รีวิวเปิดประสบการณ์ MINI Driving Experience 2016 สัมผัส Go-Kart Feeling ในมินิ ทุกรุ่น

โพสโดย : pon / วันที่ : 19 พฤษภาคม 2016

รีวิวเปิดประสบการณ์ MINI Driving Experience 2016 สัมผัส Go-Kart Feeling ในมินิ ทุกรุ่น

MINI Driving Experience 2016

มินิ ประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชน ร่วมทดสอบรถมินิ หลากรุ่นในงาน MINI Driving Experience 2016 ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ เพื่อร่วมสัมผัสสมรรถนะของรถ มินิ ตำนานจากอังกฤษ ซึ่ง 9carthai เราได้รับเกียรติให้เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้ด้วย

2016-MINI-Driving Experience_28

MINI Driving Experience 2016 ได้แบ่งการทดสอบในช่วงแรก แบ่งออกเป็น 2 Station

  • Station แรก มีชื่อว่า Elk Test ซึ่งเป็นลักษณะของการหักหลบสิ่งกีดขวางแบบ Lane Change ซ้าย-ขวา-ซ้าย (โดยชื่อ Elk นั้นมาจากกวาง)

ใน Station แรกนี้เราได้ขับ Mini 5-Door Diesel โดยการทดสอบนั้น ทดสอบจากการออกตัวที่จุดหยุดนิ่ง จนถึงไพลอนที่ตั้งอยู่ทางด้านหน้าให้ยกคันเร่ง และหักหลบ ซ้าย-ขวา-ซ้าย โดยไม่ต้องแตะเบรก และที่เหลือให้ระบบ DSC ช่วยแก้อาการของตัวรถ

2016-MINI-Driving Experience_29

ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลของ Mini นี้ ให้ทอร์ค ในช่วงต้นได้ดีเยี่ยม รถพุ่งทะยานออกตัวอย่างรวดเร็ว ในครั้งแรก เราเข้าด้วยความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. พบว่า รถมีการยึดเกาะถนนที่ดี และยังสามารถหักหลบซ้าย-ขวา ได้ค่อนข้างเนียน โดยที่ตัวรถไม่เสียอาการมากนัก แต่อีกรอบเราเข้าด้วยความเร็วที่สูงขึ้นราวๆ 60 กม./ชม. จะพบว่า จังหวะหักกลัว ขวา รถเริ่มเป๋ออกท้ายโยน และตวัดกลับมาซ้าย จังหวะนี้ สัมผัสได้เลยว่าระบบ DSC ทำงาน โดยช่วยเบรกหลัง เอาไว้ไม่ให้รถเสียอาการไปมากกว่านี้

2016-MINI-Driving Experience_27

โดยรวมใน Station นี้จะเป็นการโชว์ประสิทธิภาพการยึดเกาะของ Mini แฮนด์ลิ่งที่ตอบสนองได้ฉับไว และเฉียบคม รวมไปถึงการทำงานของระบบ DSC ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว

2016-MINI-Driving Experience_04

  • Station ที่ 2 เป็นการขับวนเลข 8 บนพื้น Wet Track ซึ่งคราวนี้เราสลับมาขับ Mini Clubman Cooper S กันบ้าง

Station นี้ เริ่มต้นจะให้ทดสอบโดยการปิดระบบ DSC เสียก่อน เราเติมคันเร่งเข้าไปเพื่อเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นจน หน้าเริ่มบานบานโค้งออก จากรัศมีที่ควรจะเป็น สำหรับรุ่น Clubman นี้ อาการค่อนข้างออกได้ง่าย เนื่องจากเป็นคันที่ยาวกว่าเพื่อน ซึ่งการเลี้ยวในวงเช่นนี้จะกินรัศมีที่มากกว่าเพื่อนอีกด้วย การแก้อาการรถโดยทั่วไป เพียงแค่ ยกคันเร่งออกและเพิ่มวงเลี้ยวเข้าไป รถก็จะกลับเข้ามาในรัศมีที่ควรจะเป็น

2016-MINI-Driving Experience_06

ในรอบต่อมา เรากดเปิดระบบ DSC ให้มันทำงาน และขับในรูปแบบเดิม พบว่า เมื่อความเร็วเกินกำหนด และรถมีอาการบานโค้งออกไปเรื่อยๆ ระบบจะเข้ามาช่วยเบรกที่ล้อได้ค่อนข้างนุ่มนวลทีเดียว ทำให้อาการบานโค้งนั้น น้อยลง และคุมวงเลี้ยวได้ง่ายขึ้น แต่นั่นยังไม่พอเรายังอยากลองทดสอบระบบ DSC ให้มากกว่านี้อีกหน่อย ผู้เขียนจึงเพิ่มคันเร่งมากขึ้น และใช้ลักษณะของการคัดพวงมาลัยเข้าช่วย เพื่อพยายามให้รถวิ่งอยู่ในรัศมีวงเลี้ยวที่ควรจะเป็นให้ได้ ในความเร็วที่พยายามเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

แต่ต้องพบว่าระบบ DSC จากที่เคยเข้ามาช่วยเบรกอย่างนุ่มนวลในจังหวะแรก เริ่มทำงานหนักขึ้น สัมผัสได้จากล้อหลังที่โดนเบรกจนเสียงดังและมีอาการไถลของตัวรถบ้าง ในจังหวะที่หักวงเลี้ยวพวงมาลัยในทิศตรงข้าม จุดนี้น่าประทับใจเช่นเดียวกับ การทดสอบ Elk Test ระบบเข้ามาช่วยได้อย่างรวดเร็วทำให้ อาการบานโค้งในจังหวะหักพวงมาลัยกลับมีไม่มากนัก

2016-MINI-Driving Experience_05

Station นี้บอกเราว่า หากคุณเริ่มเกิดอาการบานโค้ง (มีอาการเริ่มจะแหกโค้ง) ระบบ DSC จะไม่นิ่งนอนใจให้คุณหลุดโค้งออกไปได้ง่าย อย่างแน่นอน หลังจากนั้นก็ ผ่อนคันเร่งและควบคุมพวงมาลัย เพียงเท่านี้โค้งไหนๆ ก็จะไม่ใช่อุปสรรคที่น่ากลัวอีกต่อไป

2016-MINI-Driving Experience_15

มาถึงในช่วงสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยเป็นการขับแบบ Full Lap ที่ทาง Instructor ได้วาง โดยมีรถ Instructor นำเพื่อคุมความเร็ว ซึ่งทุกคนจะได้ขับรถทุกรุ่นในกรุ๊ปของตนเอง

MiniDrivingEXP_resize

โดยผู้เขียน ได้เริ่มทดสอบรถ ที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้

Mini Countryman Cooper SD All4
Mini Hatch 3-Door JCW
Mini Hatch 3-Door Cooper S JCW Dress Up
Mini 5-Door Cooper S JCW Dress Up
Mini Clubman Cooper S

2016-MINI-Driving Experience_09

การขับทดสอบ เริ่มต้นขึ้นจากการทดสอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และให้กระทืบเบรกลงเพื่อหยุดรถโดยกะทันหัน ก่อนที่จะขับวนโค้งรอบนอกเข้าไปที่โค้งชั้นใน และขับไล่ออกมาที่ Station Elk Test อีกครั้ง

2016-MINI-Driving Experience_01

ซึ่งผู้เขียนพบว่า ในรถ Mini Cooper S JCW ทั้ง 3 คันนั้นให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่ใกล้เคียงกันในแบบ Go-Kart Feel จากน้ำหนักพวงมาลัย และภาพรวมการขับ

ในด้านของอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงไพลอนที่ตั้งเบรก 3-Door ทั้ง 2 รุ่นพบว่าทำได้เท่าๆกันที่ระดับ 120 กม./ชม.

เมื่อกด Mode Sport จะพบตัวหนังสือบอกว่า Maximum Go-Kart Feel ให้อารมณ์สปอร์ตเต็มที่ พวงมาลัยที่ค่อนข้างหนักอยู่แล้ว หนืดเพิ่มขึ้นอีก คันเร่งตอนสนองฉับไว ลากรอบได้สูง และไม่ตัดขึ้นเกียร์ในจังหวะชู๊ตคันเร่งมา

2016-MINI-Driving Experience_36

ขณะที่รุ่น 5-Door อัตราเร่งจะช้ากว่าเล็กน้อย ราวๆ 115 กม./ชม. แต่ภาพรวมในการขับขี่ยังคงใกล้เคียงกันกับรุ่น 3-Door คือ พวงมาลัยมีน้ำหนัก และให้ความแม่นยำดี รวมถึงทรงช่วงล่างที่แน่นในทุกการเข้าโค้ง แต่ผู้เขียนพบว่ารุ่น 5 Door นี้ ความกระฉับกระเฉงในโค้งจะน้อยกว่า Hatch เล็กน้อย เห็นชัดโดยเฉพาะช่วง Elk Test พบว่าอาการเหวี่ยงมากกว่า 3-Door แบบเห็นได้ชัด ในการเข้าด้วยลักษณะที่ใกล้เคียงกัน

2016-MINI-Driving Experience_08

ถัดมากับ Clubman ด้วยสไตล์ของตัวรถที่ติดหรู นั่งสบายกว่าเพื่อน รวมไปถึงบุคลิกของตัวรถที่ ทำให้ขับขี่ได้ สบายขึ้น แต่ยังคงสไตล์ Go-Kart Feeling ของมินิ เอาไว้

ในรุ่น Clubman จุดเด่น จะอยู่ที่เทคโนโลยีความหรู สะดวกสบาย อาทิ เบาะปรับไฟฟ้า, เบรกมือไฟฟ้า, ประตูบานหลังแบบ เปิด 2 ฝั่ง ซึ่งสามารถใช้วิธี Kick Open Boot การเปิดได้ ซึ่งเป็นการถอดแบบรถของการเปิดฝากระโปรงท้ายรถ BMW มาเลยก็ว่าได้

2016-MINI-Driving Experience_17

จุดต่างก็ คือ น้ำหนักพวงมาลัยที่ดูเบาสบายขึ้น และช่วงล่างที่ดูไม่แข็งเท่า 3 รุ่น JCW ในคันนี้

ในด้านการขับขี่นั้น ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวกว่า อยากเห็นได้ชัดการเลี้ยวโค้งไลน์ใน ควรที่จะต้องเปิดไลน์นอก ก่อนจะช่วยให้การเข้าโค้งนั้นทำได้ง่ายยิ่งขึ้น จุดที่เราพบคือ การโค้งนั้น Clubman จะดู Understeer มากกว่ารุ่นอื่นๆ และในจังหวะ Elk Test นั้น เราเลือกที่จะเผื่อระยะในการหักเลี้ยวมากขึ้น รวมถึงลดความเร็วลงมาให้ต่ำกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ทดสอบไปก่อนหน้า เพื่อให้ควบคุมได้ง่ายยิ่งขึ้น

2016-MINI-Driving Experience_15

ปิดท้ายด้วยรุ่น Countryman Cooper SD All4 ซึ่งจะเป็นรถสไตล์ Crossover พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ในรุ่นนี้

ด้วยรูปลักษณ์รถ Crossover จึงทำให้ตำแหน่งการนั่งของรถคันนี้ อยู่ในตำแหน่งที่ขับขี่ได้สบายที่สุด และมีวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีด้วยเช่นกัน

ในด้านของการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร มีทอร์คดี เรียกแรงบิดช่วงออกตัวได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่า รถจะมีน้ำหนักมากกว่าเพื่อน รวมการใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขณะที่ช่วงออกตัวเน้นอัตราเร่งนั้นดูด้อยกว่าเพื่อนๆตระกูล Cooper S

2016-MINI-Driving Experience_21

ขณะที่การขับขี่ใน Cooper SD คันนี้ให้ความรู้สึกแบบรถครอบครัว ในแบบผู้ใหญ่ขับแล้ว คงชอบที่สุดด้วยเช่นกัน ทั้งสไตล์ของพวงมาลัยและช่วงล่าง ซึ่งต่างจากเพื่อน Cooper S ที่ให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่า

อย่างไรก็ดีมีจุดหนึ่งที่เจ้า Crossover คันนี้เด่นกว่าเพื่อน ก็คือในเรื่องของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Fulltime ซึ่งแปลผันอัจฉริยะ โดยเฉพาะในช่วงที่เข้าโค้งหนักๆ จนตัวรถเหวี่ยงระบบเพลาขับเคลื่อนจะกระจายแรงไปยังล้อต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดอาการขวางลำได้เป็นอย่างดี เนื่องจากระบบขับ 4 ล้อ จากเพลาขับล้อคู่หลังมักจะขับเคลื่อนทำให้เมื่อรถเสียอาการแล้ว โอกาสท้ายดันรถจนขวางลำที่เกิดขึ้นได้บ่อยนี้หมดไป

2016-MINI-Driving Experience_22

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เราหวังว่าเพื่อนๆ ที่แอบสนใจ Mini คงจะพอเลือกรูปแบบรถที่ตนเองชอบต้องการได้แล้วนะครับ อย่างไรก็ดี Mini ถือเป็นรถเล็กที่มีสมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม ทรงพลัง และขับสนุกซึ่งเราอยากให้คุณไปลองด้วยตนเองถ้ามีโอกาส

และที่สำคัญ สำหรับคนที่ชอบกังวลกับเรื่อง Service จะบอกว่า ไร้กังวลได้เลย ทาง มินิ ประเทศไทย ได้มีโปรแกรมบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ (ในแบบเดียวกับ BSI) ไม่ต้องมาคิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพื่อมาเป็นประเด็นในการตัดสินใจซื้อรถคันโปรดขับสนุกอีกต่อไป

2016-MINI-Driving Experience_13

ขอขอบคุณ มินิ ประเทศไทย สำหรับกิจกรรม 2016 Mini Driving Experience ในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิวเปิดประสบการณ์ MINI Driving Experience 2016 สัมผัส Go-Kart Feeling ในมินิ ทุกรุ่น "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด