เปิดตัว Mitsubishi Triton ใหม่ สวยล้ำทุกมุมมอง ลุ้นขึ้นสู่อันดับ 3 ตลาดรถกระบะในไทย

เปิดตัว Mitsubishi Triton ใหม่ สวยล้ำทุกมุมมอง ลุ้นขึ้นสู่อันดับ 3 ตลาดรถกระบะในไทย

เผยโฉม มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ครั้งแรกในโลก พร้อมจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. นี้ ก่อนส่งออกสู่ 150 ประเทศทั่วโลก โดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เลือกเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่กรุงเทพมหานคร มีสื่อมวลชนจากหลายประเทศทั่วโลก เข้ามาทำข่าวกันมากมาย และเป็นข่าวที่ผู้คนพูดถึงกันมากมายตลอดทั้งวันที่จัดงานเปิดตัว ส่วนใหญ่ล้วนชื่นชมและชื่นชอบดีไซน์ใหม่ของ Mitsubishi Triton เป็นอย่างมาก

มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ผลิตขึ้น ณ ศูนย์การผลิตแหลมฉบังของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกที่สำคัญของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น โดยจะทยอยเปิดตัวสู่ตลาดอื่น ๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง ยุโรป แอฟริกา และลาตินอเมริกา รวมกว่า 150 ประเทศทั่วโลก แต่พร้อมจำหน่ายและส่งมอบให้ลูกค้าชาวไทยได้ใช้รถก่อนเป็นประเทศแรก เป็นเรื่องที่คนไทยรู้สึกภาคภูมิใจ 

มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ เป็นหนึ่งในยานยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกที่สำคัญยิ่ง และความสำเร็จของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งนี้ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาต่อยอดสมรรนะและความแข็งแกร่งที่ไว้ใจได้  รวมถึงความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถกระบะมิตซูบิชิ มาตลอดระยะเวลา 40 ปี ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่นี้ จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดีเยี่ยม”

ราคาถูกกว่าคู่แข่งมาพร้อมออปชั่นจัดเต็มไม่มีกั๊ก

ราคาเริ่มต้นที่ 524,000 ไปจนถึง 1,099,000 บาท โดยเฉพาะรุ่น Double Cab เกียรอัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่หลายคนชื่นชอบกัน ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 9 แสนกว่าบาท หรือรุ่น Single Cab สำหรับใช้เพื่อการพาณิชย์ ก็มีราคาอยู่ในช่วง 5-6 แสนบาท ได้ไฟหน้าแบบ Projector และดีไซน์ที่ยังดูสวยงาม มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือกซื้อด้วย จัดเต็มไม่มีกั๊กลดสเปกแต่อย่างใด เป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

ยลโฉม Mitsubishi Triton รุ่น Single Cab

 

Mitsubishi Triton พร้อมชุดตกแต่งพิเศษ

 

Mitsubishi Triton รุ่น Double Cab

 

ภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Triton รุ่น Double Cab

 

จุดเด่นของ Mitsubishi Triton ใหม่

1. ดีไซน์แกร่งทรงพลัง

ด้านหน้า ดีไซน์ใหม่แบบ “Dynamic Shield” ผสานเข้ากับเส้นสายอันดุดันของฝากระโปรงหน้า พร้อมไฟหน้าในตำแหน่งที่ยกสูงขึ้นส่ง ดูสง่างามและทรงพลัง

ด้านข้างและด้านหลัง ลงตัวด้วยส่วนโค้งมนตัดกับเส้นสายอันโฉบเฉี่ยว ซุ้มล้อขนาดใหญ่ ชุดไฟท้ายและชุดกันชนดีไซน์ใหม่ช่วยเพิ่มความบึกบึน

ภายใน ดีไซน์ใหม่ที่ทันสมัย สัมผัสได้ถึงความประณีตและคุณภาพของวัสดุบุนุ่มและการตัดเย็บที่บริเวณกล่องคอนโซลข้างคนขับ ที่วางแขนและเบรกมือ ผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน

2. เทคโนโลยีระบบการขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อเอาชนะทุกอุปสรรค

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มีให้เลือกทั้งแบบ Super-Select 4WDII ที่เน้นพละกำลัง หรือจะเลือกระบบการขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Easy-Select 4WD ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย เพื่อเลือกให้เหมาะกับสภาพถนนที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งสองระบบ ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดให้ดียิ่งขึ้น

โหมดการขับขี่ออฟโรดใหม่ ทั้งระบบ  Super-Select 4WD II และระบบ Easy-Select 4WD มีการเพิ่มเติมโหมดใหม่ ได้แก่ GRAVEL MUD/SNOW SAND และROCK (ในตำแหน่ง 4LLc-ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำเท่านั้น) โดยจะช่วยควบคุมพละกำลังของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง รวมถึงระบบเบรก เพื่อการกระจายกำลังไปยังล้ออย่างเหมาะสม สามารถลุยผ่านทุกอุปสรรคไปบนทุกเส้นทางอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขับขี่ไปบนเส้นทางโคลนหรือหิมะที่เปียกลื่นได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยให้การขับขี่ขณะลงทางลาดชันและเปียกลื่นเป็นไปได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

3. ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

โครงสร้างตัวถังและแชสซีส์ที่ทนทาน พร้อมโครงสร้างห้องโดยสารแบบนิรภัยที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก ครบครันด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ประกอบไปด้วย

• ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) สามารถตรวจจับได้ทั้งพาหนะและคน
• ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาและแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSWwith LCA) ช่วยตรวจจับพาหนะที่มาจากด้านข้างและด้านหลังขณะเปลี่ยนเลน พร้อมการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยระบบเสียงและสัญญาณไฟกระพริบที่กระจกมองข้าง
• ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) ป้องการการชนขณะขับถอยหลังออกจากช่องจอด
• ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS) ช่วยลดอุบัติเหตุจากการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจขณะรถออกตัว หรือ ถอยรถออกจากช่องจอดรถ หรือ พื้นที่อับสายตา
• กล้องมองภาพรอบคันที่ช่วยให้สามารถมองเห็นภาพจากมุมสูงพร้อมเซ็นเซอร์ช่วยในการจอดรถ

4. กระบะอเนกประสงค์ที่เปี่ยมสมรรถนะ

มิตซูบิชิ พัฒนาไทรทันใหม่ ให้เป็นตัวจริงของรถกระบะ ‘แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค’ ทนทานและมั่นใจได้เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกันก็ยังมอบความสะดวกสบายเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ระบบเบรกก็พัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการใช้ดิสก์เบรกใหญ่ขึ้นในคู่หน้าพร้อมคาลิปเปอร์เบรก ช่วงล่างสามารถซับแรงกระแทกที่ดีกว่าเดิมด้วยโช้คอัพหลังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงการใช้ระบบส่งกำลังชุดใหม่แบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จากเดิม 5 สปีด เพื่อเพิ่มสมรรถนะและการเร่งแซงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการขับขี่ที่นุ่มนวลขึ้น

 

ทดสอบขับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ในสนามทดสอบ

หลังจากจบงานเปิดตัวกันไปแล้ว บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ก็เชิญสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมทดสอบ ‘Beyond Tough’ ที่ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี เพื่อพิสูจน์สมรรถนะที่เหนือชั้นของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ด้วยการลุยทุกอุปสรรคบนเส้นทาง และสถานีทดสอบที่ท้าทาย

เริ่มต้นกันที่สถานีออนโรด ทดสอบการควบคุมและเสถียรภาพของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ บนเส้นทางขรุขระเพื่อทดสอบ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยี Super Select 4WD-II ที่เป็นการผสมผสานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์และฟูลไทม์เข้าไว้ด้วยกัน ควบคุมการปรับโหมดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มการยึดเกาะและให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม

ระบบขับเคลื่อนทั้ง 4 โหมดของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ได้แก่ โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD High-Range) โหมด 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Controlโหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4WD High-range with Locked) และ โหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked) นอกจากนี้ ยังมีโหมดออฟโรด (Off-Road) 4 รูปแบบ ทั้ง Gravel, Mud/Snow, Sand หรือ Rock มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้าย (Rear Differential Lock) มอบสมรรถนะเพื่อการลุยฝ่าอุปสรรคบนเส้นทางออฟโรด

สื่อมวลชนยังได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ผ่านสถานีออฟโรด ที่มีอุปสรรคแตกต่างกัน ทั้งการขับขี่ไต่เนินสูงเพื่อทดสอบระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) และการทดสอบแรงบิดขนาด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาทีของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน MIVEC บล็อกอลูมิเนียม ขนาด 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร ที่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติใหม่ 6 สปีด ส่วนการไต่ลงทางลาดชันทำให้ได้ทดสอบระบบควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน (HDC) ซึ่งติดตั้งใน มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ เป็นครั้งแรก  เพิ่มการยึดเกาะและความปลอดภัยในสถานการณ์ขับขี่ลงทางลาดชันสุดหฤโหด

ซึ่งจากการทดสอบใช้ระบบ HDC ในช่วงที่ลงทางลาดชัน พบว่าเมื่อใช้งานจริงนอกสนามทดสอบ เช่นการขับลงเขาที่ลาดชันระยะทางยาว ๆ ผู้ขับไม่ต้องกังวลเรื่องความเร็วที่รถไหลลงเขา เพราะระบบนี้จะจับความเร็วที่ผู้ขับต้องการใช้ในขณะลงเขาแล้วเหยียบเบรกเบา ๆ แช่ไว้ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นรถก็ล็อกความเร็วนั้นไว้ตลอด เช่น 5km/h ผู้ขับไม่ต้องเหยียบเบรกตลอดเวลาจนถึงพื้นราบ นี่เป็นความอัจฉริยะของระบบ HDC ที่รู้ใจผู้ขับ เมื่อถึงพื้นราบ ก็เหยียบคันเร่งขับต่อเนื่องได้ทันที ส่วนในช่วงของการขึ้นเขา ระบบ HSA ก็จะส่งกำลังให้ขึ้นเขาที่ลาดชันมาก ๆ ได้อย่างสบาย เป็นรถกระบะที่ขับได้และควบคุมได้ง่ายอย่างแท้จริง

มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีระบบกันสะเทือนที่ออกแบบมาให้แกร่งพร้อมสมบุกสมบัน ขณะเดียวกันก็มอบความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมืองและทางไกล ด้วยช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้คอัพไขว้และแชสซีส์ที่แข็งแกร่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ จึงฝ่าได้ทุกอุปสรรค การทดสอบขับบนเส้นทางเอียงข้างและถนนจำลอง ซึ่ง 2 ฝั่งมีความลาดเอียงสลับกัน รวมถึงขับฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะ

ปิดท้ายด้วยการเปิดประสบการณ์แบบแรลลี่หฤโหดใน ‘Extreme Experience Course’ โดย มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ นักแข่งรถแรลลี่ชาวญี่ปุ่นและเจ้าของแชมป์ดาการ์ 2 สมัย แสดงการควบคุมและสมรรถนะของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ที่สร้างความประทับใจให้สื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมงาน

สรุป

มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การออกแบบล่าสุด Advanced Dynamic Shield มีตัวถังขนาดใหญ่ แข็งแกร่งบึกบึน ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ในหลายรุ่นย่อยระดับบน ให้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับสูงต่ำ ไฟท้ายและไฟเบรก LED  ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว มีหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT Color LCD แสดงอนิเมชั่นสามมิติสวยงาม

เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยก็มีให้ครบครัน เช่น ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (AHB) ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) ด้วยระบบตรวจจับได้ทั้งพาหนะและผู้ใช้ทางเท้า ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW)  ระบบช่วยเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) กล้องมองภาพรอบคัน และเซ็นเซอร์ช่วยในการถอยจอด

เมื่อได้ทดสอบขับในสนามทดสอบแล้ว บอกได้เลยว่าขับสนุกมาก ควบคุมรถได้ง่าย ขับขี่ได้คล่องตัวเหมือนรถเล็ก ช่วงล่างนุ่มนวลดีมาก วงเลี้ยวแคบ กลับรถในที่แคบได้ง่าย ขึ้นลงทางลาดชันมากระดับ 45 องศาได้สบาย ๆ โดยใช้รอบเครื่องยนต์แค่ 1200 รอบต่อนาทีก็ขึ้นไหว ที่สำคัญคือราคาถูกกว่าคู่แข่งมาก จัดเต็มทั้งเทคโนโลยีและความสะดวกสบายขนาดนี้ มั่นใจได้เลยว่าขายดีแน่นอน มีลุ้นในปี 2562 ว่ายอดขายจะขึ้นสู่อันดับที่ 3 ของกลุ่มรถกระบะประเทศไทย