Genesis ยืนยันรถแบบ “G70 Model 2019” พร้อมแล้วเปิดตัวแล้วด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ล่าสุด

Genesis ยืนยันรถแบบ “G70 Model 2019” พร้อมแล้วเปิดตัวแล้วด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ล่าสุด

Genesis แบรนด์รถยนต์ระดับหรูหรานั้นล่าสุดได้ทำการเปิดตัวรถแบบ G70 Model 2019 รุ่นใหม่ออกมาแล้วในวันนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ราคาเปิดตัว 34,900 ดอลล่าร์สหรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนเป็นที่แรก ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งทั่วโลกในระยะต่อมาหลังจากที่เปิดตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยรถแบบ G70 2.0T Advanced นั้นจะมาพร้อมกับไฟหน้าแบบใหม่, ไฟแบบ LED Daytime Running Light, ล้อแม็กซ์อัลลอยด์ขนาดใหญ่ 18 นิ้วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, พวงมาลัยแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบ, เบาะหนังแบบคุณภาพสูงเต็มรูปแบบทั้งรอบคัน, เครื่องปรับอากาศรอบทิศทางแบบ dual-zone automatic climate control system และระบบเครื่องเสียงเต็มรูปแบบอย่าง infotainment system ขนาด 8 นิ้วด้วยกัน รวมไปถึงระบบ Apple CarPlay และ Android Auto หลายรูปแบบ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆมากมาย เช่น ไฟหน้าแบบปรับแสงเองได้ (High Beam Assist), ระบบในการช่วยเปลี่ยนเลนอย่าง Lane Keep Assist และ Blind-Spot Collision Warning (เตือนจุดบอดของตัวรถ) Rear Cross-Traffic Alert (เตือนขณะข้ามแยก), ระบบประหยัดพลังงานอย่าง Smart Cruise Control , ระบบสตาร์ทอัตโนมัติอย่าง Stop & Go และ Forward Collision Avoidance (ระบบตรวจจับวัตถุขีดขวางทางด้านหน้าของตัว) ซึ่งใช้งานได้จริงในการทดสอบ

รุ่นเริ่มต้นนั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร จะช่วยส่งกำลังทั้งสิ้น 252 แรงม้า พร้อมผลิตแรงบิดที่ 260 ปอนด์ต่อฟุต ส่งกำลังไปยังเกียร์อัตโนมัติ แบบ 8 สปีด ต่อเนื่องไปยังล้อหลัง ส่วนระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อนั้น จะต้องเพิ่มเงินทั้งสิ้น 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยกัน ส่วนเจ้ารถแบบ G20 Model จะมีขนาดเครื่องยนต์ 2.0 Turbo มาพร้อมกับราคาทั้งสิ้น 39,900 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม Option ในส่วนของไฟหน้าแบบ LED, ในส่วนของระบบปัดน้ำฝนและหลังคาแบบซันรูฟ โดยที่ผู้ซื้อสามารถเลือก Option ที่หรูหรา ของตัวรถ ได้เพิ่มเติม เช่น เบาะหน้าแบบปรับไฟฟ้า, พวงมาลัยแบบสปอร์ตและที่สำคัญคือไฮไลท์ในส่วนของระบบนำทาง ที่มาพร้อมกับไฟโลโก้ ของแบรนด์ genesis และปิดท้ายด้วย ลำโพงขนาดใหญ่ ขนาด 15 นิ้วของแบรนด์

นอกจากนี้ผู้ซื้อยังสามารถ อัพสเปคขึ้นไปยังรุ่นท็อป แบบ G70 Model ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมชุดแต่งแบบแพคเกจ ในราคาทั้งสิ้น 44,900 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเติม Option ในส่วนของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Options การตกแต่งภายใน ด้วยเบาะหนังของ Nappa เต็มรูปแบล พร้อมการตกแต่งด้วยที่รองศีรษะของวัสดุอย่างไมโครไฟเบอร์ รวมไปถึง Option หน้าจอแสดงผลหลังศีรษะ รวมไปถึงการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบ wireless สามารถชาร์จได้แบบไร้สาย และกล้อง รอบทิศทาง 360 องศาใส่เอาไว้ในรถให้ได้ใช้งานอย่างเต็มเปี่ยม

ต่อไปเป็น Option แบบสปอร์ตที่สาวกคนรักความเร็วต้องชื่นชอบ ด้วย Option ในรุ่น G70 เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบ Dynamic Model ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ Limited Edition ล้อแม็ก อัลลอยขนาด 19 นิ้วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมยาง ที่ใช้ในฤดูร้อนโดยเฉพาะ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มเงินอีก 1,000 ล่าสหรัฐ เพื่อเพิ่ม Option ในส่วนของเบาะหนังแบบในป่า พร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แผ่นกระจังหน้าแบบโครเมียม ที่เคลือบไฟหน้าแบบทองแดง และไฟท้ายรูปแบบใหม่

สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบความเร็ว และนิยมใช้เกียร์ในระบบธรรมดา ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะทางทีมงานของ Genesis ก็ได้ใส่ออฟชั่น การแต่ง ในแบบเกียร์กระปุกเช่นกัน มาพร้อมกับ Option เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบสปอร์ต เกียร์ธรรมดา 6 สปีดในราคาทั้งสิ้น 37,900 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับ Option ล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว ท่อไอเสียแบบสปอร์ตรูปแบบใหม่ และปิดท้ายด้วยไฟแอลอีดีแบบมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ ในขนาด 3.3 ลิตร แบบเทอร์โบ ที่เป็นเครื่องยนต์แบบ V6 ให้กำลังทั้งสิ้น 365 แรงม้า พร้อมแรงบิด 376 ปอนด์ต่อฟุต หรือประมาณ 509 นิวตัน มาพร้อมกับพวงมาลัยแบบไฟฟ้าสุดสปอร์ต และท่อไอเสียแบบคู่ ที่ช่วยส่งกำลังของเจ้ารถ “Genesis G70 Model” ได้อย่างลงตัว

ปิดท้ายด้วยเจ้า G70 Model แบบขนาดเต็มความจุทั้งสิ้น 3.3 ลิตรแบบ Diamond Model มาพร้อมกับระบบหน้าจอแสดงผลหลังศีรษะ การตกแต่งแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบ พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายที่ตกแต่งอย่างลงตัว เหมือนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรทุกประการ โดยทีมงานดีไซเนอร์ของแบรนด์อย่าง genesis นั้นได้เลือกการตกแต่งภายในสุดหรูหรา ออกแบบแบบ Limited Edition โดยใช้วัสดุที่มีราคาแพงและสวยงาม ส่งท้ายด้วยรุ่น 3.3 ลิตรแบบเทอร์โบ Dynamic Edition มาพร้อมกับ ประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 3.3 ลิตรสุดสปอร์ต ในราคาทั้งสิ้น 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยเน้นไปที่ Option การใช้ความเร็ว ด้วยการเพิ่ม ระบบเบรค ที่ไร้ที่ติ สั่งการด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด ในส่วนของ จานเบรคขนาดใหญ่มากกว่าปกติ โครงสร้างตัวรถ รวมไปถึง ระบบช่วงล่าง ที่ปรับแต่งมาโดยทีมงานของ Genesis เอง ทำให้การขับขี่นั้น มีประสิทธิภาพและทรงพลังมากกว่ารุ่นเดิมๆ