รีวิว Yamaha MT-15 เด็ดเกินใคร เร้าใจเกินตัว ที่สุดของ Naked Bike 150cc.

รีวิว Yamaha MT-15 เด็ดเกินใคร เร้าใจเกินตัว ที่สุดของ Naked Bike 150cc.

น่าจะเป็นรุ่นเดียวในคลาสที่กล้าเรียกได้อย่างเต็มปากว่ามันคือ “Naked Bike” สำหรับ Yamaha MT-15 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน MotoGP เดือนตุลาคมปี 2018 โดยมาพร้อมกับดีไซน์ที่ถูกถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่ในตระกูล MT Series อย่างลงตัว ประดุจขี่ Yamaha MT-09 ในพิกัด 150cc. ยังไงยังงั้น

จุดเด่นของ Yamaha MT-15 คงหนีไม่พ้นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ที่มาพร้อมความดุดัน เร้าใจเต็มพิกัด เริ่มจากด้านหน้าที่มาพร้อมโคมไฟหน้าแบบ Yamaha MT-09 ซึ่งติดตั้งชุดไฟ DRL แบบ LED ส่วนไฟหน้าเป็นแบบทรงกลมติดตั้งไว้ด้านล่างไฟ DRL, ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ และให้ท่วงท่าการขับขี่ที่ทะมัดทะแมงด้วยแฮนด์บาร์, ชุดแฟริ่งด้านข้างดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมติดตั้ง Ram Air (ช่องดักอากาศ) ไว้ด้านหน้า, ถังน้ำมันขนาดใหญ่ความจุ 10 ลิตร ขุดร่องเว้าหลบหัวเข่าอย่างมีมิติ, เบาะนั่งตอนเดียวยกระดับผู้ซ้อนท้ายขึ้นเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยไฟท้ายดีไซน์สปอร์ตแบบ LED โดยตัวรถจะเปลือยชุดแฟริ่งตามสไตล์ Naked Bike พร้อมโชว์เฟรมรถแบบ Deltabox อันแข็งแกร่ง น้ำหนักเบา

มิติตัวถัง Yamaha MT-15

• ความยาว : 1,965 มม.
• ความกว้าง : 800 มม.
• ความสูง : 1,065 มม.
• น้ำหนักตัวรถ : 133 กก.
• รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด : 2.4 ม.
• ความสูงเบาะนั่ง : 810 มม.

สำหรับหน้าปัดเรือนไมล์ของ Yamaha MT-15 นั้น มาพร้อมหน้าจอแบบ Negative LCD อันล้ำสมัย ที่บอกรายละเอียดได้อย่างครบครันแบบ Multi-Function แสดงผลด้วยระบบดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็น รอบเครื่องยนต์, วัดรอบความเร็ว, อัตราน้ำมันเชื้อเพลิง, เวลา, ตำแหน่งเกียร์ พร้อมระบบไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ (Shift Light) ซึ่งจะแสดงไฟเตือนสีขาวเมื่อรอบเครื่องถึงจังหวะที่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ปิดท้ายด้วยไฟแสดงสถานะการทำงานของ VVA (เมื่อรอบเครื่องถึง 7,000 รอบ/นาที)

ด้านระบบช่วงล่างของ Yamaha MT-15 นั้น มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ Upside Down (โช้คอัพหัวกลับ) กระบอกสีทอง ที่ให้อารมณ์สปอร์ต เร้าใจเต็มพิกัด ส่วนด้านหลังเป็นแบบโช้คอัพเดี่ยว รับกับกระเดื่องให้ตัวบนสวิงอาร์มอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ด้านระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหน้า และหลัง โดยด้านหน้าเป็นปั้มเบรกแบบ 2 ลูกสูบ ส่วนด้านหลัง 1 ลูกสูบของ Nissin ซึ่งติดตั้งอยู่บนล้อแม็กลายสปอร์ตสีส้มขนาด 17″ รัดด้วยยาง IRC Road Winner ที่ขนาดยางหน้า 110/70-17 M/C และด้านหลังขนาด 140/70-17 M/C ซึ่งเป็นยางแบบ Tubeless (ไม่มียางใน) ทั้ง 2 ล้อ

สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์ของ Yamaha MT-15 นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1 สูบ ขนาด 155cc. แบบ SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 58.0 x 58.7 มม. กำลังอัด 11.6:1 จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด พร้อมระบบจุดระเบิดแบบ T.C.I. ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด คลัทช์มือ ให้กำลังสูงสุด 19 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 14.7 นิวตัน-เมตร ที่ 8,500 รอบ/นาที ทั้งนี้ Yamaha MT-15 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน VVA ที่จะทำงานเมื่อ 7,000 รอบ/นาที ขึ้นไป มอบอัตราเร่งที่เร้าใจมากยิ่งขึ้น

สำหรับสมรรถนะการขับขี่ของ Yamaha MT-15 บอกเลยว่าเป็นรถ Naked Bike ที่ขี่สนุก และจัดจ้านที่สุดในคลาส 150cc. ด้วยขนาดของตัวรถที่คล่องตัว ผสานกับน้ำหนักตัวรถที่หนักเพียง 133 กก. ช่วยให้การขับขี่ในเมืองมีความคล่องตัวสูง สามารถพลิกรถ และซอกแซกในเส้นทางการจราจรที่ติดขัดได้ง่าย ซึ่งนอกเหนือไปจากความคล่องตัวในการขับขี่ที่ถ่ายทอดมาได้อย่างโดดเด่นแล้ว เรื่องของอัตราเร่งก็เป็นอะไรที่ Yamaha MT-15 ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจ โดยตัวรถถูกออกแบบมาให้ขับขี่สนุก ตามแบบฉบับรถ Naked Bike ซึ่งจะให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ แรงบิดมีมาให้ใช้งานเหลือๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะเร่งแซง หรือจังหวะต้องการเร่งความเร็ว ส่วนในความเร็วปลายนั้น ผู้เขียนสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 130 กม./ชม. ในรอบเครื่องยนต์ 10,000 รอบ/นาที (ผู้เขียนหนัก 65 กก.) ซึ่งถือว่าเร็วในระดับหนึ่งสำหรับรถขนาด 150cc. โดยเป็นผลพวงมาจากระบบวาล์วแปรผัน VVA ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์ในการเรียกเค้นพลังที่รอบสูง

ด้านมิติตัวรถนั้น มีความกระชับ ทะมัดทะแมง สามารถควบคุมได้ง่าย เพียงแต่เบาะนั่งจะมีความสูงจากพื้นมากสักเล็กน้อย ที่ระดับ 810 มม. ซึ่งจากภาพจะเห็นได้ว่าผู้เขียนที่มีความสูง 168 ซม. จะต้องเขย่งใช้ปลายเท้าแตะพื้น แต่ด้วยขนาดของตัวรถที่ไม่ใหญ่มาก ผสานกับน้ำหนักของตัวรถที่เบา จึงไม่เป็นปัญหาในการขับขี่ และการจอด สำหรับผู้ที่ขาไม่ถึงพื้น

สำหรับการขับขี่ใช้งานจริงของ Yamaha MT-15 นั้น ถือว่าตอบโจทย์ สามารถขับขี่ในชีวิตประจำวันได้ทุกสถานการณ์ โดยผู้เขียนเองเริ่มทดสอบจาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (บางนา-ตราด กม.21) กลับบ้านแถวๆ ประชาชื่น ในช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ซึ่งมีให้ได้ทดสอบทั้งถนนโล่งๆ และช่วงการจราจรติดขัด ซึ่งความเร็วโดยเฉลี่ยที่ใช้จะอยู่ที่ 100-110 กม./ชม. โดยรอบเครื่องยนต์จะอยู่ที่ 9,000 รอบ/นาที ซึ่งสิ่งที่น่าประทับใจอีกหนึ่งประการของ Yamaha MT-15 นั่นก็คือ การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ โดยปกติแล้วรถมอเตอร์ไซค์แบบ Naked Bike เวลาจอดติดไฟแดง หรือจอดนิ่ง หากระบบระบายความร้อนไม่ดี ผู้ขับขี่จะรู้สึกร้อนบริเวณน่อง เนื่องจากไม่มีชุดแฟริ่งปกคลุมเครื่องยนต์ แต่ทว่ากับ Yamaha MT-15 นั้น ไม่เป็นแบบนั้น รวมไปถึงการควบคุมรถที่ง่าย การเข้าเกียร์ที่นุ่มนวล และต่อเนื่อง พร้อมมีแรงบิดช่วยประคองตอนออกตัว ทำให้ MT-15 เป็นรถที่ขี่ง่าย และขี่สนุก ซึ่งมือใหม่ที่อยากหัดขี่รถมอเตอร์ไซค์มีคลัทช์สามารถขี่เจ้า Yamaha MT-15 ได้สบายๆ

เกาะหนึบ บาลานซ์ดี ทรงตัวเยี่ยม น่าจะเป็นคำนิยามระบบช่วงล่างของ Yamaha MT-15 ได้ชัดเจนที่สุด ด้วยความที่ตัวรถมีน้ำหนักไม่เยอะมาก ทำให้ระบบช่วงล่าง และระบบเบรกสามารถจัดการได้อยู่หมัด ซึ่งให้บาลานซ์การทรงตัว และการควบคุมรถในโค้งที่มั่นคง และปลอดภัย เพียงแต่อย่าเผลอไปเปิดคันเร่งตอนรถยังไม่ตั้งตรง เพราะอาจจะมีอาการท้ายสไลด์ได้ เนื่องจากตัวรถมีแรงบิดสูง พร้อมจะทะยานได้ทุกช่วงเวลา แต่ถ้าหากใครมือโปรจะมองว่ามันเป็นการขับขี่ที่สนุก เข้าถึงอารมณ์ Street Naked Bike ขนานแท้ ก็ไม่ว่ากัน

ข้อดีของ Yamaha MT-15

• ดีไซน์เท่ ดุดัน เร้าใจทุกมิติ
• น้ำหนักเบา ให้การขับขี่ที่คล่องตัว
• อัตราเร่งจัดจ้าน
• เทคโนโลยีวาล์วแปรผัน VVA ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ได้จริง พร้อมมีสถานะการทำงานแสดงที่หน้าจอ
• เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้ดี ไม่ร้อนขาขณะขับขี่
• ขับขี่ง่าย คลัทช์นิ่ม เข้าเกียร์ลื่น มีแรงบิดช่วยประคอง คนไม่เคยขี่รถมีคลัทช์สามารถหัดขี่ได้สบาย
• ท่วงท่าการขับขี่กระชับ และควบคุมรถได้ง่าย

ข้อเสียของ Yamaha MT-15

• ความสูงเบาะจากพื้นค่อนข้างสูง
• ไม่มีระบบเบรก ABS
• ไม่มีที่จับสำหรับผู้ซ้อนท้าย
• แฮนด์น่าจะให้มาแบบ Fat Bar

โดยรวมแล้ว ถือว่า Yamaha MT-15 เป็นรถ Naked Bike พิกัด 150cc. ที่ขี่สนุก อัตราเร่งจัดจ้าน ช่วงล่างบาลานซ์ดี มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ขี่ไปไหนใครก็มอง สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทุกสถานการณ์

ทั้งนี้ Yamaha MT-15 มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 98,500 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับสมรรถนะ และขุมพลังเครื่องยนต์ที่ได้รับ ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา

สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย และโชว์รูม Yamaha ทุกสาขา