HONDA ส่ง Civic Hatchback Rallye Red พร้อม Clarity ยนตรกรรมปราศจากไอเสีย อวดโฉมใน Motor Show 2018

โพสโดย : rapee / วันที่ : 27 มีนาคม 2018

HONDA ส่ง Civic Hatchback Rallye Red พร้อม Clarity ยนตรกรรมปราศจากไอเสียอวดโฉมใน MOTOR SHOW 2018

DSC00135

วิสัยทัศน์ของฮอนด้าปี 2030 มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการใช้ชีวิตของผู้คน ทั้งในด้านของการเดินทางและการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ สำหรับ บูธฮอนด้า ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 (The Bangkok International Motor Show 2018) จัดแบ่งพื้นที่ในการจัดแสดงยนตรกรรมและเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตของฮอนด้าเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ โซนเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต เพื่อขับเคลื่อนการใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปี 2030 และโซน
จิตวิญญาณความสปอร์ต

โซนเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต (Advanced Technology Zone) นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อการเดินทางและเพิ่มศักยภาพการใช้ชีวิตท่ามกลางสังคมคุณภาพแห่งโลกอนาคตได้อย่างมีความสุข ประกอบด้วย

เทคโนโลยีเพื่อการเดินทาง (Mobility Technology) ฮอนด้ามุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีใน 2 ทิศทางหลัก ควบคู่กัน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment)

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้าได้พัฒนาทั้งเครื่องยนต์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องยนต์เทอร์โบที่มีขนาดเล็ก (Downsizing Engine) ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม แต่ยังให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ซึ่งมีอยู่ในฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ ซีวิค แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ และฮอนด้า ซีอาร์-วี ดีเซล เทอร์โบ ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ระบบ Full Hybrid ที่อยู่ในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รุ่นปัจจุบัน ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังแต่ยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 99 กรัม/กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังได้พัฒนายนตรกรรมพลังงานทางเลือกต่างๆ เพื่อการขับขี่ในอนาคตทั้ง ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ระบบพลังงานไฟฟ้า และพลังงานไฮโดรเจน ซึ่ง ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์ ที่ได้มาจัดแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

DSC00167โดย ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์ ยนตรกรรมพลังงานสะอาดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเชื้อเพลิงและปราศจากไอเสีย แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและความสนุกสนานในการขับขี่ในสไตล์ของฮอนด้า เป็นยนตรกรรมฟิวเซลล์ซีดาน 5 ที่นั่งคันแรกของโลก โดยแผงเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Stack) ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า ผสานระบบส่งกำลังให้มีสมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V-6 สามารถวิ่งได้ระยะทางถึงประมาณ 750 กม.* ต่อการเติมไฮโดรเจนเต็มถัง 1 ครั้ง ซึ่งเป็นระยะทางที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และมีอัตราการประหยัดน้ำมัน (EPA Fuel economy rating) เทียบเท่า 68 ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน (MPGe) (หรือประมาณ 28.3 กิโลเมตร/ลิตร) ทั้งนี้ ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์ เป็นหนึ่งใน ฮอนด้า คลาริตี้ ซีรี่ย์ ที่มีเครื่องยนต์ 3 รูปแบบ ได้แก่ คลาริตี้ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด, คลาริตี้ อิเล็คทริค และคลาริตี้ ฟิวเซลล์  ซึ่งได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มเดียวกันตามกลยุทธ์ ทรี อิน วัน แพลตฟอร์ม

ด้านความปลอดภัย (Safety)

ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ฮอนด้าให้ความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยต่างๆ ทั้งเชิงป้องกันและบรรเทาหากเกิดอุบัติเหตุ (Active & Passive Safety) ที่ติดตั้งในตัวรถ พร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีความปลอดภัยต่างๆ อาทิ

  • ฮอนด้า คอนเนค นวัตกรรมเพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจและเพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทางเป็นเทคโนโลยีที่ผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน โดยผู้ขับขี่และรถยนต์สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งช่วยเตรียมความพร้อมให้รถยนต์และผู้ขับขี่ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมการขับขี่แห่งอนาคตที่เทคโนโลยีจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนน

 ฟังก์ชั่นการใช้งานหลักของฮอนด้า คอนเนค

  • ฟังก์ชั่นสถานะรถยนต์ จะช่วยแจ้งสถานะความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทาง เช่น ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น ฯลฯ  รวมถึงแจ้งเตือนการบำรุงรักษา ประวัติการเข้ารับบริการและกำหนดการเข้ารับบริการครั้งถัดไป เพื่อให้ผู้ใช้ได้ดูแลรถยนต์ให้พร้อม
    ใช้งานอยู่เสมอ
  • ฟังก์ชั่นข้อมูลลักษณะการขับขี่ ที่จะบันทึกข้อมูลการขับขี่และแสดงผลพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ เช่น ระยะทางการขับขี่ ช่วงเวลาการขับขี่ อัตราความเร็วสูงสุด อัตราความเร็วเฉลี่ย และการบันทึกประวัติการเดินทาง
  • ฟังก์ชั่นตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์
  • ผู้ใช้งานสามารถขอพิกัดของรถยนต์ (Find My Car) ได้โดยผ่านฟังก์ชั่นแสดงพิกัดรถยนต์
    เมื่อเลือกฟังก์ชั่นขอพิกัดรถยนต์ ระบบจะทำการส่งพิกัดไปยังอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้
    (เพื่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูล)
  • ในกรณีที่รถยนต์ถูกเคลื่อนย้าย ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติมาที่ฟังก์ชั่นสถานะพิกัดรถยนต์ในแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน
  • ฟังก์ชั่นติดต่อเพื่อช่วยเหลือฉุกเฉิน
  • เมื่อถุงลมทำงานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า (Honda Call Center) เพื่อติดต่อและประสานงานให้ความช่วยเหลือไปยัง
    เบอร์โทรที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรสำรองฉุกเฉิน หากไม่สามารถติดต่อได้ ระบบจะ
    ทำการติดต่อหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (1669)
  • ในกรณีเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่ฟังก์ชั่นเบอร์โทรสำคัญสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า สถานีตำรวจ รถพยาบาล บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริษัทประกันภัย เพื่อบริการประสานงานความช่วยเหลือฉุกเฉิน
  • ฟังก์ชั่นค้นหาและแชร์การเดินทาง ทำงานเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแผนที่ เพื่อค้นหาเส้นทางหรือสถานที่ใกล้เคียง เช่น สถานีบริการน้ำมัน ตู้เอทีเอ็ม  ร้านสะดวกซื้อ หรือ
    ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถทำการบันทึกสถานที่ที่ใช้ประจำ เพื่อช่วยในการนำทางไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถแชร์บันทึกการเดินทาง
    พร้อมภาพถ่ายบนเฟซบุ๊กส่วนตัวได้อีกด้วย
  • ฟังก์ชั่นข่าวสารและสิทธิพิเศษ ทำหน้าที่ให้บริการแจ้งข้อมูลข่าวสารและสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงแจ้งเตือนการต่อประกันภัยและภาษีรถยนต์ล่วงหน้าให้กับผู้ใช้งาน

ลูกค้าที่สนใจติดตั้ง ฮอนด้า คอนเนค สามารถติดต่อศูนย์บริการเพื่อนัดหมายและนำรถยนต์ฮอนด้าของท่านเข้าติดตั้งกล่องอุปกรณ์รับส่งข้อมูลทางไกล (Telematics Control Unit หรือ TCU) ที่ศูนย์บริการฮอนด้าที่สะดวกได้ทั่วประเทศ โดยลูกค้าจะต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Honda Connect Thai (รองรับระบบปฎิบัติการสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 8.0 ขึ้นไปและระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0 ขึ้นไป) หลังจากนั้นศูนย์บริการจะทำการลงทะเบียนเชื่อมต่อข้อมูล TCU และ แอปพลิเคชัน เพื่อสร้างบัญชีการใช้งาน โดยฮอนด้า คอนเนค พร้อมจำหน่ายในราคา 5,900 บาท (ฟรีค่าติดตั้ง และค่าสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อการส่งข้อมูลรายปี รวม 2 ปี)

  • Honda SENSING ที่มีอยู่ในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด นับเป็นมิติใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัย
    อันล้ำสมัย ที่ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า เพื่อตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน
    แล้วแจ้งเตือนผู้ขับขี่หรือช่วยควบคุมรถในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับและผู้โดยสารในรถ รวมถึงเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ประกอบด้วย 4 ระบบ ดังนี้

        1) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันAdaptive Cruise Control (ACC) เป็นระบบที่
ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ แต่จะทำการตรวจจับระยะห่างและความเร็วของรถคันหน้า เพื่อปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างระหว่าง
รถคันหน้าได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลา

2) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบ
ช่วยเบรก
– Collision Mitigation Braking System (CMBS) เมื่อมีรถอยู่ด้านหน้าในระยะที่
ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง หากรถยนต์ยังเข้าใกล้ระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะทำการเสริมแรงเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ระบบ CMBS ยังได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ให้สามารถตรวจจับคนเดินถนนได้อีกด้วย

        3) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ – Lane Keeping Assist System (LKAS)
โดยกล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ และทำการหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถได้ตลอดเวลา

       4) ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ – Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย และในกรณีที่รถออกนอกช่องทางมากขึ้น ระบบจะทำการหน่วงพวงมาลัย เพื่อช่วยดึงให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็วอย่างเหมาะสม (ในกรณีเส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

  • ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Honda Automated Drive) ที่ช่วยลดโอกาสของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งกว่า 90% เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ในอนาคต โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่สะดวกในการขับขี่ด้วยตนเอง ด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้เพื่อให้สามารถคำนวณความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ รวมถึงคำนวณเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นบนท้องถนนโดยรอบที่มีความซับซ้อน และเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดอันตราย รวมทั้งพยายามยับยั้งสาเหตุของสถานการณ์ที่อันตรายอีกด้วย

 เทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิต (Technology for Living)

สร้างสรรค์คุณค่าใน “การดำเนินชีวิต” เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเดินทางและการใช้ชีวิตของผู้คนท่ามกลางสังคมคุณภาพแห่งโลกอนาคต โดยจัดแสดงเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิต ดังนี้

  • ยูนิ-คับ เบต้า (UNI-CUB β) พาหนะส่วนบุคคลรูปแบบใหม่เพื่อการเดินทางระยะสั้น ที่ผสมผสานเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัว และระบบล้อขับเคลื่อนรอบทิศทาง (Omni-Direction Driving Wheel System หรือ Honda Omni Traction Drive System) ที่ต่อยอดมาจากหุ่นยนต์อาซิโม ช่วยให้ ยูนิ-คับ เบต้า สามารถเคลื่อนที่ได้รอบทิศทางอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งเดินหน้า ถอยหลัง ด้านข้าง และแนวทแยง ได้อย่างง่ายดาย เพียงโน้มน้ำหนักตัวไปในทิศทางที่ต้องการ ทั้งยังมีรูปทรงกะทัดรัด จึงเป็นพาหนะส่วนบุคคล ที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในอาคาร เช่น สำนักงาน และห้างสรรพสินค้า ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนได้เป็นอย่างดี
  • ฮอนด้า โรโบแคส (Honda RoboCas) รถเข็นอัจฉริยะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของวิศวกรผู้ออกแบบรถยนต์ชาวญี่ปุ่นที่มาใช้ชีวิตช่วงหนึ่งอยู่ในประเทศไทยและประทับใจในรถเข็นขายอาหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทย โดยนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นรถเข็นอัจฉริยะพลังงานไฟฟ้า นวัตกรรมต้นแบบ ที่สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลายรูปแบบ ซึ่งมีพื้นที่โชว์สินค้าขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมกับร่มหลังคาที่ช่วยบังแดด อีกทั้งสามารถบรรทุกของและขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง นับเป็นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และการใช้ชีวิตประจำวันในอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความฝันที่ผลักดันให้ฮอนด้ามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ

โซนจิตวิญญานสปอร์ต (Sporty Zone)

ฮอนด้า ไม่ได้คิดเพียงแค่การพัฒนายนตรกรรมที่ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความสนุกสนานในการขับขี่ สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 (The Bangkok International Motor Show 2018)  ฮอนด้า ได้จัดแสดงรถยนต์ฮอนด้าทั้ง 12 รุ่น โดยมียนตรกรรม 3 รุ่นไฮไลท์ ได้แก่

  • ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก สีใหม่ สีแดงแรลลี่ ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมแฮทช์แบ็ก มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร โดดเด่นด้วยเส้นสายดีไซน์รอบคัน โดยเฉพาะด้านท้ายที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ เติมเต็มทุกการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่จุได้ถึง 414 ลิตร โดยพนักพิงของเบาะหลังสามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 เพิ่มความเอนกประสงค์ที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์

นอกจากนี้ ยังติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) ที่สามารถสั่งการได้จากระยะไกล เพื่อช่วยอุ่นเครื่องพร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง  เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ  Auto Brake Hold สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เป็นต้นด้วยราคาจำหน่าย 1,169,000 บาท

DSC00152

  • ฮอนด้า บีอาร์-วี ยนตรกรรมแอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ ที่เสริมความแกร่งไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสปอร์ต แพคเกจ จากโมดูโล อาทิ สปอยเลอร์หลัง ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน แผงใต้กันชนด้านหน้า-หลัง และบันไดข้าง เป็นต้น ด้วยราคาจำหน่ายพิเศษเพียง 29,900 บาท นอกจากนี้ยังแนะนำรุ่นใหม่ รุ่น V+ ที่เพิ่มความคุ้มค่าด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยที่ครบครัน ได้แก่ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 1 นิ้ว  กล้องส่องภาพด้านหลัง  พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายและพื้นที่เอนกประสงค์ขนาดใหญ่ โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และรุ่นเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง

เต็มเปี่ยมกับสมรรถนะการขับขี่ที่พร้อมขับเคลื่อนสู่ทุกเส้นทางท้าทาย ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 117 แรงม้า  และระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เอิร์ธดรีมเทคโนโลยี ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม อีกทั้งรองรับพลังงานทางเลือก E85 และมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายในขณะถอยหลัง ด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง (Rearview Camera) เพื่อความมั่นใจในทุกการขับขี่ เป็นต้น

ฮอนด้า บีอาร์-วี มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่น V+  ราคา 755,000 บาท และ รุ่น SV ราคา 820,000 บาท

DSC00143

  • ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ใหม่ แบล็ก สปอร์ต สเปเซียล เอดิชั่น อีโคคาร์ระดับพรีเมียม เสริมความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และล้ออัลลอยแบบสปอร์ตสีพิเศษ Berlina Black ใหม่ พร้อมมอบอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล ชุด Aero แพคเกจฟรี ได้แก่ ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคันแบบสปอร์ต โมดูโล ตกแต่งด้วยลายเส้นสีส้ม และปลอกท่อไอเสียสแตนเลส ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์  i-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ง่ายต่อการควบคุม เพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่ ทุกการเดินทางด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล อาทิ ถุงลมอัจฉริยะด้านคนขับ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบสัญญาณกันขโมย เป็นต้น
  • ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่น V ราคา 517,000 บาท  และรุ่น BLACK SPORT ราคา 579,000 บาท

DSC00135DSC00167DSC00143 DSC00164DSC00163DSC00157DSC00162DSC00152


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " HONDA ส่ง Civic Hatchback Rallye Red พร้อม Clarity ยนตรกรรมปราศจากไอเสีย อวดโฉมใน Motor Show 2018 "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด