Honda ทุ่มหนัก 2.3 ล้านล้านบาท เร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า วางแผนเปิดตัวโมเดลใหม่ 7 รุ่น ภายในปี 2030

Honda ทุ่มหนัก 2.3 ล้านล้านบาท เร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า วางแผนเปิดตัวโมเดลใหม่ 7 รุ่น ภายในปี 2030

Honda Motor วางแผนลงทุน 10 ล้านล้านเยน (หรือประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท) ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ตลอดทศวรรษจนถึงปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2031 เพื่อเร่งให้ทันคู่แข่งในกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูงเช่นประเทศจีน โดยการลงทุนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากเดิมที่วางแผนไว้ในปี 2022

จากการลงทุน 10 ล้านล้านเยน (หรือประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท) Honda จะจัดสรรเงิน 6 ล้านล้านเยน (หรือประมาณ 1.39 ล้านล้านบาท) ในส่วนของการผลิต เงินจำนวนนี้จะนำไปสร้างโรงงาน EV และพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ นอกจากนี้บริษัทจะลงทุน 2 ล้านล้านเยน (หรือประมาณ 2.65 แสนล้านบาท) ในการจัดซื้อซอฟต์แวร์และแบตเตอรี่

Honda ตั้งเป้าที่จะวางระบบเพื่อผลิตรถยนต์ให้ได้ 2 ล้านคัน/ปีภายในปี 2030 โดยสรุปคือ 750,000 คันสำหรับอเมริกาเหนือและจีน และ 500,000 คันสำหรับส่วนที่เหลือของโลก รวมถึงญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป

นอกจากนี้บริษัทยังตัดสินใจลงทุน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3.98 แสนล้านบาท) เพื่อเสริมสร้างระบบการจัดหา EV ในแคนาดา รวมถึงการสร้างห่วงโซ่อุปทานสำหรับวัสดุแบตเตอรี่

ด้วยความพยายามเหล่านี้ Honda ตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนแบตเตอรี่ลง 20% ภายในครึ่งหลังของปีทศวรรษ 2020 นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะลดต้นทุนการผลิตลง 35% ด้วยการสร้างโรงงาน EV เฉพาะในอนาคตอันใกล้นี้ ทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้

อย่างไรก็ตาม ความท้าท้ายสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นคือการทำอย่างไรจึงจะกลับมาครองตลาดในจีน หลังจากยอดขายลดลงท่างกลางการเปลี่ยนแปลงไปสู่ EV

โดยยอดขายของ Honda ในตลาดจีนลดลง 1.5% ในปีการเงินสิ้นสุดในเดือนมีนาคม เหลือ 1.2 ล้านคัน Nikkei รายงานว่าบริษัทกำลังลดขนาดพนักงานประจำฝ่ายผลิตในจีนเนื่องจากยอดขายตกต่ำ โดยมีพนักงานประมาณ 1,700 คนตกลงที่จะลาออกแล้ว

บริษัทตั้งเป้าสัดส่วน 100% ของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงในการขายทั่วโลกภายในปี 2040 ขณะที่ในจีนบริษัทวางแผนที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ภายในปี 2035 ซึ่งเร็วกว่า 5 ปี

โดย Honda ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 10 รุ่นภายในปี 2027 ซึ่งเร็วกว่าแผนเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ 0-Series 7 รุ่นทั่วโลกภายในปี 2030

สุดท้ายนี้ ถ้าหากทางทีมงานทราบรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อนๆ ทราบอีกครั้งนะครับ