Toyota Highlander Hybrid เอสยูวีพี่ใหญ่ขนาด 7 ที่นั่ง ขุมพลัง Hybrid เตรียมลุยตลาดยุโรปเป็นครั้งแรก

Toyota Highlander Hybrid เอสยูวีพี่ใหญ่ขนาด 7 ที่นั่ง ขุมพลัง Hybrid เตรียมลุยตลาดยุโรปเป็นครั้งแรก

Toyota เดินหน้าขยายตลาด เตรียมส่ง SUV พี่ใหญ่ Toyota Highlander Hybrid อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ขุมพลัง Hybrid ลุยตลาดยุโรปเป็นครั้งแรกในปี 2021 หลังจากที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดอเมริกา

ทั้งนี้ Toyota Highlander Hybrid นั้น ถือเป็นรถ Hybrid SUV ขนาดใหญ่ที่สุดของ Toyota ซึ่งมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม TNGA-K โดยมีความยาวตัวถังที่ 4,950 มม., กว้าง 1,930 มม., สูง 1,730 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม.

จุดขายสำคัญอยู่ที่ความกว้างขวาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร โดย Toyota Highlander Hybrid มาพร้อมกับเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ออกแบบให้รองรับสรีระกับคนไซส์ยุโรป และนั่งสบายทุกที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถว 2 สามารถเลื่อนไปได้อีก 180 มม. เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการก้าวขึ้น-ลงห้องโดยสาร

พื้นที่จัดเก็บสัมภาระตอนท้ายขนาด 658 ลิตร แต่ถ้าปรับพับเบาะนั่งทั้งแถว 2 และแถว 3 จะเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระได้มากถึง 1,909 ลิตร อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Kick-Sensor

ส่วนภายในห้องโดยสารด้านหน้า มาพร้อมกับดีไซน์ที่หรูหราและล้ำสมัย โดยแผงแดชบอร์ดที่คอนโซลหน้าเป็นลายคาร์บอนเคฟล่า ห้อมล้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto, พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น, ระบบไฟ Ambient Light, แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย, เบาะนั่งแบบปรับอุณหภูมิอุ่นร้อน ฯลฯ

ทั้งนี้ Toyota Highlander Hybrid สำหรับตลาดยุโรปนั้น จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson ขนาด 2.5 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid 2 ตัว ที่ด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมชุดแบตเตอรี่ Nickel-Metal Hydride สำหรับจัดเก็บพลังงานที่ติดตั้งไว้ที่ใต้เบาะนั่งแถวที่ 2 ให้พละกำลังสูงสุด 244 แรงม้า (PS) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD-i ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เลือกด้วยกัน 4 โหมด ได้แก่ Eco , Normal , Sport และ Trail โดยทาง Toyota ระบุว่า Toyota Highlander Hybrid สเปคยุโรป มีอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 6.6 ลิตรต่อ 100 กม. (หรือประมาณ 15 กม./ลิตร) ส่วนค่าไอเสียอยู่ที่ 146 กรัม/กม. ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP

ด้านระบบความปลอดภัยนั้นติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ได้แก่

• ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเส้นทาง พร้อมเตือนการออกนอกเลน (Lane departure warning with steering assist)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Dynamic Radar Cruise Control)
• ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และตรวจจับคนเดินถนน (Pre-Collision System with Pedestrian Detection)
• ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
• ระบบอ่านป้ายจราจร (Road Sign Assist)

ส่วนราคาจำหน่าย และกำหนดการเปิดตัวคาดว่าจะชาวยุโรปน่าจะได้สัมผัสกันในช่วงปี 2021