รีวิว Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS เครื่องแรงใช้ได้ แต่ราคาแรงกว่า แล้วมันน่าซื้อไหม?

รีวิว Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS สไตล์ยุค 60

เมื่อความคลาสสิคของ Vespa ที่ยังคงเท่ไม่เปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แต่ได้มีการพัฒนาเทคโลโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น นุ่มนวลขึ้น หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น

แต่ต้องยอมรับว่าราคาที่สูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ในบ้านเราอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า ซื้อมาทำไม แล้วจะเท่แค่ไหน วันนี้ 9Carthai จะพาเพื่อน ๆ ไปชมกันครับ

---

 Vespa SPRINT S 150 ราคา

Vespa SPRINT 150 i-Get ABS 136,900.

Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS 140,900. (รุ่นที่นำมารีวิว)

Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS (TFT) 153,900.

---

ความแตกต่างรุ่น SPRINT กับรุ่น SPRINT S 

SPRINT S 150 I-GET ABS จะมีเพิ่มการตกแต่งด้วยสีแดงและสีดำ บริเวณบังแตรเพิ่มเติม
– ตกแต่งสติกเกอร์กราฟิกสีแดง-สีดำข้างตัวรถ
– เบาะมีการปั้มลอนใหม่
– แผ่นเพลทประจำรุ่นประดับโลโก้ S Collection

ส่วน VESPA SPRINT S 150 I-GET ABS (TFT) นำหน้าจอ TFT มาอยู่ในรุ่น Sprint โดยจะแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนได้

---

รายละเอียดรอบคัน

ด้านหน้าพบกับไฟ LED ทรง 6 เหลี่ยมแยกเป็นไฟใหญ่อยู่ชั้นบนและไฟสูงอยู่ชั้นล่าง ล้อมด้วยกรอบสีดำเงาเพิ่มความสปอร์ตให้ตัวรถ นอกจากนี้ยังมีไฟ DRL แบบ LED เป็นจุด 3 จุด อยู่ในโคมเดียวกันกับไฟเลี้ยว เสียดายที่ไฟเลี้ยวยังเป็นหลอดไส้

ชุดบังลมด้านหน้าเก็บขอบด้วยสีดำเงา มีการติดตราโรงงาน PIAGGIO และ Vespa ไว้อย่างสวยงาม เนคไทตรงกลางยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้ดี โดยในรุ่นนี้ตกแต่งช่องบังแตรมาเป็นสีแดงสด

กระจกมองหลังเป็นทรง 3 เหลี่ยมมน มุมแหลมยื่นออกไปด้านข้างเยอะ เวลาขับขี่มุดช่องการจราจรต้องระวัง ส่วนมุมมองภาพนั้นบอกเลยว่าดียอดเยี่ยม ดูสวยงามมองชัดกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไป

ด้านซ้าย มองจากด้านข้างเห็นรูปทรงโป่งหลังที่สวยงาม มีสติ๊กเกอร์ 2 ชั้นเชื่อมมาทั้งคัน ด้านท้ายมีตรา Vespa ตัวนูนสีโครเมียม

ด้านขวามีตรารุ่น Sprint ตัวนูน และที่พิเศษคือช่วงล่างหน้าแขนเดี่ยว ทำให้ด้านขวาโชว์ลายล้อได้เต็มที่ มีแถบสติ๊กเกอร์เพิ่มลูกเล่นมาอีกเล็กน้อย

ด้านท้ายพบกับไฟท้ายแบบ LED เป็นทรงกลม อยู่ในโคมเหลี่ยมล้อมด้วยกรอบสีดำเงา มีไฟเลี้ยวแยกออกมา 2 ข้างเป็นหลอดไส้ฮาโลเจน

มือจับกันตกสีดำเงาขนาดค่อนข้างเล็ก ครอบจุดยึดด้วยแผ่นพลาสติกสีโครเมียมปั๊มตรา Vespa

---

มุมมองผู้ขับขี่

ประกับแฮนด์ ตกแต่งด้วยครอบพลาสติกสีโครเมียม ทางซ้ายมีปุ่มไฟสูงพร้อมไฟ pass ในตัว ไฟเลี้ยว และแตร ทางขวาปุ่มปรับเมนูบนหน้าจอ และปุ่มสตาร์ท

โดยตำแหน่งการจัดวางปุ่มทำออกมาได้ดี กดสะดวก ไม่ต้องเอื้อมมากเหมือน Vespa LX 125 i-Get

ปลอกแฮนด์ปั๊มลายพิเศษ กระชับถนัดมือดี ก้านเบรกขนาดใหญ่สีเงิน

ด้านบนมีการดีไซน์ชิ้นงานคล้ายปีกตัดลมด้านหน้ามาให้เป็นสีดำแบบด้าน งอนเชิดขึ้น ทำให้ด้านหน้าดูมีมิติ ไม่เรียบจนเกินไป

เรือนไมล์แบบผสมเป็นเข็มบอกความเร็วด้านบน มีไฟสถานะ ABS และเครื่องยนต์ ด้านล่างเป็นจอดิจิตอลขนาดเล็ก แสดงระดับน้ำมันคงเหลือ (1 ขีด = 1 ลิตร) ทริปรวม จับทริป A ทริป B และนาฬิกา

โดยจะมีไฟสถานะเป็นแถบ 2 ข้างซ้ายขวาคอยแจ้งเตือนไฟสูง น้ำมันเครื่อง ไฟเลี้ยว และเตือนน้ำมันใกล้หมด

ถัดลงมาเป็นช่องเก็บของด้านหน้า สามารถเปิดได้จากการบิดกุญแจไปที่ ON แล้วกดเบ้ากุญแจเข้าไป 1 ครั้ง ฝาก็จะเปิดออก ดูแล้วก็เหมือนจะสะดวกดี แต่หากมีพวงกุญแจห้อยไว้จะทำให้เวลาปิดทำได้ช้ากว่าปกติ เพราะจะไปชนกับฝาช่องเก็บของ

ที่ฝาช่องเก็บของด้านหน้าตกแต่งด้วยอักษร S 150 ตัวนูนสวยงาม

เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับช่องเก็บของทางด้านซ้าย มีพื้นที่มากพอสำหรับโทรศัพท์มือถือ มีช่องจ่ายไฟ USB type A และมีสลักเปิดเบาะแบบแมนนวลอยู่ติดกัน (เผื่อในกรณีแบตเตอร์รี่หมดและไม่สามารถเปิดเบาะแบบไฟฟ้าได้)

ส่วนช่องทางขวาเป็นอุปกรณ์ชุดไฟฟ้าต่าง ๆ ของตัวรถ ไม่สามารถเก็บของได้

---

ที่เก็บของอื่น ๆ และการเติมน้ำมัน

บริเวณด้านหน้าเบาะมีตะขอแขวนของที่สามารถดึงออกมาใช้งานได้ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้ได้สะดวกดี วัสดุเป็นพลาสติกไม่ควรแขวนสัมภาระที่หนักเกิน 1 กก.

ที่เก็บของใต้เบาะเปิดได้แบบไฟฟ้าจากปุ่มรูปตัวล็อคกุญแจทางด้านหน้า หรือเปิดจากสลักภายในช่องเก็บของ

ภายในพบกับช่องเก็บของขนาดกว้างปานกลาง แต่ค่อนข้างลึก มีแผ่นรองด้านล่างมาให้เพื่อกันกระแทกและลดความร้อนภายในช่องเก็บของ โดยเอกลักษณ์ของ Scooter อิตาลีคือสามารถยกช่องเก็บของออกมาได้

เมื่อยกออกมาจะพบกับเครื่องยนต์ ท่อดักอากาศที่เชื่อมมาจากหน้าเบาะ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์อื่น ๆ มีข้อดีคือทำให้ซ่อมบำรุงได้ง่าย

โดยช่องเก็บของใต้เบาะนี้เก็บหมวกกันน็อคแบบ Open face ได้ 1 ใบ แม้ว่าจะมีแผ่นกันร้อน/กันกระแทกมาให้ แต่ยังคงร้อนมากอยู่ดี ไม่ควรเก็บของที่ไม่ทนร้อนไว้ใต้เบาะขณะขับขี่

ที่บานพับเบาะมีข้อดีคือ ใส่สปริงทำให้เวลาเปิดเบาะจะช่วยดีดขึ้นเล็กน้อย และค้างไว้ไม่พับปิดลงมาโดยที่ไม่ตั้งใจ

การเติมน้ำมันทำได้โดยการเปิดเบาะ แล้วบิดฝาเกลียวพลาสติกด้วยมือ จะพบกับถังน้ำมันความจุ 7 ลิตร ซึ่งมีข้อควรระวังคือ ต้องคำนวณปริมาณน้ำมันที่จะเติมให้พอดีจากการสังเกตที่หน้าจอรถ และใส่หัวจ่ายน้ำมันให้สุดก่อนเริ่มเติม เพื่อป้องกันน้ำมันล้นหรือหกออกมา

---

ระบบเบรกและช่วงล่าง

ด้านหน้ามากับดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 200 มม. ทำงานคู่กับลูกสูบ 2 พอต ที่สำคัญยังมีสายเบรกถักและระบบ ABS ช่วยให้ชะลอความเร็วได้มั่นใจยิ่งขึ้น

ช่วงล่างด้านหน้าแบบโช้คอัพไฮดรอลิคแขนเดี่ยว ระยะยุบ 78 มม. สปริงโช้คสีแดงตัดกับสีของตัวรถได้ดี และตกแต่งด้วยครอบแขนโช้คสีโครเมียมปั๊มตรา Vespa

ด้านหลังเป็นดรัมเบรก ไม่มีระบบ ABS พร้อมกับโช้คหลังเดี่ยวระยะยุบ 70 มม. สามารถปรับพรีโหลดได้ 4 ระดับ 

ยางหน้าขนาด 110/70-12  ยางหลัง 120/70-12 แบบ tubeless โดยสังเกตว่าที่ล้อจะมีการตกแต่งณุปตัว S สีแดงไว้ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง

---

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ i-Get 1 สูบ 4 จังหวะ 3 วาล์ว SOHC ปริมาตรกระบอกสูบจริง 154.8 ซีซี ส่งกำลังแบบ CVT ให้กำลัง 9.5 กิโลวัตต์ ที่ 7,750 รอบ/นาที แรงบิด 12.8 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที ถือเป็นตัวเลขที่ดีเลยทีเดียว

---

ท่านั่งการขับขี่

เบาะมีความสูง 790 มม. ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับ Scooter ทั่วไปในบ้านเรา ผู้ทดสอบสูง 170 ซม. นั่งช่วงกลางเบาะส้นเท้าลอย ต้องเขย่งชัดเจน ยังดีที่ปาดเว้าหว่างขามาค่อนข้างเยอะ และเว้าที่พักเท้าหลบช่วงขาด้วย ทำให้ลงขาได้ถนัดมากขึ้น

พักเท้าไม่ได้กว้างมาก แต่มีพื้นที่ด้านยาวให้ขยับขาได้เยอะ มียางกันลื่นใช้งานได้ดี

เบาะนั่งเป็นแบบตอนเดียว แบ่งระดับตรงกลางเล็กน้อย ความนุ่ม-แข็งอยู่ระดับปานกลางไม่ถึงกับสบายมาก

เบาะผู้ซ้อนกว้างกำลังดี แต่สั้นมาก ทำให้เวลานั่งต้องไปเบียดกับผู้ขับขี่ และที่วางเท้าคนซ้อนเล็กและอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สบาย ต้องบิดเท้าเข้าไป เหมือนเป็นรถที่ไม่ได้เน้นการซ้อน

---

การขับขี่

ในส่วนของเครื่อง 150 i-Get 3 Valve ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าให้ความแรงดีตามคลาส โดยจะเน้นแรงบิดที่ทำให้ขับขี่ในช่วงความเร็วต้น – กลางได้สนุก เร่งแซงทันใจ อัตราเร่งมากกว่าตัว 125 แบบรู้สึกชัดเจน

ที่โดดเด่นที่สุดคือ ความนิ่ง สมูท เรียบเนียนไม่สั่น ทำออกมาได้ดีกว่าคลาส 150-160 ของค่ายญี่ปุ่นชัดเจน ทำให้เวลาขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย ไปเรื่อย ๆ แบบไม่เร่งรีบ ค่อย ๆ ใช้เวลาไปกับมอเตอร์ไซต์ของเรา รู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก ต้องไปลองเอง

Top Speed ทำได้ประมาณ 110 กม./ชม. ทั้งนี้อัตราเร่งจะเริ่มลดลงตั้งแต่ 90 กม./ชม. ขึ้นไป เรียกได้ว่าเป็นรถที่ไม่เน้นขี่เร็วเท่าไหร่นัก เหมาะกับการขี่เรื่อย ๆ มากกว่า

อัตราบริโภคน้ำมันจากการขับขี่ในเมืองความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. บิดเร่งแซงบ่อยครั้ง ได้อยู่ที่ 30 – 35 กม./ลิตร ถือว่าไม่เน้นประหยัดน้ำมันเท่าไหร่นัก

ท่าทางการขับขี่ค่อนข้างสบายแม้ว่าเบาะจะไม่ได้นุ่มก็ตาม แต่ระยะวางขาค่อนข้างหย่อนไปด้านล่างเยอะ (เพราะเบาะสูง) และเลื่อนเท้าไปด้านหน้า-หลังได้มาก ระยะแฮนด์กำลังดีไม่ต้องเอื้อม ควบคุมได้ง่ายทั้งการขับขี่ทั่วไปและหักเลี้ยวที่แคบ

มีจุดสังเกตอย่างหนึ่งคือถ้าผู้ขับขี่ต้องการนั่งให้สบาย ควรนั่งไปด้านหลังให้สุดเบาะผู้ขับขี่ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้าขับขี่คนเดียว แต่ถ้ามีคนซ้อนอาจทำให้ต้องนั่งเบียดกัน เพราะเบาะคนซ้อนสั้นมากจริง ๆ

แม้ว่าเบาะคนซ้อนจะนิ่มแต่ก็ค่อนข้างสั้น และนอกจากพักเท้าคนซ้อนจะใช้งานไม่ถนัดแล้ว เวลาขับขี่จริงช่วงรถติด ความร้อนจากเครื่องจะส่งผ่านมายังตัวถังที่ขาคนซ้อนแนบอยู่ อาจจะไม่ได้ร้อนจนทนไม่ได้ แต่ก็รู้สึกไม่สบาย

ความรู้สึกช่วงล่าง ยังคงความแข็งแบบเฟิร์มไว้ ซับแรงได้ประมาณนึงไม่ถึงกับกระด้าง แต่ก็ไม่ใช่ช่วงล่างที่เน้นความสบาย ถ้าหากขับผ่านถนนที่ขรุขระ จะรู้สึกแข็งในหลุมแรก ๆ แต่หลังจากนั้นจะรู้สึกเหมือนช่วงล่างสามารถให้ตัวซับแรงได้มากขึ้นหลังจากกระแทกครั้งแรก

ความรู้สึกการเบรก เริ่มจากทางด้านหน้า ก้านเบรกแข็ง ทำให้หากต้องการเบรกให้อยู่ต้องออกแรงเบรกเยอะกว่าปกติ ถ้าขับเร็วและต้องเบรกหนักบ่อย ๆ ค่อนข้างเจ็บนิ้วพอสมควร

ส่วนทางด้านหลังก้านเบรกก็แข็งเช่นเดียวกัน แถมยังรู้สึกเบรกไม่ค่อยอยู่ อาจเป็นเพราะรถยังไม่พ้นรันอิน ใครซื้อไปช่วงแรกแนะนำให้เผื่อระยะเบรกเยอะ ๆ ไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่า

การขับขี่ช่วงรถติด หากปรับตัวกับความสูงเบาะได้แล้วก็ถือว่าควบคุมรถได้ง่าย ทั้งการมุดทางตรงงและหักเลี้ยว แต่จะติดนิดหน่อยคือกระจกที่ยื่นออกไปด้านข้างเยอะ ต้องระวังมากกระจกแบบกลมในรุ่นอื่น ๆ ของ Vespa

---

เทียบกับรุ่นอื่น ๆ เป็นอย่างไร

Yamaha Aerox 155 ราคา 69,900 – 80,900 บาท ในรุ่น Top ได้กุญแจ Keyless และเบรก ABS เครื่องยนต์คลาส 155 ซีซีมาพร้อมกับ วาล์ว VVA เครื่องยนต์แรงกว่า ประหยัดน้ำมันกว่าเล็กน้อย

ดูข้อมูล Yamaha Aerox

 

Yamaha Nmax 155 ราคา 95,000 – 98,500 บาท ได้เบรก ABS และดิสก์เบรกทั้ง 2 ล้อ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ในรุ่น Top ได้กุญแจ Keyless เครื่องยนต์คลาส 155 ซีซีมาพร้อมกับ วาล์ว VVA เครื่องยนต์แรงกว่า ประหยัดน้ำมันกว่าเล็กน้อย

มีระบบการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ Y-Connect และมีระบบ Traction control เพิ่มความปลอดภัย เมื่อขับขี่จริงถือเป็นรถที่สบาย ควบคุมง่าย ที่เก็บของเยอะ ใช้งานในเมืองหรือขับทางไกลก็ดี

อ่านรีวิว Yamaha Nmax

 

Honda Click160 ราคา63,500 – 69,900 บาท ได้เครื่องยนต์ที่แรงกว่า มีเบรก ABS และกุญแจ Keyless ประหยัดน้ำมัน 45 – 47 กม./ลิตร มีหน้าจอแบบ Full Digital และไฟรอบคันแบบ Full LED เน้นใช้งาน ค่าอะไหล่ถูกกว่า

อ่านรีวิว Click 160

 

Honda PCX 160 ราคา 87,400 – 93,400 บาท นอกจากกุญแจ Keyless ความประหยัดน้ำมัน เบรก ABS และระบบ HSTC แล้ว สิ่งที่ทำให้มีผู้ใช้งานรถนุ่นนี้อย่างมากคืออะไหล่และของแต่งราคาถูก ซ่อมง่ายหาง่าย และมีความคุ้มค่าในการใช้งาน

ดูข้อมูล Honda PCX 160

 

Lambretta V200 (ประกอบไทย) ราคา 107,000 บาทแม้ว่าจะแพงกว่าเล็กน้อย แต่ก็ได้เครื่องยนต์ที่แรงกว่ามากอยู่ระดับนึง แถมได้ความเท่จากแบรนด์อิตาลีไม่แพ้กัน

ดูข้อมูล Lambretta V200

 

Lambretta X300 ราคา 154,900 บาท แพงกว่าเล็กน้อยแต่ได้เครื่องยนต์ที่มีความแรงมากกว่า เนื่องจากประกอบในประเทศไทยทำให้ค่อนข้างคุ้มค่ากับเครื่องยนต์ที่ได้

ดูข้อมูล Lambretta X300

---

สรุป

Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS ดีไซน์มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ความเป็น  Vespa แสดงความขลังทำให้ดูเท่ คลาสสิคแบบต้นฉบับแท้ ๆ ไม่ได้ไปลอกใครมา ด้วยตัวรถและท่าทางการขับขี่ทำให้รู้สึกแตกต่างจากรถตลาดทั่วไป เท่กว่าจริง ๆ

ในส่วนของสมรรถนะที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีคือเครื่องยนต์ ความแรงเหมาะสมกับคลาส แม้จะไม่เน้นความประหยัดน้ำมัน แต่เครื่องค่อนข้างสมูท เรียบเนียนทุกย่านความเร็วที่ทำได้ โดยเหมาะกับการขับขี่ไม่เกิน 90 กม./ชม.

ช่วงล่างและระบบเบรกเดิม ๆ หากพ้นรันอินก็ใช้งานได้ทั่วไป แต่ถ้าหากต้องการความสบายและมั่นใจในการเบรกมากขึ้น ก็หาของแต่งมารอไว้ได้เลย

ข้อดี / จุดเด่น

• เท่
• เครื่องยนต์สมูท นุ่มนวล
• ที่เก็บของใต้เบาะถอดออกได้

ข้อเสีย / ข้อสังเกต

• ราคาสูงเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน
• การดูแลรักษา ค่าบำรุง
• พักเท้าคนซ้อนไม่สบาย
• เบรกยังทำได้ไม่มั่นใจเท่าที่ควร

---

ดูข้อมูล และตารางผ่อนเพิ่มเติมคลิก https://www.9carthai.com/new-vespa-sprint-150-price/

---

อ่านรีวิวรถใหม่ ที่น่าสนใจ…
รีวิว Vespa LX 125 i-Get รถที่ขายดีที่สุดของ Vespa แต่ราคาราคาเฉียดแสน คุ้มหรือไม่?
รีวิว Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS เครื่องแรงใช้ได้ แต่ราคาแรงกว่า แล้วมันน่าซื้อไหม?
รีวิว Vespa Primavera Color Vibe 150 i-Get ABS ขับสนุกจริง จนท้าให้ลอง
รีวิว Honda Scoopy Minions Limited Edition ลายใหม่สุดคูล ใช้งานได้คล่องตัวและประหยัดน้ำมัน
รีวิว Yamaha Grand Filano เท่ห์กว่าเดิม มาพร้อมสีใหม่
รีวิว Yamaha Fazzio 2023 เครื่องไฮบริด แรงพอได้ ประหยัดดี
รีวิว Honda LEAD 125 ตัวใหม่ เน้นใช้งาน หน้าตาพิมพ์นิยม
รีวิว Honda Click 160 นำหน้าอย่างจ่าฝูง
รีวิว Yamaha NMAX Connected 2023 เบาะนุ่ม แรงกำลังดี คันเดียวจบทุกเส้นทาง
รีวิว Yamaha Xmax Connected 2023 ขับมันส์ นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มหนึบมาก!!

---