อุบัติเหตุสลด ! นายกเล็กเมืองปทุม ลงดอยแหกโค้งชนยับ เซ่นอินทนนท์เมียและเพื่อนบ้านเสียชีวิตยกคัน

นางปราณี วงศ์แก้วฟ้า อายุ 57 ปี และนางกรรณิการ์ นรอินทร์ อายุ 55 ปี นำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.จอมทอง ให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดสอบถามญาติที่ขับรถตามกันมาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงสายวันที่ 19 พ.ย. นายสมพงศ์พร้อมภรรยา และเพื่อนบ้าน รวม 5 ชีวิต ขับรถยนต์คันเกิดเหตุออกเดินทางจาก จ.ปทุมธานี มุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อมาไหว้พระและพักผ่อน พักค้างคืนที่ จ.ลำพูน รุ่งเช้าผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คน และกลุ่มเพื่อนขับรถยนต์ตามกันมา 2 คัน มุ่งขึ้นดอยอินทนนท์เพื่อสักการะกู่เจ้าแม่ดารารัศมี ที่ทำเป็นประจำทุกปี

เนื่องจากให้ความเคารพนับถือมาก ปีนี้เป็นปีที่ 13 ติดต่อกันแล้ว หลังไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และถ่ายรูปทะเลหมอก นายสมพงศ์ ได้ขับรถลงมาก่อน ส่วนญาตินั่งรถอีกคันตามมา กระทั่งถึงช่วงทางโค้งรถของนายสมพงศ์ได้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ขณะเดียวกันมีพยานเป็นนักท่องเที่ยวให้ข้อมูลกับตำรวจอ้างว่า

ขี่รถ จยย.ตามหลังรถกระบะคันประสบอุบัติเหตุและเห็นมีควันออกจากล้อทั้ง 4 ข้าง ก่อนเสียหลักพลิกคว่ำ สันนิษฐานอาจเกิดจากเบรกไหม้จนคุมรถไม่อยู่ สาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับทางโค้งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เพียง 1 กม. เป็นทางโค้งลงดอยลาดชันมาก เคยเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต 3 ศพมาแล้ว คาดว่าผู้ตายขับรถลงดอยด้วยเกียร์สูงและใช้ความเร็วเกินไป เพราะเป็นรถเกียร์ออร์โต้ ทำให้เสียหลักลื่นไถลบังคับรถไม่อยู่ตกร่องน้ำข้างถนน

และแฉลบไปชนกับต้นไม้ซ้ายมือ ก่อนพลิกตีลังกาไปตกอีกฟากถนน คนในรถถูกแรงเหวี่ยงกระเด็นออกมา โดยเฉพาะผู้หญิงรายหนึ่งศีรษะขาดกระเด็น ส่วนทรัพย์สินในตัวนายสมพงษ์ มีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 20 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง เจ้าหน้าที่ได้เก็บส่งคืนญาติแล้ว

นายแดง วงค์เพ็ง อายุ 62 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักหก เปิดเผยว่า ตนกับนายสมพงศ์ มาเที่ยวดอยอินทนน์ปีนี้เป็นปีที่ 13 แล้ว ทุกปีนายกและครอบครัวจะต้องมาไหว้เจ้าแม่ดารารัศมี ปีนี้พวกตนมากัน 10 คน ใช้รถ 2 คัน นั่งคันละ 5 คน

ส่วนตนขับรถอีกคันตามมา เมื่อคืนเข้าพักที่โรงแรมใน จ.ลำพูน รุ่งเช้าขึ้นมาไหว้กู่เจ้าแม่บนดอยอินทนนท์ สัมผัสอากาศหนาว ใกล้เที่ยงจะขับรถเข้าไปกินข้าวในตัวเมืองเชียงใหม่ ตนขับรถออกตัวช้ากว่ารถนายสมพงศ์แค่ 5 นาที พอถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถนายก

พลิกคว่ำเกิดอุบัติเหตุแล้ว รู้สึกเศร้าเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น สาเหตุคิดว่าไม่น่าจะเกิดจากไม่ชำนาญเส้นทางเพราะนายกขับรถขึ้นลงดอยมา 13 ปีแล้ว อาจจะเกิดจากรถเสียหลักเองมากกว่าหลังเกิดเหตุน้องชายและญาติของนายสมพงศ์ที่เดินทางมาเที่ยว จ.เชียงใหม่ แต่แยกกลุ่มกันไปเที่ยววัดในตัวเมือง รีบเดินทางมาดูจุดเกิดเหตุด้วยความเสียใจ

นายมนัส เอกกมลทอง ญาติบอกว่า ช่วงเช้าโทร.คุยกันยังบอกกับนายสมพงศ์ว่าไม่ต้องขึ้นดอยอินทนนท์เพราะว่าสายแล้ว รถติดเกรงเกิดอันตราย แนะนำให้ไปช่วงเช้ามืดวันรุ่งขึ้น แต่นายสมพงศ์ยืนยันจะขึ้นไป เนื่องจากเคยมาเที่ยวดอยอินทนนท์เป็นประจำทุกปี สุดท้ายมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : ไทยรัฐ