงาน เชฟโรเลต ประเทศไทย ได้เตรียมเส้นทางออฟโรดสุดท้าทายไว้ให้ได้ทดสอบกัน กับเส้นทางขึ้นผาตัด ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน จ.เพชรบูรณ์ โดยจะมีเนินชันๆ ที่เป็นไฮไลท์ชื่อว่า “เนิน VIP” ซึ่งถ้ากำลังเครื่องยนต์ไม่ถึง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไม่มี รับรองเลยว่าไม่สามารถพิชิตยอดผาตัดได้อย่างแน่นอน แต่ทว่ากระบะ Colorado เดิมๆ จากโรงงาน ที่ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ช่วยเหลือใดๆ ผู้โดยสารนั่ง 3-4 ท่าน/คัน และกระเป๋าสัมภาระเต็มคันรถ สามารถไต่ขึ้นได้อย่างสบายๆ
พูดไปอาจฟังดูเกินจริง แต่ทั้งหมดนั้น Chevrolet Colorado ได้พิสูจน์แล้วว่า สมรรถนะของการขับขี่ในเส้นทางออฟโรดนั้น เขาไม่เป็นสองรองใครจริงๆ ซึ่งระบบหลักๆ ที่ทำให้ฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ ก็คงต้องยกความดีความชอบให้กับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4×4, ขุมพลังเครื่องยนต์, ระบบช่วงล่าง รวมไปถึงอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ที่คอยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด อย่าง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC), ระบบป้องกันการไหลของรถบนทางลาดชัน (HSA) และ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
ซึ่งการมีระบบช่วยเหลือต่างๆ นั้น ทำให้ผู้ขับ (แม้จะไม่มีประสบการณ์การขับขี่ออฟโรดมาเลยก็ตาม) สามารถพิชิตยอดผาตัดได้อย่างสบายๆ เพียงแค่คุณรู้จักไลน์ที่ปลอดภัย และขับขี่อย่างระมัดระวัง เพียงเท่านี้ ระบบต่างๆ และสมรรถนะของ Chevrolet Colorado ก็สามารถพาคุณฟันฝ่าทุกอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย
ขาขึ้นว่ายากแล้ว ขาลงผาตัดนี่ เชฟโรเลต ประเทศไทย ใจถึงพึ่งได้อีกครั้ง เพราะนำขบวน Chevrolet Colorado ลงผาตัดกันในตอนมืดกันเลยทีเดียว ซึ่งพระเอกของงานนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) เพียงกดปุ่มที่บริเวณคอนโซลกลาง ตัวรถจะจัดการควบคุมความเร็วขณะลงเขาโดยการเบรกให้อัตโนมัติ (โดยความเร็วสูงสุดจะไม่เกินค่าที่ถูกกำหนดไว้) ผู้ขับเพียงแค่กำหนดไลน์ที่จะไปให้ดีเท่านั้นก็พอ และอีกหนึ่งระบบก็คือ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ที่ช่วยกระจายแรงเบรกให้เหมาะสมทั้ง 4 ล้อ เพื่อความปลอดภัย
ส่วนวันที่ 2 นั้น เปลี่ยนอารมณ์มาเป็นสปอร์ตออฟโรดกันบ้าง กับเส้นทางในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่ได้ชื่อว่าเป็นป่าซาฟารีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย โดยการทดสอบครั้งนี้ เป็นการขับขี่แบบใช้ความเร็วในเส้นทางออฟโรด เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของระบบช่วงล่าง โดย Chevrolet Colorado นั้น มอบการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ และเอาอยู่ในทุกสถานการณ์ พวงมาลัยมีความเฉียบคม และแม่นยำ การควบคุมรถต่างๆ สามารถทำได้อย่างคล่องตัว
และนี่ก็คือบทพิสูจน์ความแกร่งของรถกระบะ Chevrolet Colorado ที่สามารถพาคุณไปได้ทุกที่อย่างที่ใจคุณต้องการ สำหรับใครที่สนใจ Chevrolet Colorado High Country มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,068,000 บาท และสำหรับ Chevrolet Colorado High Country Storm มีราคาจำหน่ายที่ 1,098,000 บาท
ทั้งนี้ รถกระบะ Chevrolet Colorado ทุกรุ่นผลิตขึ้นที่ศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง ภายใต้มาตรฐานการผลิตคุณภาพระดับโลก เริ่มตั้งแต่การสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิต (BIQ: Built-In-Quality) และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อส่งมอบรถยนต์คุณภาพสูงสู่ทุกท้องถนน ปัจจุบันได้ผลิตรถยนต์กว่า 1.35 ล้านคัน นับตั้งแต่ปี 2543
รีวิว All-New Mazda CX-8 มาตรฐานอเนกประสงค์ยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
รีวิว MG Extender สมาร์ทปิกอัพ ตัวถังใหญ่นั่งสบาย อ็อพชั่นมากมายเต็มคัน
รีวิว All-New Toyota Altis Hybrid ยืนหนึ่งเรื่องความประหยัด อ็อพชั่นคุ้มค่าคุ้มราคา
รีวิว All-New Mazda 3 หรูหรา แต่ทรงพลัง อ็อพชั่นอัดแน่นเต็มคัน เทียบชั้นรถยุโรป
รีวิว All-New Chevrolet Captiva 2019 โดดเด่นอย่างมีสไตล์ สะดวกสบายทุกที่นั่ง
รีวิว Mitsubishi Pajero Sport 2019 ปรับลุคใหม่ ใส่อ็อพชั่น คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
รีวิว NEW MG EXTENDER สัมผัสแรกกับกระบะพันธุ์ใหม่แห่งค่าย MG
รีวิว Honda Accord 2.0 Hybrid TECH เจ้าของค่าตัว 1.799 ล้านบาท มีดีที่ตรงไหน? ไปหาคำตอบกัน
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Group Test : รีวิว Chevrolet Colorado High Country Storm 4×4 เมื่อคำว่าสุด…มิอาจหยุดเราได้ "