MAZDA ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจสู่การเติบโตแบบยั่งยืน
ยกระดับคุณค่าแบรนด์ ดูแลลูกค้าแบบพรีเมี่ยม

โพสโดย : one / วันที่ : 5 เมษายน 2022

  • บุกธุรกิจรถมือสอง Mazda CPO ยกระดับคุณภาพ เพิ่มมูลค่ารถมือสอง ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ และการันตีจากมาสด้า
  • ขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 58 แห่ง
  • ขยายบริการตรวจเช็กระยะแบบเร่งด่วน Fast Track ใช้เวลาเพียง 60 นาที ตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 34 แห่ง
  • สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุก Touchpoints
  • มุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Zoom-Zoom ภายในปี 2573
  • กลยุทธ์ Building Block Strategy เพื่อบรรลุเป้าหมายในการลด CO2 แบบ Well-to-Wheel ด้วยแนวทาง Multi-Solution นำเสนอรูปแบบพลังงานที่ถูกต้องในสถานการณ์ที่เหมาะสมในแต่ละตลาด
  • เดินหน้าตามแผนระยะกลาง Middle – Term Technology and Policy เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางด้านคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2593

5 เม.ย. 65Mazda จัดงาน “2022 Mazda Business Review & Way Forward” ภายใต้ธีม “ท้าทายความสำเร็จอีกขั้น…สู่อนาคตที่เป็นไปได้” หรือ “Challenge to the New Possibilities” พร้อมเปิดเผยถึงผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ประจำปีงบประมาณ 2564

โดยเฉพาะตัวเลขยอดขายทะลุ 35,654 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 4.5% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 ยังคงครองใจลูกค้ามากที่สุด ด้วยยอดขายเกือบ 20,000 คัน ครอสโอเวอร์เอสยูวีมาสด้า CX-30 และมาสด้า CX-3 รวมกันกว่า 12,000 คัน

เดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจใหม่กับมาสด้า CPO ยกระดับมูลค่าราคารถมือสอง ปรับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจสู่ความยั่งยืน ด้วย Retention Business Model เน้นสร้างคุณค่าของแบรนด์จากการบริการ ยกระดับการดูแลลูกค้าระดับพรีเมี่ยมด้วยโปรแกรม Privilege ตั้งเป้าปีนี้ยอดขายทะลุ 40,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 15%

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

จากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังด้านการใช้จ่ายเนื่องจากไม่แน่ใจต่อสถานการณ์ และยังส่งผลกระทบถึงโรงงานผลิตชิ้นส่วนหลายแห่งต้องหยุดการผลิต ทำให้เกิดการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตและกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งระบบ

อย่างไรก็ดี ยังมีสัญญาณบวกจากการที่ประชาชนได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จากภาครัฐ ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยปีงบประมาณ 2564 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2563 ที่ 1% ประมาณ 795,000

โดยตลาดรถปิกอัพได้รับความนิยมสูงสุด มีจำนวนรวม 357,000 คัน

ตามมาด้วยรถยนต์นั่ง จำนวน 214,000 คัน

รถอเนกประสงค์เอสยูวี (รวม PPV) จำนวน 143,000 คัน

อื่นๆ จำนวน 81,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จำนวน 2,097 คัน

สำหรับปีงบประมาณ 2564 (ระหว่างเดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565) มาสด้าทำยอดขายได้ 35,654 คัน ลดลงเล็กน้อย 11% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2563 ครองส่วนแบ่งการตลาด 4.5%

แบ่งเป็นรถยนต์นั่งจำนวน 20,115 คัน โดยเฉพาะมาสด้า2 ยังร้อนแรงต่อเนื่องด้วยยอดขายเกินกว่าครึ่ง มีจำนวนสูงถึง 18,426 คัน ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 1,685 คัน และมาสด้า MX-5 จำนวน 4 คัน

ขณะที่รถปิกอัพ มาสด้า BT-50 ยอดขาย 1,224 คัน

ส่วนครอสโอเวอร์เอสยูวีตระกูล CX-Series มีจำนวนทั้งสิ้น 14,315 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 2% อันได้แก่ รถครอสโอเวอร์เอสยูวี มาสด้า CX-30 มียอดขายสูงสุดถึง 6,879 มาสด้า CX-3 จำนวน 5,378 คัน มาสด้า CX-8 จำนวน 1,074 และมาสด้า CX-5 จำนวน 984 คัน ตามลำดับ

สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำปีงบประมาณ 2564 เทียบกับปีงบประมาณ 2563

ข้อมูลการขายรถเม.ย.64 – มี.ค.65เม.ย.63 – มี.ค.64% เปลี่ยนแปลง
MAZDA218,42620,742– 11.16
MAZDA31,6852,800– 39.82
MAZDA CX-35,3783,096+ 73.70
MAZDA CX-306,8797,582– 9.27
MAZDA CX-59841,386– 29.00
MAZDA CX-81,0741,918– 44.00
MAZDA BT-501,2242,473– 50.50
MAZDA MX-547– 42.85
ยอดรวม35,65440,004– 10.87

ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีงบประมาณ 2565 ว่า

“สถานการณ์ในปีนี้ แม้ว่าจะยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีปัจจัยลบที่อยู่นอกเหนือการควบคุมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความตึงเครียดในยุโรป ภาวะเงินเฟ้อ ค่าเงินบาทที่มีความผันผวน ความหวาดหวั่นต่อการกลายพันธุ์ของโรคโควิด-19 ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ระบบขนส่งโลจิสติกส์ และการขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อผลิตรถยนต์ แต่เชื่อว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

การที่ประชาชนได้รับวัคซีน เป้าหมายการปรับเป็นโรคประจำถิ่น การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ และมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ล้วนแล้วจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมาได้เร็วขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เติบโตหวือหวามากนัก แต่เชื่อว่าจะดีกว่าปีผ่านมา คาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีงบประมาณนี้จะมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 820,000 – 850,000 คัน และมาสด้าคาดว่าจะมียอดขายมากกว่า 40,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 15%


สำหรับในปีงบประมาณ 2565 นี้ มาสด้าเตรียมบุกตลาดรถมือสอง ด้วยการเปิดตัวธุรกิจใหม่ MAZDA CPO (Certified Pre-Owned) นำเสนอรถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีให้กับลูกค้า เพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าได้นำรถเก่ามาเทรด-อิน ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ หรือซื้อเพิ่มเติม ภายใต้กลยุทธ์ Trade Cycle Management ซึ่งลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากการครอบครองรถยนต์มาสด้าที่ผ่านการตรวจสอบอุปกรณ์และชิ้นส่วนกว่า 100 รายการ ผ่านมาตรฐานและการรับรองจากมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย

ซึ่งโครงการ MAZDA CPO จะเป็นการยกระดับมูลค่ารถมาสด้ามือสองในตลาด รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบัน เปิดดำเนินการแล้ว 9 แห่ง ปีนี้ตั้งเป้าขยายเพิ่ม 18 แห่ง และจะเพิ่มขึ้นเป็น 38 แห่ง ภายในปี 2568 ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด

ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวถึงกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจในปีงบประมาณใหม่นี้ว่า มาสด้าจะเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบตามแผนงานระยะกลาง (Mid-Term Plan) เพื่อยกระดับคุณค่าแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย ผ่านโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า “Retention Business Model” โดยให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าแบรนด์ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในระยะยาว ซึ่งโมเดลธุรกิจใหม่นี้จะเป็นแกนหลักสำคัญที่จะถูกส่งต่อเพื่อกำหนดเป็นกลยุทธ์ในการทำงานในทุกๆ ส่วน โดยแบ่งออกเป็น 5 แกนหลัก ได้แก่

  1. สร้างคุณค่าของแบรนด์ Brand Value Management (BVM) ยกระดับคุณค่าแบรนด์ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุก Touchpoint เพื่อยกระดับความพึงพอใจสูงสุด โดยเริ่มต้นก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ ผ่านขั้นตอนการซื้อ จนถึงการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าไปตลอดอายุการใช้งาน
  2. สร้างความผูกพันกับลูกค้า Customer Retention Business ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าด้วยบริการหลังการขาย และสร้างความผูกพันกับแบรนด์มาสด้า ภายใต้ธุรกิจรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสี เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการของลูกค้า การขยายไลน์ธุรกิจรถมือสองคุณภาพเหนือระดับ MAZDA CPO การขยายศูนย์บริการตรวจเช็กระยะแบบเร่งด่วนภายใน 30 นาที หรือ Mazda Fast Service ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีการใช้บริการของลูกค้าหนาแน่น และเน้นสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ด้วยโครงการ CRM และ Customer Privilege Program มอบสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า ดูแลลูกค้าแบบพรีเมี่ยม เป็นบุคคลพิเศษสุด เกิดเป็นความจงรักภักดีกับแบรนด์ กลับมาใช้บริการซ้ำ และส่งต่อไปยังเจเนอเรชั่นถัดไป
  3. กลยุทธ์ด้านการขยายเครือข่าย Dealer Network Strategy รองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด ให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ มาสด้ามีแผนงาน ดังนี้

– ขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 139 แห่ง พร้อมปรับทุกฟังก์ชันให้สามารถรองรับการบริการแบบครบวงจร

– ขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 54 แห่ง เพิ่มขึ้นเป็น 58 แห่ง

– เพิ่มช่องการให้บริการตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วน ภายในเวลา 60 นาที หรือ Mazda Fast Track เพิ่มเป็น 34 แห่ง

– ขยายศูนย์บริการในเขตที่มีประชากรมาสด้าหนาแน่น Mazda Fast Service หรือ Mazda Satellite Service เพื่อให้บริการตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วนภายใน 30 นาที ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 3 แห่ง

  1. การตลาดยุคดิจิทัล Use of Digital Platform นำแพลตฟอร์มออนไลน์สื่อสารกับลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำการตลาดแบบ Fan-Based Marketing แบบ One-to-One Communication รวมถึงการนำฐานข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านระบบที่เรียกว่า Global One Customer Data Management System
  2. มุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Zoom-Zoom ภายในปี 2573

– มาสด้าประกาศวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแผนพัฒนาเทคโนโลยีระยะยาว Sustainable Zoom-Zoom เมื่อปี 2550 และอัปเดตอีกครั้งในปี 2560 เป็น “Sustainable Zoom-Zoom 2030” โดยแก่นแท้ของวิสัยทัศน์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มาสด้าให้คำมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในเรื่องของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2593

– ภายใต้กลยุทธ์ Building Block Strategy เพื่อบรรลุเป้าหมายในการลด CO2 แบบ Well-to-Wheel ด้วยการใช้แนวทาง Multi-solution ช่วยให้นำเสนอรูปแบบพลังงานที่ถูกต้องในสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในแต่ละตลาด ตลอดจนสถานการณ์ด้านพลังงานของแต่ละภูมิภาค การผลิตไฟฟ้า และอื่นๆ

ดังนั้นแนวทาง Building Block Strategy ที่จะทำให้มาสด้าบรรลุวัตถุประสงค์ตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว คือ การสร้างรากฐานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตามลำดับเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้เกิดการพัฒนารถยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานในกรอบเวลาที่เหมาะสม

  • เฟส 1 พัฒนาเทคโนโลยีบนพื้นฐานของรถทั้งคัน ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ประกอบด้วย เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง โครงสร้างตัวถัง และแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสูง โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น ขั้นตอนในการพัฒนานี้ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีพื้นฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาใช้ เช่น ระบบ i-Stop และ Regenerative Braking System ที่นำเอาพลังงานจากการหยุดรถกลับมาชาร์จเป็นพลังงานไฟฟ้า และนำพลังงานกลับมาใช้ในระบบไฟฟ้าของรถยนต์
  • จากเฟส 1 จนมาถึง เฟส 2 ได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมกับการพัฒนาแพลตฟอร์ม Skyactiv Scalable Architecture เป็น Multi-Solution สำหรับกลุ่มรถขนาดเล็กและขนาดกลาง ล่าสุด ได้พัฒนา Large Platform สำหรับกลุ่มรถขนาดใหญ่ที่มีการวางเครื่องยนต์ตามแนวยาว
  • รวมถึงการนำเอาพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเสริม อาทิ HEV, ​PHEV, Rotary Range Extender และรถยนต์ไฟฟ้า BEV โดยรุ่นแรก คือ MX-30 ด้วยพื้นฐาน Platform และเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้รถยนต์ xEV ประหยัดพลังงาน และมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม
  • และในอนาคต เฟส 3 มาสด้ากำลังพัฒนา Skyactiv EV Scalable Architecture หรือ Next Generation บนโครงสร้างพื้นฐาน Skyactiv สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ปรับขนาดได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอโครงสร้างที่ตอบโจทย์รถไฟฟ้าในทุกองค์ประกอบ ในทุกเซกเมนต์ ซึ่งลูกค้ามีความต้องการที่แตกต่างกัน ภายใต้ Building Block Strategy และ Multi-Solution โดยนำเสนอรถยนต์ ICE ประสิทธิภาพสูงและรถพลังงานไฟฟ้า xEV แบบ Multi-Solution ในแต่ละตลาดที่แตกต่างกัน

ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาสด้ายังคงเดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัย ให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของมาสด้า

มาสด้าเชื่อว่ารถยนต์ภายใต้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าในประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  

โดยจะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาดในประเทศไทยแบบเป็นขั้นเป็นตอน ภายใต้กรอบเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าได้รับเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ในเวลาช่วงที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการดำเนินธุรกิจของมาสด้า ในปีงบประมาณ 2565 ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในห้วงเวลาที่อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย เพื่อมอบทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ มาสด้าจะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ มอบความคุ้มค่า และส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ตามวิสัยทัศน์ของมาสด้า Sustainable Zoom-Zoom 2030 เพื่อให้โลกของเรายังคงสวยงาม เพื่อความสุขผู้คนในสังคม และสร้างสังคมให้น่าอยู่ตลอดไป


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " MAZDA ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจสู่การเติบโตแบบยั่งยืน
ยกระดับคุณค่าแบรนด์ ดูแลลูกค้าแบบพรีเมี่ยม
"

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด