Chevrolet ลงทุน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เสริมจุดแข็งในตลาดเกิดใหม่

Chevrolet ลงทุน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เสริมจุดแข็งในตลาดเกิดใหม่

ดีทรอยท์ – เชฟโรเลตประกาศแผนการลงทุน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก ด้วยการพัฒนายานยนต์ตระกูลใหม่ล่าสุดที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

“มีการประเมินว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ระหว่างปี พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 2573 จะเกิดขึ้นนอกตลาดที่อิ่มตัวแล้ว เชฟโรเลตจึงเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการเติบโตดังกล่าว” แดน อัมมานน์ ประธานกรรมการ เจนเนอรัล มอเตอร์สกล่าว “การเสริมจุดแข็งให้เชฟโรเลตด้วยการลงทุนครั้งใหญ่นี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ ระดับโลกของเราที่มุ่งสร้างการเติบโตและสร้างผลกำไรในระยะยาวในตลาดที่เรา ดำเนินธุรกิจอยู่”

ด้วยการสร้างสรรค์ยานยนต์ตระกูลใหม่ล่าสุดขึ้นมาแทนที่ยานยนต์ที่มีอยู่ ในปัจจุบัน เชฟโรเลตคาดหวังว่าจะยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันและเพิ่มศักยภาพใน การสร้างผลกำไรด้วยการนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าในแต่ละตลาดคาดหวัง พร้อมกับสร้างประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนายานยนต์ระดับโลก”

“รถรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ ลูกค้าโดยตรง โดยให้ความสำคัญที่การเชื่อมต่อ ความปลอดภัยและความประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งลูกค้าจะได้รับความคุ้มค่าสูงสุด” มาร์ก รอยส์ รองประธานบริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ การจัดซื้อและการจัดการชิ้นส่วนการผลิตระดับโกลเบิลของจีเอ็มกล่าว “ยานยนต์รุ่นใหม่จะเป็นการผสมผสานความพึงพอใจและความคุ้มค่าในแบบที่ไม่เคย มีบริษัทรถยนต์รายใดเคยนำเสนอมาก่อนในตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตเหล่านี้”

จีเอ็มยังได้ขยายความร่วมมือกับเอสเอไอซี มอเตอร์ ผ่านข้อตกลงในการร่วมกันพัฒนาโครงสร้างและเครื่องยนต์ของยานยนต์ตระกูลใหม่ ล่าสุด โดยคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้ต้นทุนการผลิตลงลงได้และช่วยประสิทธิภาพ ด้านต้นทุนโดยรวมของยานยนต์ โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญของแผนความร่วมมือ ด้านโครงสร้างซึ่งจีเอ็มเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้

รถรุ่นใหม่นี้อยู่ระหว่างการพัฒนาโดยทีมวิศวกรและนักออกแบบจากหลายประเทศ ที่ได้รับมอบหมายให้พัฒนายานยนต์ทุกรุ่นที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าในแต่ ละประเทศ รถรุ่นใหม่นี้จะผลิตและจำหน่ายในหลายประเทศ ทั้ง บราซิล จีน อินเดียและเม็กซิโก และส่งออกไปจัดจำหน่ายยังตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญอีกหลายแห่ง ปัจจุบันไม่มีแผนการส่งออกยานยนต์ไปสู่ตลาดที่อิ่มตัวแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา การใช้บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศในเปอร์เซ็นต์ที่สูงจะช่วยประหยัด ต้นทุนอย่างมหาศาลตลอดการดำเนินโครงการ คาดการณ์ว่าโครงการนี้จะผลิตยานยนต์มากกว่า 2 ล้านคันต่อปี โดยรถรุ่นแรกมีแผนการเปิดตัวเป็นรถรุ่นปี 2019

“เราดำเนินมาตรการสำคัญมากมายตลอดช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจของเราในหลายตลาดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ แผนการปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อให้ความสำคัญกับลูกค้ามากยิ่งขึ้นและสร้างผล ตอบแทนที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ถือหุ้นของเรา” อัมมานน์กล่าว “แนวคิดการสร้างการเติบโตครั้งนี้เป็นเดินหมากก้าวสำคัญเพื่อมุ่งสู่เป้า หมายการสร้างบริษัทยานยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกของเรา”

ข้อมูลเพิ่มเติมของแผนการลงทุนและยานยนต์ตระกูลใหม่ล่าสุดจะได้รับการประกาศในแต่ละตลาดอีกครั้งในอนาคต