ฟื้นแล้ว ตลาดรถเดือนตุลาคม 2563 ปรับตัวดีขึ้น ยอดขายรวม 74,115 คัน
รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2563 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 74,115 คัน ลดลง 1.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,461 คัน ลดลง 20.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 51,654 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 40,837 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%
ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคมมีปริมาณการขาย 74,115 คัน ลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 20.7% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลในเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์
ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 10 เดือน มีปริมาณการขาย 608,880 คัน ลดลง 27.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 36.8% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 20.9% เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่มีมาตั้งแต่ต้นปี
อย่างไรก็ตามจากการที่ภาครัฐฯ ออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชน และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และผู้บริโภคให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้เช่นกัน
นอกจากนี้ในด้านของตลาดรถยนต์ บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ พยายามอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี ที่จะดึงดูดความสนใจและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทั้งการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การออกกลยุทธ์ต่างๆ การบริการหลังการขาย เพื่อมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนมีทิศทางที่ดีขึ้น
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2563
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 74,115 คัน ลดลง 1.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 25,709 คัน | ลดลง 3.6% | ส่วนแบ่งตลาด 34.7% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 17,174 คัน | เพิ่มขึ้น 44.8% | ส่วนแบ่งตลาด 23.2% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 9,011 คัน | ลดลง 7.2% | ส่วนแบ่งตลาด 12.2% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,461 คัน ลดลง 20.7%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 7,233 คัน | ลดลง 6.9% | ส่วนแบ่งตลาด 32.2% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 6,245 คัน | ลดลง 32.0% | ส่วนแบ่งตลาด 27.8% |
อันดับที่ 3 นิสสัน | 2,602 คัน | เพิ่มขึ้น 0.0% | ส่วนแบ่งตลาด 11.6% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 51,654 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 19,464 คัน | เพิ่มขึ้น 11.3% | ส่วนแบ่งตลาด 37.7% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 17,174 คัน | เพิ่มขึ้น 44.8% | ส่วนแบ่งตลาด 33.2% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 2,985 คัน | ลดลง 23.8% | ส่วนแบ่งตลาด 5.8% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน และ PPV ปริมาณการขาย 40,837 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 16,622 คัน | เพิ่มขึ้น 6.3% | ส่วนแบ่งตลาด 40.7% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 16,010 คัน | เพิ่มขึ้น 51.5% | ส่วนแบ่งตลาด 39.2% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 2,985 คัน | ลดลง 23.8% | ส่วนแบ่งตลาด 7.3% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,127 คัน
โตโยต้า 2,783 คัน- มิตซูบิชิ 816 คัน – ฟอร์ด 452 – คัน- อีซูซุ 70 คัน – เชฟโรเลต 6 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 36,710 คัน เพิ่มขึ้น 11%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 15,940 คัน | เพิ่มขึ้น 59.8% | ส่วนแบ่งตลาด 43.4% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 13,839 คัน | เพิ่มขึ้น 1.5% | ส่วนแบ่งตลาด 37.7% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 2,198 คัน | ลดลง 29.6% | ส่วนแบ่งตลาด 6.0% |
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2563
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 608,880 คัน ลดลง 27.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 182,840 คัน | ลดลง 33.7% | ส่วนแบ่งตลาด 30.0% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 140,700 คัน | เพิ่มขึ้น 2.1% | ส่วนแบ่งตลาด 23.1% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 74,058 คัน | ลดลง 31.0% | ส่วนแบ่งตลาด 12.2% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 211,222 คัน ลดลง 36.8%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 61,665 คัน | ลดลง 25.3% | ส่วนแบ่งตลาด 29.2% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 51,921 คัน | ลดลง 47.0% | ส่วนแบ่งตลาด 24.6% |
อันดับที่ 3 นิสสัน | 21,951 คัน | ลดลง 27.9% | ส่วนแบ่งตลาด 10.4% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 397,658 คัน ลดลง 20.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 140,700 คัน | เพิ่มขึ้น 2.1% | ส่วนแบ่งตลาด 35.4% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 130,919 คัน | ลดลง 26.4% | ส่วนแบ่งตลาด 32.9% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 27,814 คัน | ลดลง 32.5% | ส่วนแบ่งตลาด 7.0% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน และ PPV ปริมาณการขาย 315,184 คัน ลดลง 22.6%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 130,323 คัน | เพิ่มขึ้น 4.2% | ส่วนแบ่งตลาด 41.3% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 112,207 คัน | ลดลง 29.4% | ส่วนแบ่งตลาด 35.6% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 27,814 คัน | ลดลง 32.5% | ส่วนแบ่งตลาด 8.8% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 31,746 คัน
โตโยต้า 14,267 คัน – มิตซูบิชิ 7,386 คัน – อีซูซุ 4,225 คัน – ฟอร์ด 4,022 คัน – นิสสัน 1,174 คัน –เชฟโรเลต 672 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 283,438 คัน ลดลง 20.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 126,098 คัน | เพิ่มขึ้น 7.7% | ส่วนแบ่งตลาด 44.5% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 97,940 คัน | ลดลง 28.2% | ส่วนแบ่งตลาด 34.6% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 20,428 คัน | ลดลง 31.5% | ส่วนแบ่งตลาด 7.2% |
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ฟื้นแล้ว ตลาดรถเดือนตุลาคม 2563 ปรับตัวดีขึ้น ยอดขายรวม 74,115 คัน "