เคล็ดไม่ลับจาก FORD MOTOR COMPANY และ สถาบัน The Emily Post

เคล็ดไม่ลับจาก FORD MOTOR COMPANY และ สถาบัน The Emily Post

สำหรับการเดินทางที่จะทำให้ทุกคนได้สนุก และยังสุภาพอีกด้วย

การขับขี่รถยนต์สามารถก่อให้เกิดความขุ่นเคืองใจบนท้องถนน และอาจสร้างหายนะให้กับความสัมพันธ์ต่างๆ ได้ เช่น การติดอยู่บนถนนนานหลายชั่วโมงกับบรรดาญาติๆ อาจเปลี่ยนจากความสนุกสนานระหว่างครอบครัวให้กลายเป็นความบาดหมางแทน คงจะดีถ้าปีนี้เราลองมาตั้งเป้าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ที่ดีเยี่ยมและผู้โดยสารที่แสนสุภาพกันดูบ้าง

เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างการขับขี่ FORD MOTOR COMPANY และสถาบัน The Emily Post จึงได้ร่วมมือกันเสนอเคล็ดไม่ลับเพื่อสนับสนุนการเป็นผู้ขับที่มีความเข้าอกเข้าใจและเป็นผู้โดยสารที่มีความอดทนซึ่งสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ดียิ่งขึ้น แดเนียล โพสต์ เซนนิ่ง ในฐานะของทายาทเอมิลี่ โพสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทระดับโลก ได้แบ่งปันเคล็ดลับเกี่ยวกับมารยาทบนรถยนต์ง่ายๆ ที่ช่วยให้การเดินทางสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน ตั้งแต่ข้อแนะนำในการเป็นผู้โดยสารที่แสนสุภาพไปจนถึงข้อชี้แนะด้านการใช้เทคโนโลยีภายในรถยนต์ ซึ่งเคล็ดไม่ลับสำหรับการขับขี่เหล่านี้จะช่วยให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนมีความสุขไปด้วยกันในระหว่างเดินทาง

เคล็ดไม่ลับสำหรับการเดินทางช่วงวันหยุด

ประการแรกและสำคัญที่สุด ผู้ขับคือเจ้าภาพ คุณคงไม่เชิญครอบครัวและเพื่อนๆ มาที่บ้านโดยไม่ได้เตรียมความสะดวกสบายและความบันเทิงล่วงหน้าอย่างแน่นอน แล้วทำไมจึงขึ้นรถโดยไม่เตรียมการสำหรับการเดินทางดูบ้าง หากเรียกรู้เคล็ดไม่ลับต่างๆ ด้านล่าง ผู้ขับขี่ในยุคปัจจุบันจะได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่แสนสะดวกสบายและสนุกสนานอย่างแน่นอน

1. ความเป็นสุภาพบุรุษยังไม่ตาย…แค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้นเอง การเปิดประตูให้คนอื่นยังคงไม่ตกยุค แต่ด้วยระบบเปิด-ปิดประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจและระบบสตาร์ทรถด้วยรีโมตทำให้มารยาทข้อนี้อาจดูไม่เข้าที ทุกวันนี้ มารยาทของผู้ขับขี่หมายถึงการปลดล็อคประตูรถก่อนแขกของคุณพยายามเปิด หรือปรับอุณหภูมิภายในรถยนต์ให้เหมาะสม (รวมถึงเบาะที่นั่ง) ก่อนที่คุณยายจะคาดเข็มขัดพร้อมออกร่วมทริป

2. มาเริ่มทริปแห่งปีกันเถอะ ผู้โดยสารอาจไม่คุ้นเคยกับวิธีการขับขี่ของคุณ คุณอาจช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายได้โดยการพาทัวร์ก่อนเพื่อให้แขกรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน คล้ายๆ กับเวลาที่คุณบอกตำแหน่งห้องน้ำและห้องครัวเวลาแขกมาบ้านนั่นแหละ ลองบอกผู้โดยสารให้ทราบถึงการใช้งานระบบความบันเทิง การปรับระดับเบาะที่นั่งและหน้าต่าง บอกตำแหน่งปลั๊กสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น ช่องต่อยูเอสบีแบบสมาร์ทชาร์จตรงตำแหน่งด้านท้ายรถที่ช่วยให้การเชื่อมต่อง่ายดายขึ้น ย้ำให้มั่นใจว่าผู้โดยสารทุกคนได้รับข้อมูลที่ควรจะทราบก่อนออกเดินทาง

3. ใช้คอนเทนต์ต่างๆ ที่มีในรถมาเอาชนะความเบื่อหน่าย เมื่อต้องติดอยู่ในสภาพการจราจรแสนย่ำแย่ การเตรียมการล่วงหน้าเล็กๆ น้อยๆ สามารถช่วยป้องกันความเบื่อหน่ายได้ ก่อนที่จะกระโดดขึ้นรถ เตรียมความพร้อมสำหรับทริปด้วยออดิโอบุ๊ค หรือแม้กระทั่งคลาสออนไลน์ต่างๆ เดินทางไปกับเพื่อนๆ ลองสร้างเพลย์ลิสต์สมัยเรียนมหาวิทยาลัยดู ขอแนะนำหนังซีรี่ย์ หรือไม่ก็เรียนรู้อะไรสักอย่างไปพร้อมๆ กันระหว่างทางไปจุดหมาย ด้วยระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและระบบความบันเทิงภายในรถยนต์อย่างฟอร์ด ซิงค์ (SYNC) ช่วยให้คุณสามารถพกข้อมูลทั่วโลกไปด้วยได้ตลอดการเดินทาง

4. ถ้าผู้ขับเป็นเจ้าบ้าน ผู้โดยสารก็เป็นแขกรับเชิญผู้ทรงเกียรติ คุณคงไม่ปรากฎตัวที่บ้านเจ้าภาพด้วยมือเปล่า ดังนั้นอย่าลืมมารยาทข้อเดียวกันนี้กับผู้ขับของคุณ คุณอาจจะขอบคุณเขาหรือเธอที่ช่วยเป็นภาระและขับรถให้ในช่วงการจราจรที่แสนตึงเครียดระหว่างวันหยุดโดยการแบ่งเบาภาระบางอย่างมาบ้าง เช่น เสนอช่วยออกค่าน้ำมัน ซื้อขนมและเครื่องดื่ม หรือหอบกระเป๋าเดินทางพร้อมกับของขวัญสำหรับวันหยุดก็เข้าที

การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในทุกความสัมพันธ์ ทั้งบนถนนและนอกถนน การเตรียมตัวอย่างมีประสิทธิภาพมาพร้อมกับการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและรถยนต์ของพวกเขา ศึกษาวิธีการสื่อสารบนท้องถนนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารและตัวคุณเองจะเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยและสามัคคีกัน

1. ไปเยี่ยมคุณยายกัน เดินทางกับครอบครัวนะเหรอ เลี่ยงความตึงเครียดจากการบทสนทนาประเภท “เราจะถึงหรือยัง” เป็นระยะๆ โดยการวางเส้นทางและพูดคุยกันเกี่ยวกับแผนการเดินทางก่อน ลองปรึกษากันเกี่ยวกับจุดพักรถเพื่อรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อที่ทุกคนจะได้คาดการณ์ได้ เด็กๆ ยังสามารถเข้าใจเส้นทางและรอคอยสถานที่อันโปรดปรานหรือแม้กระทั่งกะเวลาถึงจุดหมายได้ด้วยตนเอง

2. อย่าทำตัวเป็นผู้โดยสารที่ไม่มีการตอบสนอง ถ้าคุณได้นั่งตรงเบาะผู้โดยสารด้านหน้าระหว่างการเดินทางอันแสนยาวไกล ลองช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ ควรตื่นตัวอยู่เสมอและคอยมองดูป้ายสัญญาณบนท้องถนน (ควรพยายามไม่รีเฟรชหน้าอินสตาแกรมทุกๆ 5 วินาที) เหนือสิ่งอื่นใด หลีกเลี่ยงการวิจารณ์การขับขี่ของผู้ขับ ไม่มีใครชอบผู้โดยสารที่ก้าวก่ายหน้าที่ของคนขับหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์การขับขี่เริ่มตึงเครียด

3. คุยกับแม่ให้มากกว่าคุยกับ SIRI ระบบการสั่งงานด้วยเสียงช่วยนำโลกแห่งข้อมูลข่าวสารมาไว้ที่เบาะที่นั่งของคนขับ ไม่ว่าจะเป็น การค้นหาตำแหน่งจุดพักรถถัดไป หรือโทรหาคุณปู่เพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่าเรากำลังออกเดินทางได้โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย ด้วยเทคโนโลยีการจดจำเสียงที่ทันสมัยขึ้นกว่าที่เคย ผู้คนจึงไม่เพียงแต่ตั้งชื่อรถ แต่ยังคุยกับรถด้วย! ขอเพียงแค่แน่ใจว่าคุณคุยกับผู้โดยสารจริงๆ อย่างน้อยก็ให้เท่ากับที่คุณสื่อสารกับระบบการเชื่อมต่อสื่อสารภายในรถยนต์ (Infotainment) ของคุณก็พอ

4. ควบคุมสิ่งรบกวน เราต่างอยากได้ยินเพลงโปรดของเราเองระหว่างการเดินทาง แต่ผู้ขับขี่ที่สมาธิไขว้เขวเป็นตัวอันตรายสำหรับความปลอดภัย ในฐานะของผู้โดยสารผู้แสนสุภาพ คุณควรยอมคล้อยตามความชอบของผู้ขับและเสนอทำหน้าที่ดีเจคอยช่วยควบคุมหน้าจอเพื่อลดภาระผู้ขับขี่

เทคโนโลยีทันสมัยสื่อถึงมารยาทที่ทันสมัย ในปี 1949 ที่เอมิลี่ โพสต์ เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับมารยาทการขับขี่เป็นครั้งแรก สมัยนั้น รถยนต์ถือเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีด้วยตัวของมันเอง ในปัจจุบัน รถยนต์ต่างมาพร้อมกับคลังแอพพลิเคชั่นมากมาย และคล้ายคลึงกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือที่ทุกคนควรตระหนักถึงมารยาทในการใช้งานด้วย เราควรแน่ใจว่าเทคโนโลยีต่างๆภายในรถยนต์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพิ่มอุปสรรคเพื่อการเดินทางอันแสนสุข

1. ข้อควรระวังด้านการเชื่อมต่อ ระหว่างการเดินทางผ่านบริเวณชนบทในช่วงวันหยุด สัญญาณโทรศัพท์อาจหายไปบางช่วง จึงควรศึกษาเส้นทางหลักก่อนออกเดินทาง และพกแผนที่ไว้ในรถเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะมีแผนสำรองในกรณีที่ไม่มีสัญญาณ ดาวน์โหลดเพลงโปรดเก็บไว้สัก 1 หรือ 2 กิกะไบต์ เพื่อช่วยให้คุณสามารถข้ามผ่านช่วงเวลา “ไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้” และยังช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายๆ และผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเผชิญการเดินทางรูปแบบใด

2. ลดความตึงเครียดในพื้นที่แคบ เราต่างคุ้นเคยกับดราม่าที่ตามหลอกหลอนทุกครั้งที่เดินทางไปพักผ่อนช่วงวันหยุด ตั้งแต่การถกเถียงแย่งที่นั่งตรงกลางไปจนถึงแย่งกันฟังรายการวิทยุโปรดและมุมที่นั่งแคบๆ ที่สามารถนำไปสู่การทะเลาะวิวาทได้ เพื่อลดความตึงเครียดนี้ ลองเรียกใช้ฟีเจอร์ภายในรถยนต์เพื่อให้อารมณ์ดีขึ้น เช่น ฟังออดิโอบุ๊คสนุกๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากการฟังวิทยุดูบ้าง ระบบภายในรถยนต์ของคุณสามารถช่วยมอบความสะดวกสบายให้กับแขกผู้โดยสารได้อย่างมั่นใจ

3. ใช้ระบบความปลอดภัยที่มีอยู่ คุณต้องสู้รบตบมือกับความรู้สึกง่วงหลังอาหารค่ำมื้อใหญ่ใช่หรือไม่ จำไว้ว่า อาการง่วงนอนระหว่างเดินทางกลับบ้านส่งผลต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร หากคุณรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยคนขับและนั่งอยู่เบาะผู้โดยสารแบบสบายๆ อย่าเริ่มผล็อยหลับทันทีที่ระบบปรับอากาศทำงาน แต่ควรตื่นตัวอยู่เสมอและพูดคุยกับคนขับรถ ด้วยเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่อันชาญฉลาดอย่างเช่น ระบบรักษาเลนจากฟอร์ดถือว่าเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์อย่างน่าทึ่ง แต่มีตาอีกคู่ที่ช่วยระมัดระวังบนท้องถนนก็คงไม่เสียหายอะไร

4. ใจกว้างและเคารพกฎจราจร เราทุกคนทราบดีว่าไม่ควรแย่งที่จอดรถกัน แต่ยังมีประเด็นมากกว่านั้น ในบริเวณที่จอดรถอันแสนคับคั่งในช่วงเทศกาลวันหยุด คงไม่มีใครปลื้มคนขับรถที่จอดกินที่ นิสัยเห็นแก่ตัวแบบนี้ไม่เคยเป็นที่นิยม การจอดรถแบบไม่สนใจโลกก็เป็นสิ่งที่ไม่ยอมรับอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลต่างๆ เราควรเคารพผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ โดยการจอดรถให้อยู่ในซอง และหากคุณไม่ได้เป็นมือฉมังด้านการถอยจอด คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องรู้นี่ ปล่อยให้เทคโนโลยีล้ำสมัยกึ่งอัตโนมัติอย่างระบบถอยจอดอัจฉริยะ (active park assist) ช่วยนำรถถอยเข้าซองจอดแคบๆ แทนได้เลย