เบรคไม่อยู่ หรือ เบรคจม

โพสโดย : admin / วันที่ : 2 สิงหาคม 2012

เบรคไม่อยู่ หรือ เบรคจม

 

ในกรณีที่เครื่องมีปัญหา ไม่ว่าจะขณะจอดหรือวิ่ง เต็มที่ก็เครื่องดับและนิ่งสนิทไปไหนไม่ได้ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องเบรค ไม่ว่าจะด้วยจากการที่แรงดันในระบบรั่วไหลหรือจะเป็นเบรคจม ที่แรงเสียดทานไม่มากพอที่จะหยุดรถ ยิ่งกับตอนที่รถเคลื่อนที่อยู่ด้วยล่ะก็ ไม่อยากคิดเลยล่ะครับ หลายคนอาจจะเคยได้ยินอาการเบรคจมหรือเฟดกันมาบ้าง แต่พอจะทราบสาเหตุ, การป้องกันและวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของอาการดังกล่าวหรือยัง ถ้ายังล่ะก็ ตาม “นาย T” มาเลยครับ

เบรคจมหรือเบรคเฟด (Brake Fade) คือการสูญเสียประสิทธิภาพในการชะลอความเร็ว ซึ่งเกิดจากความร้อนสะสมในระบบที่สูงมาก อันเนื่องมาจากการใช้เบรคหนักๆ ต่อเนื่องนานๆ (อย่างเช่นตอนลงเขาหรือทางที่ลาดชันมากๆ), ผ้าเบรค-จานเบรคหรือน้ำมันเบรคคุณภาพต่ำ ซึ่งจะทำให้น้ำมันเบรคเดือดง่าย, ผ้าเบรคความฝืดในการสร้างแรงเสียดทานให้กับตัวจานเบรค สรุปก็คือเหยียบจนแป้นเบรคเกือบทะลุ รถก็ยังไม่หยุดไหลนั่นเองครับ แต่นอกจากองค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการเบรคเฟดได้อีกด้วยล่ะครับ

ความร้อนกับระบบเบรค เป็นอะไรที่แยกกันไม่ออก เพราะระบบเบรคนั้นอาศัยความฝืดที่เกิดจากผ้าเบรคกับตัวจาน (หรือดุมในกรณีที่เป็นดรัมเบรค) ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความร้อนสูงๆ ที่เกิดจากการเสียดสีของผ้าเบรคกับตัวจานได้

ตรงนี้ตัวผู้ผลิตเค้าก็ได้เลือกเฟ้นชิ้นส่วนคุณภาพมาให้เราในระดับหนึ่ง  สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว แต่ในกรณีที่เอาไปใช้งานผิดประเภทหรือต้องเจอกับสภาวะที่ต้องเบรคอย่างหนัก หน่วง อย่างแปรสภาพไปเป็นรถแข่ง (อันนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง),บรรทุกหนักและลงเขาหรือทางลาดชัน

พฤติกรรมแรกคงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องหาของแต่งที่คุณภาพสูงกว่ามาเปลี่ยนแทน ซะ (ถ้าคิดว่าจะเอาดีทางนี้อ่ะนะ) ส่วนการบรรทุกหนักหรือกับเส้นทางที่ต้องลงทาง ลาดชันยาวๆ นั้น อาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่กันซักหน่อย (ต้องพึ่ง Engine Brake ด้วย) อย่างการบรรทุกหนักเนี่ย เบรคหน้าต้องรับภาระหนักกว่าเดิมอยู่แล้วครับ เพราะเวลาที่เบรคน้ำหนักจะถ่ายเทมายังล้อคู่หน้าเสมอ ยิ่งขับเร็วก็ยิ่งต้องเบรคหนักกว่าปกติ ซึ่งนั่นหมายถึงการที่เบรคจะต้องรับภาระอันหนักอึ้งตามไปด้วย เพราะฉะนั้นหากต้องบรรทุกหนัก ก็ควรจะใช้ความเร็วพอประมาณ ไม่ใช่ขับระห่ำจนประสิทธิภาพของเบรคเอาไม่อยู่นะครับ

กับการขับรถลงเขาหรือทางลาดที่มีระยะทางค่อนข้างยาว แล้วใช้เบรคอย่างเดียวนั้นไม่ถูกนะครับ เพราะนั่นหมายถึงการโยนภาระให้กับระบบเบรคเพียงอย่างเดียว ลองนึกภาพตามนะครับว่าบนถนนที่ลาดชันเนี่ย น้ำหนักมันก็จะถ่ายเทไปที่ล้อคู่หน้ามากกว่าบนพื้นราบอยู่แล้ว ทีนี้เมื่อเราเบรคน้ำหนักก็จะยิ่งถ่ายเทไปยังที่ล้อค

หน้าเยอะตามไปด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เบรคจมยังไงไหวล่ะครับ ดังนั้นเราจึงควรที่จะใช้ตัวช่วยอย่าง Engine Brake ร่วมด้วย ในกรณีที่เป็นเกียร์ธรรมดาก็ง่ายหน่อย เพราะสามารถเปลี่ยนไปใช้เกียร์ 1, 2 หรือ 3 ได้ทันที (ต้องพิจารณาจากความเร็วกับรอบเครื่องเป็นสำคัญ)

ส่วนเกียร์อัตโนมัตินั้นก็ต้องย้ายตำแหน่งคันเกียร์ไปอยู่ที่ L (Low), 1 หรือ 2 แทน และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือแวะพักเป็นระยะๆ เพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของระบบเบรคได้คลายความ ร้อนที่สะสมบ้างนั่นเองครับ แต่หากต้องเผชิญกับการใช้งานดังกล่าวบ่อยๆ “นาย T” ว่าควรจะอัพเกรดชิ้นส่วนต่างๆ ควบคู่ไปด้วยเลยก็ดีครับ อย่างผ้าเบรคทนอุณหภูมิสูงกับน้ำมันเบรค DOT 4 หรือ 5 ก็พอที่จะช่วยป้องกันอาการเบรคจมได้เช่นกันครับ และที่สำคัญคือปรับพฤติกรรมการชะลอและลดความเร็วซักนิดก็ดีครับ เพราะเบรคมีไว้เพื่อลดความเร็วเมื่อต้องการจะหยุดรถ ไม่ใช่ลงทางลาดแล้วหวังพึ่งแต่เบรคอย่างเดียวก็ไม่ได้นะครับ

“นาย T” เคยคุยกับคนขับรถตู้ (รับจ้าง) ซึ่งเคยพาลูกค้าไปทัวร์ภาคเหนือ ซึ่งต้องบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันขึ้น-ลงดอยที่ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆ ตอนขึ้นนะไม่เท่าไหร่ เพราะเครื่องยนต์มีกำลังพอ แต่ตอนลงนี่ซิ พี่เค้าเล่นให้ฟังแบบหวาดเสียวว่าบางจังหวะมีอาการเบรคเกือบไม่อยู่ด้วย ดีที่พี่เค้ายังจอดพักให้ผ้าเบรค, จานเบรคกับน้ำมันเบรคได้คลายความร้อนบ้าง ฟังแล้วหวั่นๆ แทนผู้โดยสารเลยอ่ะครับ ก็อย่างที่ “นาย T” บอกนั่นแหละครับ ว่าถ้าเครื่องมีปัญหา เต็มที่ก็จอด แต่ถ้าเบรคมีปัญหาแล้วจะไปเอาอะไรมาลดความเร็วล่ะครับ พี่น้อง ?

 

ขอขอบคุณข้อมูล www.thaicartrick.com/


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " เบรคไม่อยู่ หรือ เบรคจม "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด