TEST DRIVE : รีวิว TOYOTA FORTUNER 2.4L 4WD SIGMA4 ขับสนุก ลุยสบาย ในราคาที่คุ้มค่า

โพสโดย : rapee / วันที่ : 7 เมษายน 2018

TEST DRIVE : รีวิว TOYOTA FORTUNER 2.4L 4WD SIGMA4 ขับสนุก ลุยสบาย ในราคาที่คุ้มค่า

001

หลังจากช่วงเดือนกรกฎาคม 2015 โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถอเนกประสงค์ PPV รุ่นใหม่ All New Fortuner เจเนอเรชั่น 2 ออกมา ก็สร้างกระแสให้กับตลาดรถกลุ่มนี้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง ถัดมาในช่วงเดือนสิงหาคม 2017 โตโยต้าตอกย้ำความสำเร็จต่อเนื่อง ด้วยการส่ง FORTUNER รุ่นปรับปรุงใหม่สู่ตลาด โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังคงใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรเช่นเดิม แต่มีการเพิ่มเติมรุ่นเครื่องยนต์ ดีเซล 2.4 ลิตร 4WD ที่มาพร้อมระบบ Sigma4 ทำตลาดในราคา 1,499,000 บาท เป็นอีกหนึ่งทางเลือกและเติมเต็มช่องว่างของตลาดระหว่างเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร และเบนซิน 2.7 ลิตร เสริมให้แก่ผู้สนใจยานยนต์อเนกประสงค์แบบ PPV

003

รูปลักษณ์ภายนอกปรับเปลี่ยนเล็กน้อย

สำหรับแนวทางการดีไซน์ของ FORTUNER รุ่นปรับปรุงใหม่ ภาพรวมไม่มีอะไรแปลกตาไปมากนัก เพราะทุกอย่างแทบจะยึดรูปแบบเดิมเกือบทั้งสิ้น โดยในส่วนของรายละเอียดความเปลี่ยนแปลง จุดหลักๆ ที่พอสังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ

การเปลี่ยนชุดไฟตัดหมอกจากหลอดธรรมดาเป็นแบบ LED ทั้งนี้ทางทีมวิศวกรให้เหตุผลก็เพื่อช่วยเพิ่มความสว่างไสวและเห็นได้ชัดเจนขึ้นในระยะไกล (ของเดิมนับว่าจ้ามากอยู่แล้ว) ส่วนไฟหน้ายังคงรูปแบบเดิม โปรเจคเตอร์แบบ Bi-Beam LED และเชื่อได้ว่าหลายคนที่ใช้รถใช้ถนนเป็นประจำจะเห็นได้ว่าลำแสงนั้นสว่างจ้ามากแค่ไหน บางคนที่มองผ่านกระจกหลังยังนึกว่าเปิดไฟสูงใส่ อย่างไรก็ดีหลังจากมีกลุ่มผู้ใช้รถต่างคอมเม้นท์มากมายบนโลกโซเชียล ทีมวิศวกรโตโยต้าก็ไม่นิ่งนอนใจ มีการนำข้อมูลเหล่านี้มาทบทวน พร้อมกับเผยว่า รุ่นปรับปรุงใหม่นี้มีการปรับระดับความสูงความลำแสงไฟให้ต่ำกว่าเดิมแล้ว อีกหนึ่งจุดที่แตกต่างจากรุ่นเดิมคือ บันไดข้างเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน สำหรับไฟท้ายเป็น LED แบบ Light Guiding สีแดง-ใส ส่วนยางเป็นขนาด 265/60R18

005

009

ห้องโดยสารเสริมเติมเต็มความหรู เบาะปรับไฟฟ้าฝั่งผู้โดยสาร

ด้านภายในห้องโดยสารได้เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ด้วยเบาะคู่หน้าที่สามารถปรับเลื่อนตำแหน่งสูง-ต่ำ เลื่อน-เอนได้ 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า ขณะที่เบาะนั่งถูกหุ้มด้วยหนังและวัสดุสังเคราะห์สีน้ำตาลเข้ม (2.8 4WD สีครีมชามัวส์) ขับทางไกลได้สบายยิ่งขึ้นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ขณะที่มาตรวัดคงสไตล์เดิมแบบเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi-Information Display)-หน้าจอสี TFT ซึ่งสามารถมองเห็นทุกรายละเอียดได้ค่อนข้างคมชัด อีกทั้งยังสามารถปรับตั้งค่าการทำงานของระบบต่างๆ พร้อมแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ได้ง่ายๆ

013 016 019

บริเวณคอนโซลกลางมีระบบนำทาง (Navigator) พร้อมเครื่องเล่น DVD และจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ Bluetooth ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ-ควบคุมแรงลมอัตโนมัติ ช่วยรักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เหมาะสม ถัดลงมาด้านล่างเป็นช่องต่ออุปกรณ์ USB, iPOD และ AUX รองรับการเชื่อมต่อความบันเทิงได้อย่างหลากหลาย ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

นอกจากนี้เพิ่มความสะดวกด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่หลังพวงมาลัย (Paddle Shift) ส่วนบริเวณเพดานในตำแหน่งที่นั่งแถว 2 และ 3 มีระบบปรับแรงลมอัตโนมัติแบบ 2 ตอน พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสไฟฟ้า DC 12 โวลต์ และกระแสไฟฟ้า AC 220 โวลต์ (กระแสไฟ 220 โวลต์ รองรับถึง 100 วัตต์) ด้านหลังพนักวางแขนกลางของเบาะคู่หน้า ส่วนเบาะแถวสามสามารถแบ่งส่วน 50/50 ปรับเอนและพับเก็บได้ และประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ

021

เบาะแถว 2 มีพื้นที่กว้าง หมดห่วงเรื่องหัวเข่าและขาจะติด

026

ส่วนเบาะแถวสามสามารถแบ่งส่วน 50/50 ปรับเอนและพับเก็บได้

023

มิติตัวรถ มิติภายนอก ยาว X กว้าง X สูง = 4,795 X 1,855 X 1,835 มม. ความยาวช่วงล้อ 2,750 มม. ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,545/1,550 มม. ระดับต่ำสุดจากพื้น 193 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 ม. มิติภายใน ยาว X กว้าง X สูง = 2,487 X 1,478  X 1,103 มม.

027

เครื่องยนต์ 2.4 ไม่เปลี่ยนแปลงเน้นความแรงสไตล์เดิม

FORTUNER 2.4 ลิตร SIGMA4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับเครื่องยนต์คอมมอนเรล 2GD-FTV 4 สูบ 2,393 ซีซี VN Turbo 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดแบบ Flat torque 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift

IMG_7285-212

โดยการขับคงรูปแบบการใช้งานจริงเหมือนในชีวิตประจำวันคือ เปิดแอร์ปกติ ขับใกล้-ไกล เผชิญรถติด-โล่ง ซึ่งเส้นทางที่ใช้เริ่มจากเขตเมืองกรุงเทพฯ ผ่านจราจรที่แออัด จากนั้นขับยาวถนนโล่งมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครนายก รวมระยะทางกว่า 150 กม. โดยช่วงแรกสามารถใช้ความเร็วได้ประมาณ 60-90 กม./ชม. สลับไปมา มีเบรกชะลอและเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ตามสภาพจราจรที่ค่อนข้างคับคั่ง ทั้งรถเล็กใหญ่และจักรยานยนต์ ซึ่งด้วยขนาดมิติตัวรถแน่นอนว่าหลายคนมักจะมองว่า ในเมืองแบบนี้คงจะไม่คล่องตัวเท่าไรนัก แต่หลังจากได้สัมผัสกันจริงๆ ก็รู้สึกได้ชัดว่าขับได้ง่ายและทัศนะวิสัยดี ทั้งจังหวะโยกซ้าย-ขวา เพื่อเบี่ยงเลนเลี่ยงช่องทางที่ติดขัด สามารถทำได้โดยไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา ตรงกันข้ามสำหรับสุภาพสตรีก็อาจจะรู้สึกว่าพวงมาลัยหนักมือไปสักนิด แต่เชื่อว่าถ้าใช้ไปสักระยะก็น่าจะปรับตัวให้คุ้นเคยได้

IMG_7259

เมื่อออกจากนอกเมืองโดยใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก ถนนเริ่มโล่งสามารถขยับเพิ่มความเร็วได้มากขึ้น รวมทั้งยังได้ทดสอบทั้งการคอนโทรลรถ ระบบเบรก ระบบช่วงล่างและความสะดวกสบายเกือบตลอดเส้นทาง โดย

ความเร็ว 90 กม/ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,400 รอบ/นาที

ความเร็ว 100 กม/ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,500 รอบ/นาที

ความเร็ว 110 กม/ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,750 รอบ/นาที

ความเร็ว 120 กม/ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,800 รอบ/นาที

ความเร็ว 130 กม/ชม. ใช้รอบเครื่อง 2,000 รอบ/นาที

ความเร็ว 140 กม/ชม. ใช้รอบเครื่อง 2,200 รอบ/นาที

หลังจากขับไปสักระยะก็สัมผัสได้ว่า การตอบสนองของพวงมาลัยค่อนข้างไว ส่วนระบบเบรกด้านหลังเมื่อเปลี่ยนจากดรัมเบรกเป็นดิสก์เบรกแล้ว มีความแตกต่างแบบเห็นชัดเล็กน้อย แต่ในช่วงจังหวะกดแป้นเบรกพอรู้สึกว่าจับได้ไวขึ้น ส่วนระยะเบรกก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไรนัก ส่วนสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เล็กลงและต้องแบกกับตัวถังและชุดเกียร์ขับสี่ที่เพิ่มขึ้น พละกำลังที่มีใช้นับว่าเพียงพอ ต้นๆ ไม่อืดอาดหรือรอรอบอย่างที่คิด และเมื่อเส้นทางปรับเปลี่ยนเป็นแบบ 4 เลน สามารถใช้ความเร็วได้สูงขึ้น แต่การเพิ่มความเร็วจากจังหวะที่ความเร็วลอยตัวอยู่แล้ว อาจรู้สึกว่ารถไม่พุ่งทะยานเท่าที่ควร แต่ก็สามารถเร่งระดับได้แบบเรื่อยๆ

สำหรับช่วงล่างด้วยรถตัวเป็นแบบ PPV อาการโยนของรถก็มีให้สัมผัสบ้างในจังหวะที่เข้าโค้ง อย่างไรก็ดีภาพรวมๆ นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเหมาะสมกับประเภทของรถ เมื่อเข้าเขตเลี่ยงเมืองมุ่งหน้าสู่เขื่อนขุนด่านฯ เส้นทางบางช่วงมีการซ่อมแซมผิวถนน ทำให้มีการเบี่ยงเลนสลับไปมาเป็นระยะๆ ทำให้บางครั้งต้องเปลี่ยนเลนอย่างกะทันหันอยู่บ่อยๆ ซึ่งการควบคุมรถก็ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว

FORTUNER รุ่นใหม่ ยังมีจุดเด่นคือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซิกม่าโฟร์ ซึ่งเลือกโหมดการขับขี่ได้ ทั้ง H2 H4 L4 ซึ่งผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC แน่นอนว่าก็ต้องลองขับบนเส้นทางที่มีลักษณะเป็นทางลูกรังหรือทางทีพอมีอุปสรรค โดยการขับได้เลือกโหมดขับเคลื่อนเป็น L4 พร้อมใช้เกียร์ S1 ตลอดเส้นทาง เพื่อทดสอบกำลัง-แรงบิดของเครื่องยนต์ โดยใช้รอบเดินเบา ต่อด้วยการขับขึ้นเนิน โดยใช้รอบเครื่องยนต์คงที่ประมาณ 1,000 รอบ/นาที รถสามารถไต่ขึ้นได้เรื่อยๆ แบบต่อเนื่อง จากนั้นลองหยุดรถบริเวณหัวเนินพร้อมปล่อยเบรก เพื่อทดสอบระบบ HAC-Hill start Assist control หรือระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ปรากฏว่ารถค้างอยู่บนเนินประมาณ 3 วินาที โดยไม่ไหล จากนั้นเดินคันเร่งต่อนิ่งๆ แล้วขับลงเนินชัน โดยปล่อยให้รถไหลลงโดยไม่ต้องแตะเบรก เพื่อทดสอบระบบ DAC-Downhill Assist หรือระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ซึ่งก็รู้สึกได้ชัดเจนว่ารถเคลื่อนที่ลงเนินอย่างนุ่มนวลด้วยความเร็งคงที่ ช่วยเพิ่มปลอดภัยและสบายใจให้กับผู้ขับ

ในบางช่วงของเส้นทางก็มีลักษณะเป็นเนินสลับ ก็ช่วยให้ทำการทดสอบระบบ A-TRC Active Traction Control หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรีไปในตัว โดยการทำงานจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเซ็นเซอร์พบว่ามีล้อใดเริ่มสูญเสียแรงขับเคลื่อนในกรณีวิ่งผ่านพื้นถนนลื่น ระบบก็สั่งการให้เบรกจับที่ล้อนั้นๆ พร้อมกับลดแรงบิดที่ส่งไป ขณะเดียวกันก็เพิ่มแรงขับไปยังล้ออื่นที่เหลือ เพื่อให้รถมีแรงขับเคลื่อนผ่านอุปสรรคนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบช่วงล่างนับว่ามีความยืดหยุ่นสูง สามารถทรงตัวในจังหวะการถ่ายเทน้ำหนักของรถจากเนินเอียงสลับซ้าย-ขวา ได้อย่างน่าประทับใจ

IMG_7246

การรีวิว TOYOTA FORTUNER รุ่นปรับโฉม เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร  4WD ทั้งบนเส้นทาง On Road และ Off Road สามารถสรุปเป็นข้อสังเกตได้ดังนี้

เริ่มที่รูปลักษณ์ภายนอกต้องยอมรับว่ามองเผินๆ แทบไม่เห็นถึงความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าสักเท่าไร ภายในห้องโดยสารจุดแตกต่างที่เพิ่มเข้ามาคือ เบาะฝั่งผู้ขับ-ผู้โดยสารสามารถปรับตำแหน่งสูง-ต่ำ เลื่อน-เอนได้ด้วยไฟฟ้า สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ แทบไม่ต่างจากเดิม

ส่วนไฮไลต์คือ ขุมพลัง 2.4 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเทคโนโลยีช่วยขับและระบบ Sigma4 นับว่าสมรรถนะนั้นเหลือเฟือ พอเพียงสำหรับการขับแบบ On Road ซึ่งตอบสนองการขับได้อย่างสนุก ช่วงความเร็วต้นๆ เรี่ยวแรงดีไม่อืดไม่รอรอบ แต่ช่วงกลาง-ปลายความเร็วอาจตื้อๆ ไปสักนิด ส่วนการขับบนเส้นทาง Off Road นับว่าขับได้มั่นใจ สามารถไต่ขึ้นเนินหรือตะลุยผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ด้วยแรงบิดที่มีอย่างเพียงพอ สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากรูปแบบการขับเสมือนใช้งานจริง ไม่ประคองคันเร่งใดๆ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ประมวลผลออกมาที่ 11.0 กม./ลิตร

สำหรับระบบเบรกหลังแม้ปรับเปลี่ยนจากดรัมเป็นดิสก์ ซึ่งจากที่ได้สัมผัสระยะเบรกก็แทบไม่ต่างกันมาก แต่อาจดีขึ้นตรงที่ไม่ต้องกดแป้นเบรกลึกขึ้นกว่าเดิม และทั้งหมดเมื่อผสานกับหลายเทคโนโลยีความปลอดภัยที่จัดมาให้ บอกได้เลยว่า TOYOTA FORTUNER 2.4 ลิตร 4WD ต่างกับรุ่น 2.8 ลิตร 4WD แค่ส่วนสมรรถนะของเครื่องยนต์และราคาค่าตัวที่ถูกกว่า 150,000 บาท เท่านั้น ส่วนความอเนกประสงค์และการใช้งานอื่น รวมๆ นับว่าคุ้มค่าใกล้เคียงกันครับ

001 002 003 004 005 006 007 008 009 010 011 012013 015  014016 019 020 018 017 021  022023 024 025 026 027 IMG_7285-212  IMG_7259IMG_7250-21 IMG_7246


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " TEST DRIVE : รีวิว TOYOTA FORTUNER 2.4L 4WD SIGMA4 ขับสนุก ลุยสบาย ในราคาที่คุ้มค่า "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

1 ความคิดเห็น

  1. พัฒนพงศ์ ต้อยเรียง

    เบาะตอนแถว 3 ยังใช้ระบบแขวนน่าจะใช้แบบพับเหมือนปาเจโรนะ หมดยุคแล้วแบบแขวน โอกาสหน้าจะเปลี่ยนหรือเปล่าจะได้รอครับ

    ตอบ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด