รถไฟฟ้าสายสีทองขบวนแรกถึงไทยวันนี้ พิษโควิดเลื่อนเปิดเป็น ต.ค. สายสีชมพู-เหลือง เลื่อนด้วย

รถไฟฟ้าสายสีทองขบวนแรกถึงไทยวันนี้ พิษโควิดเลื่อนเปิดเป็น ต.ค. สายสีชมพู-เหลือง เลื่อนด้วย

รายงานข่าวจากศาลาว่าการ กทม. แจ้งว่า วันนี้ (18 มิ.ย.63) ผู้บริหาร บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) พร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (วิสาหกิจของ กทม.) จะเดินทางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อรับรถไฟฟ้าที่จะนำมาใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ช่วงสถานีกรุงธนบุรี-สถานีสำนักงานเขตคลองสาน ซึ่งรถไฟฟ้าดังกล่าวผลิตที่ประเทศจีน

โดยบริษัทผผู้ผลิตได้จัดส่งมาก่อน 1 ขบวน จำนวน 2 ตู้โดยสาร จากจำนวนที่จัด ซื้อทั้งหมด 3 ขบวน ส่วนขบวนที่เหลือจะจัดส่งมาภายหลัง ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดยังมีปัญหาอยู่ ทำให้กำหนดการเดินรถไฟฟ้าสายสีทองจะต้องเลื่อนกำหนดจากเดิมเดือนสิงหาคมเป็นตุลาคมปีนี้

ทางด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังจากบอร์ด รฟม.ได้พิจารณาขยายเวลาการก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เนื่องจากติดปัญหาการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า

โดยในส่วนการเปิดเดินรถยังคงเป็นไปตามสัญญา ในเดือน ต.ค.2564 โดยจะทยอยเปิดเดินรถแบ่งเป็นช่วงๆ (Partial) จนครบตลอดเส้นทางในเดือน ต.ค.2565 นั้น ล่าสุดรับแจ้งว่า ในส่วนของตัวรถไฟฟ้า ซึ่งได้สั่งผลิตตัวรถและ Rolling Stock จากเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน

ทางผู้ผลิตได้แจ้งว่า ขอเลื่อนการส่งมอบรถจากเดือน ธ.ค.2563 ออกไปประมาณ 3 เดือน เนื่องจากติดปัญหาโรคโควิด-19 ทำให้โรงงานต้องหยุดไลน์การผลิตไปช่วงหนึ่ง และแม้ว่าสถานการณ์ในประเทศจีนจะดีขึ้นแล้ว แต่ไลน์การผลิตยังเปิดไม่เต็ม 100%

นายภคพงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้ทางผู้เกี่ยวข้องได้เจรจากับผู้ผลิตจีนเพื่อให้เร่งการผลิตและทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าให้ทันตามแผนเดิม ซึ่งฝ่ายจีนยังไม่ตอบยืนยัน

ทั้งนี้ ตามแผนจะต้องเริ่มทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าในเดือน ธ.ค.2563 จะมีเวลาประมาณ 9 เดือนในการเตรียมพร้อมทดสอบระบบรถ ระบบควบคุม และทดสอบการเดินรถเสมือนจริง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6 เดือน จึงจะเปิดเดินรถได้ตามแผนใน ต.ค.2564

แต่หากส่งมอบรถไฟฟ้าช้าออกไปอีก 3 เดือน เวลาที่เหลืออาจจะทดสอบระบบรถไม่ทัน ดังนั้น หากสิ้นปี 2563 รถไฟฟ้ายังส่งมอบไม่ได้ อาจจะกระทบการเปิดเดินรถช่วงแรกที่จะต้องขยับออกไป.

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : ไทยรัฐ