EHang 216 แท็กซี่จีนบินได้!! พาชมกลางหุบเขาสีรุ้งในกานซู่อันน่าตื่นตาตื่นใจ

 EHang 216 แท็กซี่จีนบินได้!! พาชมกลางหุบเขาสีรุ้งในกานซู่อันน่าตื่นตาตื่นใจ

เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก และยินดีด้วยสำหรับประเทศจีนที่ได้ทำการทดสอบแท๊กซี่บินได้ ซึ่งประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

เมื่อไม่นานนี้ อี้หาง 216 (EHang 216) โดรนรับ – ส่งผู้โดยสารทางอากาศของ อี้หาง (EHang) ผู้ผลิตอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนสัญชาติจีน ได้ทดสอบการบินแบบมีคนควบคุมสำเร็จลุล่วง เหนือภูมิประเทศตันเสียที่งดงามราวกับภาพวาด ในเมืองหลานโจว มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

อี้หาง 216 บันทึกภาพทิวทัศน์ทางอากาศสุดงดงาม เผยให้เห็นมุมมองโดดเด่นตลอดการเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจครั้งนี้

บริษัท อี้หาง ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เป็นบริษัทสัญชาติจีนที่มีบริษัทแม่อยู่ในมลฑลกวางโจว ได้ทำการพัฒนาและทดลองการใช้งาน โดรนรับ-ส่งผู้โดยสารทางอากาศแบบไร้คนขับ (AAV – Autonomous Aerial Vehicle) ที่ทางบริษัทคาดว่ามันน่าจะมาช่วยลดปัญหาการจราจรภาคพื้นดิน ได้ด้วยการเจาะกลุ่มตลาดใหม่โดยใช้การจราจรทางอากาศแทนเพื่อเลี่ยงปัญหารถติด

และได้ร่วมมือกับรัฐบาลของมลฑลกวางโจวในการพัฒนาศูนย์ควบคุมและจัดการการจราจรทางอากาศ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะนำไปสู่การพัฒนา Vertiports หรือสนามบินสำหรับเครื่องบินไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้มีพื้นที่ในการขึ้นบินและลงจอดให้เป็นหลักแหล่งในอนาคต

นอกจากนี้ทางบริษัทก็ได้วางแผนว่าจะพัฒนาห้องโดยสารให้ รองรับการขนส่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ รวมไปถึงถุงเลือดและอวัยวะต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็วในการจัดส่งอีกด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2018 ทางบริษัท Ehang ก็เคยเปิดตัวโดรนที่มีชื่อว่า Ehang 184 ไปแล้ว แต่ผลการตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร เพราะผู้ใช้บางส่วนบ่นว่า มีเสียงใบพัดที่ดังมากจนเกินไปและ ลักษณะการบินยังไม่คงที่ มากนัก

โดย Ehang 216 นี้ได้ทำการ ทดลองการบินมาแล้วกว่า 2,000 ครั้ง ทั้งในประเทศจีน, ออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์, กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรต ไปแล้วเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับการรับรองการบินจากทาง FAA (องค์การบริหารการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา) ให้สามารถขึ้นบินได้ในรัฐ North Carolina ประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งการได้ทดลองใช้ในสหรัฐอเมริกาที่อาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ (และนายทุนสนับสนุนในอนาคต) นั้นก็ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาและต่อยอดไปสู่การทำกำไรให้บริษัทเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพ www.xinhuathai.com และ https://news.thaiware.com/