TEST DRIVE : รีวิว TOYOTA C-HR 1.8 Mid สมรรถนะขับสนุก ช่วงล่างให้ความมั่นใจ ดีไซน์ฉีกแนว

โพสโดย : rapee / วันที่ : 3 พฤษภาคม 2019

TEST DRIVE : รีวิว TOYOTA C-HR 1.8 Mid สมรรถนะขับสนุก ช่วงล่างให้ความมั่นใจ ดีไซน์ฉีกแนว

IMG_4031

จากแนวคิดที่ท้าทายการพัฒนายนตรกรรมให้ดียิ่งกว่าของโตโยต้า (Ever-better Cars) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ ‘ยานพาหนะ’ แห่งความสมบูรณ์แบบ โดยโตโยต้ามุ่งเน้นพัฒนาใน 2 ด้านหลัก ได้แก่ ความประณีตของการออกแบบภายนอก เพื่อดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ (Emphasized Personality) และความแข็งแกร่งของโครงสร้างภายในที่ทำงานประสานกัน เพื่อการขับขี่ที่เหนือระดับ (Core Strength) โดยนำมาผสมผสานกันและถ่ายทอดออกมาเป็นสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA-Toyota New Global Architecture

TOYOTA C-HR (Coupe High Rider) รถยนต์ครอสโอเวอร์ใหม่ล่าสุด ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอกย้ำแนวคิด Ever-better Cars (การสร้างยนตกรรมที่ดียิ่งกว่า) ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของเพชร ทำให้รูปลักษณ์ของ C-HR มีความเป็นเอกลักษณ์ สปอร์ต เฉียบคม โดดเด่น และเพียบพร้อมไปด้วย 4 เทคโนโลยีใหม่ เครื่องยนต์ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ โครงสร้าง TNGA, Toyota Safety Sense และ Telematics ที่สำคัญ Toyota C-HR ยังผสมผสานความอเนกประสงค์ของตัวรถเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ที่สนุกสนานและประทับใจ

TNGA1
โครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA ถูกพัฒนาและออกแบบให้เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีความแข็งแรงและมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีเยี่ยม การควบคุมบังคับรถที่แม่นยำ นุ่มนวลทุกสภาพถนน รวมถึงทัศนะวิสัยการขับขี่ที่ดีกว่า ตลอดจนรูปลักษณ์ที่สวยงาม ซึ่งโตโยต้าได้นำสถาปัตยกรรมโครงสร้างใหม่นี้มาใช้ใน Toyota C-HR เป็นรุ่นแรก และจะนำมาใช้กับรถยนต์โตโยต้ารุ่นต่อๆ ไปในอนาคต โดยการออกแบบโครงสร้างใหม่ดังนี้
Toyota-New-Global-Architecture-TNGA-profile-753x450px
Body rigidity เพิ่มความมั่นคงของรถจากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแกร่ง พร้อมเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวถัง (Spot welding) ช่วยรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

Low center of gravity จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ทำให้ลดการโคลงตัวของรถ รวมทั้งช่วยเรื่องการทรงตัวและการเข้าโค้งดีขึ้น

–  Double Wishbone Suspension ช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม (อย่างไรก็ดีระบบช่วงล่างไม่จำเป็นต้องใช้แบบปีกนกเสมอไป ทีมวิศวกรสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับรุ่นนั้นๆ ได้)

Good Handling พวงมาลัยมีการปรับอัตราทดและ ECU ใหม่ ทำให้การตอบสนอง แม่นยำมากขึ้น เพื่อให้การควบคุมรถง่ายเป็นไปอย่างมั่นใจ

STABILITY จากโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแรง ทำให้การควบคุมจากพวงมาลัยมีความแม่นยำ เกาะถนนได้ดีเยี่ยม เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ด้วยช่วงล่างอิสระแบบ Double wishbone ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่

AGILITY ความคล่องตัวในทุกจังหวะการขับขี่ และการควบคุมได้ดั่งใจ เกิดจากการที่ตัวรถถูกออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ส่งผลให้การขับขี่ ที่สนุกมากขึ้น และสามารถขับลัดเลาะไปตามซอกซอยได้อย่างคล่องตัว

VISIBILITY จากการออกแบบให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางของรถ พร้อมเพิ่มทัศนะวิสัย และการลดจุดอับสายตาภายในห้องโดยสาร ด้วยการปรับกระจกด้านหน้าคนขับให้กว้างขึ้น และลดขนาดเสา เอ (A Pillar) ทั้ง 2 ด้านให้แคบลง ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถมองวัตถุในมุมอับได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

COMFORT โครงสร้างรูปแบบใหม่และช่วงล่างที่อิสระ สามารถลดแรงกระแทกจากพื้นถนนสู่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความความนุ่มนวลทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่เมื่อยล้าในการขับขี่ เพลิดเพลินในทุกการเดินทาง

IMG_4034 IMG_4053
รูปลักษณ์ภายนอก ดีไซน์ของ C-HR (รุ่นก่อนไมเนอร์เช้นจ์) นับว่าฉีกรูปแบบครอสโอเวอร์ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นนำสายตาด้วยไฟหน้าที่ออกแบบได้ล้ำสมัย เส้นสายลื่นไหลรวมเป็นหนึ่งเดียวที่กลางกระจังหน้าซึ่งเป็นโลโก้ Toyota อย่างลงตัว

โดยในรุ่น 1.8 เบนซิน ทั้ง 2 รุ่นย่อยนั้นเป็นแบบ Projector หลอด Halogen พร้อม Daytime Running Light แบบ LED ส่วนรุ่น 1.8 Hybrid ทั้ง 2 รุ่นย่อย ไฟหน้ามาในรูปแบบของ Projector Full LED และ LED Daytime Running Lights  แบบ Light Guiding ถัดลงมาบริเวณกันชนเป็นลายรังผึ้งสีดำ ขนาบข้างด้วยไฟตัดหมอกทรงกลมที่มุมซ้าย-ขวา ส่วนกระจกมองข้างฝังไฟเลี้ยวแบบ LED สามารถปรับไฟฟ้าและพับเก็บได้อัตโนมัติ (ทุกรุ่นย่อย)

IMG_4048  IMG_4059 IMG_4056
IMG_4061

ส่วนด้านข้างบริเวณขอบกระจกประตู รุ่น 1.8 Mid และ Hybrid 1.8 ลิตร คิ้วขอบกระจกประตูทั้ง 4 บานนั้นเป็นแบบโครเมียม (รุ่น 1.8 Entry เป็นสีดำ) ส่วนบริเวณเสาประตูคู่กลางประกบด้วยวัสดุพลาสติกสีดำเงาแบบ Piano Black (รุ่น 1.8 Entry เป็นสีดำ)

นอกจากนี้ยังติดบังโคลนซุ้มล้อเพื่อเพิ่มความดุดันยิ่งขึ้น ทั้งด้านหน้าและหลัง (รุ่น 1.8 Entry มีเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น) ขณะเดียวกันไฟท้ายรุ่นเบนซิน 1.8 ลิตร ทั้ง Mid และ Entry นั้นเป็นแบบ LED ยกเว้นรุ่น Hybrid ที่เป็นแบบ Full LED รมดำ

ส่วนเสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ถัดต่ำลงมายังมีไฟตัดหมอกหลังบริเวณตรงกลางของชายกันชน
IMG_4085

โดยทุกรุ่นย่อย มาพร้อมล้อแม็กดีไซน์ลาย 5 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว รัดยาง Dunlop ENASAVE ขนาด 215/50 R17 (รุ่นใหม่แบบไมเนอร์เช้นจ์ล้อแม็กจะเป็นดีไซน์ใหม่ลายตัววายสีทูโทน)
dimensions
มิติตัวถัง ยาว 4,360 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,565 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม. ความกว้างช่วงล้อคู่หน้า/หลัง 1,550 / 1,570 มม.  ความสูงจากพื้นถนนจนถึงพื้นใต้ท้องรถ (Ground Clearance) 154 มม.
IMG_4157
IMG_4132

ภายในห้องโดยสาร โทนสีในห้องโดยสารเป็นธีมแบบทูโทนดำ-น้ำตาล ยกเว้นรุ่น 1.8 Entry เป็นสีดำล้วน ส่วนบริเวณคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มสีน้ำตาลผสานด้วยแถบพลาสติกสีเงิน

ตรงกลางเป็นชุดเครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ซึ่งดีไซน์ให้ยกลอยขึ้นมาจากแผงคอนโซล มาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB/HDMI/Micro SD Card และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ถัดต่ำลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิบริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้าน ซ้าย-ขวา อย่างอิสระ

IMG_4129
IMG_4138

คอนโซลเกียร์บริเวณฐานถูกครอบด้วยพลาสติกแบบ Piano Black หัวเกียร์เป็นสีเงิน ถัดมาลงมาเป็นสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า พร้อมสวิทช์ระบบ Auto Brake Hold ซึ่งเมื่อกดใช้งานจะทำหน้าที่ล็อกเบรกมือไว้ชั่วขณะ จะทำงานต่อเมื่อขับรถไปปกติ แล้วเหยียบเบรกจนรถหยุดนิ่ง หากปล่อยเท้าจากแป้นเบรก ระบบก็จะเบรกรถให้อัตโนมัติ และเมื่อต้องการให้รถเคลื่อนไปก็เพียงเหยียบคันเร่ง ระบบก็จะปลดเบรกให้โดยอัตโนมัติเช่นกัน

IMG_4122
IMG_4133
ชุดมาตรวัดเป็นแบบ Optitron ดีไซน์เป็นวงกลม 2 ช่อง ฝั่งซ้ายเป็นวัดรอบเครื่องและอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น ฝั่งขวาเป็นระดับความเร็วและปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ตรงกลางเป็นจอ Multi Information Display แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ไม่ว่าจะเป็น อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โหมดกับขับขี่แบบการขับแบบ Sport/ECO ระยะทางขับขี่ ส่วนพวงมาลัยดีไซน์แบบ 3 ก้าน พร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงและจอข้อมูลการขับขี่ที่ก้านพวงมาลัย

IMG_4163 IMG_4160
สำหรับเบาะนั่ง หุ้มด้วยหนังและวัสดุสังเคราะห์ (รุ่น 1.8 Entry หุ้มด้วยผ้า) คู่หน้าดีไซน์ให้อารมณ์สไตล์สปอร์ตคล้ายบักเก็ตซีท โดยฝั่งคนขับปรับระดับด้วยมือ 6 ทิศทาง (เลื่อนเดินหน้า-ถอยหลัง ปรับพนักพิง และระดับสูง–ต่ำ) แบบแมนนวลมือโยก พร้อมสวิตช์ปรับดันหลังด้วยระบบไฟฟ้า

ซึ่งความสะดวกสบายหลังได้ลองนั่ง รู้สึกว่าฐานเบาะค่อนข้างสั้น เมื่อนั่งลงไปก็ทำให้ใต้ท้องขาลอย และยื่นออกมาจากตัวฐานเบาะพอสมควร

ส่วนพนักพิงสำหรับคนที่ชอบแบบกระชับรับกับสรีระบอกเลยว่าต้องชื่นชอบ เข้าโค้งแรงๆ พอที่จะล็อคกับลำตัวได้อย่างพอดี แต่คนรูปร่างใหญ่อาจรู้สึกว่าอึดอัดไปสักนิด ส่วนเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า เป็นแบบ ELR 3 จุด ปรับระดับสูง-ต่ำได้

IMG_4143 IMG_4147

สำหรับรายละเอียดในเบาะนั่งแถวหลัง ทันเมื่อเปิดประตูและมองเข้าไปก็แอบลุ้นว่ารู้สึกว่าต้องแคบแน่ๆ ซึ่งหลังได้ลองเข้าไปนั่งแล้วก็รู้สึกว่ามีความอึดอัดที่เกิดจากมุมท้ายของบานประตูนั้นตวัดสูงขึ้นจนทำให้บานกระจกดูแคบ ยิ่งคนรูปร่างเล็กเหมือนกับนั่งโดยมีกำแพงสูงตั้งอยู่อย่างข้างๆ
IMG_4259
IMG_4257

ในขณะที่ตัวเบาะเห็นได้ชัดว่าฐานเบาะค่อนข้างสั้น แถมไม่มีเนินขึ้นมาล็อกตำแหน่งคนนั่ง ดังนั้นเวลาเข้าโค้งหรือเลี้ยวแรงๆ คนนั่งอาจไถลไปมาได้ แต่ข้อดีก็คือเวลานั่ง 3 คนก็ให้ความสบายเพราะเบาะไม่นูนมาดันก้น

ส่วนตัวพนักพิงองศาความเอียงกำลังพอดีนั่งสบายไม่เมื่อหลัง ต่อมาตำแหน่งบริเวณหัวเข่าก็ถึงไม่ติดกับด้านหลังของเบาะหน้า เช่นเดียวกับระยะเฮดรูมคนที่สูงไม่ถึง 170 ยังมีพื้นที่ช่องว่างเหลืออีกเกือบ 2 ฝ่ามือแนวนอนทีเดียว รวมๆ แล้วเบาะหลังก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี่เหร่อะไรนัก

นอกจากนี้เข็มขัดนิรภัยด้านหลังยังเป็นแบบ ELR 3 จุด พร้อมจุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก มาตรฐาน ISOFIX และสามารถแยกพับปรับได้แบบ 60:40 ช่วยให้สามารถเก็บสัมภาระหรือสิ่งของยาวๆ ได้อย่างสะดวก

IMG_4065

20190225_111620

ส่วนด้านท้ายดีไซน์จะลาดเอียงลง หลายคนอาจกังวลว่าพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระจะเพียงพอหรือไม่ แต่เมื่อเปิดฝาท้ายพบว่ามีขนาดความจุถึง 377 ลิตร ตามมาตรฐาน VDA เยอรมนี ซึ่งก็สามารถเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้อย่างเหลือเฟือ และเมื่อเปิดจากฐานรองขึ้นมาก็มีชุดซ่อมยางฉุกเฉินมาให้จากโรงงาน

IMG_4097

เครื่องยนต์ รหัส 2ZR-FXE 4 สูบ 1,798 ซีซี แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ความกว้างกระบอกสูบx ระยะชัก 80.5 x 88.3 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 103 กิโลวัตต์ (140 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตร (17.8 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที

มาพร้อมโหมดการขับแบบ Sport และ ECO ให้เลือก ระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock อัตราทดเกียร์ 2.480 – 0.396 อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.604 – 1.680 อัตราทดเฟืองท้าย 5.698 พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 ม. ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร (รุ่นไฮบริด 43 ลิตร)

IMG_4251
ในส่วนของสมรรถนะกับการใช้งานทั่วไป การตอบสนองรวมๆ นับว่าไม่อืด แต่ก็ไม่ถึงแรงแบบพุ่งกระฉุดกดคันเร่งหนักแล้วหลังติดเบาะ ความกระฉับกระเฉงมีให้แบบพอประมาณ เรี่ยวแรงระดับ 140 แรงม้า นับว่าตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างพอเพียง โดยเฉพาะเมื่อความเร็วลอยตัวไปแตะ 100 กม./ชม. แล้ว

หากต้องการเติมคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วไปแตะ 120-140 กม/ชม. เข็มไมล์ยังกวาดขึ้นได้แบบลื่นไหล รวมถึงการตัดต่อของระบบเกียร์ก็ทำได้ค่อนข้างต่อเนื่องและนุ่มนวลตามคาแรคเตอร์ของ CVT

แต่ถ้าต้องการขยับไปถึง 160-180 กม./ชม. ก็จะออกอาการหน่วงๆ ไปสักหน่อย สำหรับอัตราความสิ้นเปลืองการคำนวณผ่านจอบนรถกับระยะทาง 420 กม. ตัวเลขอยู่ 13.2 กม./ลิตร

ความเร็วและรอบเครื่องยนต์

90 กม./ชม. 1,500 รอบ/นาที

100 กม./ชม. 1,750 รอบ/นาที

110 กม./ชม. 1,800 รอบ/นาที

120 กม./ชม. 2,000 รอบ/นาที

IMG_4116

ครบครันด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ประกอบด้วย

– ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านด้านข้าง-หัวเข่าฝั่งคนขับ)
– กล้องมองภาพขณะถอยหลัง (ทุกรุ่น) แสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ รวมทั้งเซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน
– ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS) สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า-ท้าย และที่มุมกันชน 8 จุด
– สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบเสริมแรงเบรก BA
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC

IMG_4107 IMG_4112
IMG_4226
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้ามาในรูปแบบของอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท-เหล็กกันโคลง ด้านหลังอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone) พร้อมเหล็กกันโคลง ซึ่งหลังจากขับเป็นระยะทาง 420 กม.ก็สัมผัสได้ประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจนว่าช่วงล่างอิสระแบบ Double wishbone ช่วยให้การเข้าโค้งสามารถทำได้อย่างสนุก ตลอดจนเกาะถนนและทรงตัวได้อย่างมั่นใจทีเดียว ในขณะเดียวกันเมื่อขับขี่บนทางโค้งกว้างๆ ด้วยจุดศูนย์ถ่วง (Center of Gravity) ที่ต่ำลง ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบชิ้นส่วนให้ต่ำลง ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์และเกียร์ ก็ยิ่งส่งผลให้ตัวรถนิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่เหวี่ยงหรือโคลง แม้เข้าโค้งในความเร็วสูง

นอกจากนี้ก็ยังช่วงล่างให้ความนุ่มนวลกำลังดี อาจไม่นิ่มถึงขั้นรถซีดานแต่ก็ไม่แข็งกระด้างจนตัวกระเด้งกระดอน เมื่อขับรูดผ่านคอสะพานที่มีความชัน ผิวทางขรุขระ และลูกระนาด ระบบช่วงล่างอิสระแบบก็สามารถดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบเบรก  ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน  ส่วนด้านหลังดิสก์เบรก การทำงานนับว่าค่อนข้างลงตัว ไม่จับเร็วจนหัวทิ่มหัวตำหรือจับช้าจนเกินไปจนต้องกดแป้นเบรกหนัก กดเท่าไรการหยุดยั้งหรือชะลอความเร็วก็ทำงานได้แทบจะใกล้เคียงน้ำหนักเท้า

20190222_130606
สำหรับความคล่องตัวในการใช้งาน โดยเฉพาะในเขตเมืองซึ่งมีสภาพจราจรคับคั่งหรือการขับตามตรอกซอกซอย ค่อนข้างมีความสะดวก ซึ่งไม่เพียงด้วยขนาดรถที่กะทัดรัดแล้ว ก็ยังเป็นผลมาจากวงเลี้ยวแคบ (5.2 ม.) และน้ำหนักพวงมาลัยที่เบามือในระดับหนึ่ง และหน่วงมือกำลังดีเมื่อใช้ความเร็ว

รวมไปถึงทัศนะวิสัยของผู้ขับขี่ในจุดอับสายตา โดยเฉพาะบริเวณมุมด้านหน้าฝากระโปรงและกระจกมองข้างกับเสาเอ (A Pillar) ที่เป็นจุดบอดก็ถูกดีไซน์ให้สามารถเห็นอุปสรรคด้านหน้า และด้านข้างได้อย่างชัดเจน

20190225_111524 20190225_111504
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับมุมมองด้านหลัง (C Pillar) จุดนี้อาจเป็นปัญหาของ C-HR เพราะถูกดีไซน์ให้ลาดต่ำแถมบานกระจกยังแคบ และมุมของบานประตูหลังที่ตวัดสูงขึ้นเพื่อรับกับบานกระจกและแก้มท้าย ก็มีส่วนที่ทำให้การมองผ่านกระจกหลังไม่ถนัดตาเท่าที่ควร แถมในรุ่น 1.8 Mid และ 1.8 Entry ไม่มีระบบเรดาห์มองภาพจากด้านข้างรถ BSM (Blind Spot Monitoring) มาให้ ดังนั้นการเปลี่ยนเลนแต่ละครั้งต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นอย่างมากทีเดียว

ราคาจำหน่าย TOYOTA C-HR 4 รุ่น
1.8 Entry         ราคา    979,000 บาท***
1.8 Mid           ราคา    1,039,000 บาท***
HV Mid           ราคา    1,069,000 บาท*** (รุ่นที่นำมารีวิว)
HV Hi             ราคา    1,159,000 บาท***

***ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

TOYOTA C-HR มีให้เลือก 7 สี สำหรับรุ่นไฮบริด
– Premium Red/Black Roof
– Blue Metallic/Black Roof
– Radiant Green Metallic/Black Roof
– White Pearl Crystal/ Black Roof
– White Pearl Crystal
– Metal Stream Metallic
– Attitude Black Mica

และ 4 สี สำหรับรุ่น 1.8
– White Pearl Crystal/ Black Roof
– White Pearl Crystal
– Metal Stream Metallic
– Attitude Black Mica

สีพิเศษสำหรับรุ่นไฮบริด ได้แก่
– Premium Red
– Blue Metallic
– Radiant Green Metallic พร้อมหลังคาสีดำ
และสี White Pearl Crystal เพิ่ม 10,000 บาท
สี White Pearl Crystal พร้อมหลังคาสีดำ เพิ่ม 15,000 บาท

IMG_4232

สรุป : TOYOTA C-HR 1.8 Mid นับเป็นยนตรกรรมครอสโอเวอร์ที่ค่อนข้างตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ยุคใหม่ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ดูทันสมัยฉีกแนว ผสานกับโครงสร้าง TNGA ที่ถูกพัฒนาและออกแบบให้มีความแข็งแรง มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ จึงช่วยตอบสนองต่อการขับขี่ได้สนุกและมั่นใจยิ่งขึ้น ให้การควบคุมบังคับรถค่อนข้างแม่นยำ อีกทั้งสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร สามารถรองรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางไกลได้อย่างเพียงพอ ส่วนระบบความปลอดภัยมาตรฐานก็มีมาให้แบบพอประมาณ กับราคา 1,069,000 บาท ก็นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่จะดีกว่านี้ถ้าติดตั้งเทคโนโลยีระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM เพิ่มเข้ามาด้วย

สิ่งที่ยากให้ปรับปรุง : มุมประตูบานหลังสูง-กระจกบนหลังแคบ ทำให้มองเห็นไม่ถนัด ฐานเบาะสั้น

สิ่งที่อยากให้มี : ซันรูฟ, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM

ขอขอบคุณ : บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

IMG_4079TNGA1Toyota-New-Global-Architecture-TNGA-profile-753x450pxIMG_4034IMG_4053IMG_4048IMG_4089IMG_4059IMG_4099IMG_4055IMG_4061IMG_4085IMG_4056IMG_4039IMG_4157IMG_4132 IMG_4122IMG_4133IMG_4127IMG_4129IMG_4138IMG_4116IMG_4065IMG_4097 IMG_4163IMG_4160IMG_4147IMG_4143IMG_4259IMG_425720190225_11162020190222_130606 20190225_11152420190225_111504IMG_4251IMG_4226IMG_4232


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " TEST DRIVE : รีวิว TOYOTA C-HR 1.8 Mid สมรรถนะขับสนุก ช่วงล่างให้ความมั่นใจ ดีไซน์ฉีกแนว "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด