Buick เข้าสู่ปีที่ 110 คัดเลือก 11 โมเดล เป็นตัวแทนแต่ละทศวรรษ

เข้าสู่วาระครบรอบ 110 ปีแล้วสำหรับค่าย Buick ทางค่ายได้ทำการคัดเลือกโมเดลมา 11 รุ่นสำหรับแต่ละทศวรรษ แน่นอนว่า การเลือกรถเพียง 1 โมเดลในช่วงเวลา 10 ปี ถือเป็นงานที่ยาก และต้องใช้เวลาพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน และนี่ก็เป็นรายชื่อของทั้ง 11 โมเดล ซึ่งตัวแทนของแต่ละช่วงทศวรรษ เรียงลำดับตามช่วงเวลาดังนี้

1903-1912: 1904 Buick Model B

โมเดลคันแรกจากค่าย Buick ที่ได้รับเกียรติให้เป็นโมเดลตัวแทนคันแรกแห่งทศวรรษ โดยรถคันแรกถูกขายไปให้กับนายแพทย์คนหนึ่งนามว่า Herbert H. Hills of Flint จากรัฐ Michigan รถคันนี้จึงถูกเรียกกันภายหลังว่าเป็น “รถของแพทย์”

1913-1922: 1916 D-45 Touring

D-45 Touring เป็นโมเดลที่ทำยอดขายได้สูงสุดในปี 1916 หลังจากที่ทางค่ายเปลี่ยนเครื่องยนต์ 4 สูบ เป็น 6 สูบ ยอดขายก็พุ่งขึ้นถึง 6 หลักเป็นครั้งแรกในปีนั้น และกลายมาเป็นแบรนด์ที่ทำยอดขายสูงสุดภายหลังอีก 2-3 ปีต่อมา และส่วนใหญ่ก็มาจากโมเดล Touring 5 ที่นั่งคันนี้

1923-1932: 1931 Series 50

ในปี 1931 ทางค่ายได้ทำการเพิ่มแรงม้าขึ้นอีกครั้ง ในครั้งนี้เพิ่มจาก 6 สูบ ไปเป็น 8 สูบเลยทีเดียว โดยโมเดล Series 50 ก็กลายมาเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุดในปีนั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า และเพิ่มการอัพเกรดงานดีไซน์เข้าไป ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ให้กับทางค่ายระหว่างช่วงภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ของโลก (Great Depression)

1933-1942: 1936 Century

1936 Buick Century ได้แสดงมุมมองด้านการปฏิวัติของประธานาธิบดี Harlow Curtice สำหรับแบรนด์ โมเดล Century คันนี้ ตกแต่งด้วยงานดีไซน์ดูเพรียวลม และเป็นโมเดล Buick คันแรกที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 100 ไมล์/ชม. (161 กม./ชม.) ทำให้ตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 53,249 คันในปี 1935 ไปเป็น 168,596 คันในปี 1936 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีหลังจากนั้น

1943-1952: 1949 Roadmaster

1949 Roadmaster เป็นที่โด่งดังที่สุดในด้านของงานดีไซน์ รวมถึงกระจังหน้าและช่องประตูลายน้ำตก และเป็นหนึ่งในโมเดลที่ได้รับการสะสมมาตลอด จนกระทั่งกลายไปเป็นดาวเด่นแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Rain Man ในปี 1988

1953-1962: 1953 Skylark

ค่าย Buick ทำการฉลองครบรอบ 50 ปี ด้วยการนำเสนอโมเดล 1953 Skylark สู่ตลาด โดยเป็นรถ convertible รุ่น limited-edition พร้อมงานดีไซน์และเทคโนโลยีขั้นสูง รถ Skylark แต่ละคัน มาพร้อมพวงมาลัยสไตล์อิตาเลียน และได้รับการแกะสลักชื่อเจ้าของบนพวงมาลัยอีกด้วย ในปี 1953 ถือเป็นปีที่ทางค่ายนำเสนอเครื่องยนต์ 8 สูบ พร้อมเกียร์อัตโนมัติเทอร์โบคู่ Dynaflow โฉมใหม่

1963-1972: 1963 Riviera

น่าจะเป็นงานดีไซน์ที่ดูจะมีชื่อเสียงที่สุดจากทางค่าย 1963 Riviera ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นรถสไตล์ coupe แบบสปอร์ต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Rolls-Royce ที่ Bill Mitchell ผู้บริหารจากค่ายเห็นผ่านหมอกในกรุงลอนดอน โมเดล Riviera คันนี้ ถือเป็นการเพิ่มภาพลักษณ์ให้กับทางค่ายก็ว่าได้

1973-1982: 1975 Regal

Buick ได้ปรับตัวเข้ากับวิกฤตการณ์น้ำมัน และนำเสนอโมเดล 1975 Regal ออกมา พร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบ ในขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ นำเสนอเพียงเครื่องยนต์ 8 สูบเท่านั้น ทุกวันนี้ ทางค่ายนำเสนอเครื่องยนต์เพียง 4 สูบในโมเดลถึง 5 ตัวในปี 2013

1983-1992: 1987 GNX

1987 GNX ยังคงเป็นรถที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจากทางค่าย โดยผสมผสานเครื่องยนต์ 6 สูบน้ำหนักเบา เข้ากับความสำเร็จของแบรนด์ในการแข่ง NASCAR ด้วยกำลัง 276 แรงม้าใต้ฝากระโปรง ทำให้ GNX เร่งจาก 0-60 ไมล์/ชม. (96 กม./ชม.) ได้ภายในเวลาเพียง 4.6 วินาทีเท่านั้น อย่างน้อยที่สุด ก็ตามรายงานจากแมกกาซีน Car&Driver

1993-2002: 1999 Century

1999 Century เป็นโมเดลจากค่าย Buick คันแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศจีน เพื่อทำตลาดท้องถิ่นโดยเฉพาะ การตัดสินใจที่จะสร้างรถขึ้นในจีน ส่งผลให้ประเทศในแถบเอเชียเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของทางค่าย พร้อมยอดจำหน่ายถึง 700,007 คันในปี 2012

2003-2012: 2008 Enclave

ตามรายงานจากค่าย General Motors รถหรูตระกูล crossover ภายใต้ชื่อ 2008 Enclave เป็นการเริ่มต้นงานดีไซน์แบบปัจจุบันของทางค่าย ตามมาด้วย LaCrosse sedan ซึ่งจำหน่ายไปในฐานะโมเดลปี 2010

เพื่อนๆ มีความเห็นว่าอย่างไร ทางค่าย Buick พลาดอะไรไปหรือไม่ สามารถร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้ที่ด้านล่าง