เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2563 คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เปิดประชุมนัดแรกมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิในอุตสาหกรรมยานยนต์ ร่วมหารือในมาตรการผลักดันให้เกิดการผลิตและการใช้รถยนต์-รถบัส-จักรยานยนต์ไฟฟ้า อย่างแพร่หลายหวังลดปัญหามลพิษ และ PM 2.5 พร้อมส่งเสริมความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย วางเป้าหมายผลิต รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ให้ได้ 30% จากกำลังผลิต 2.5 ล้านคัน/ปี ในปี 2030
โดยหนึ่งในมาตาการเร่งด่วนที่นำเสนอคือ “EV ประชารัฐ” ช่วงเวลาดำเนินการระหว่างปี 2564 – 2566 โดยให้สิทธิประโยชน์คือรับซื้อรถยนต์เก่า (อายุ 10 ปี) สูงสุด 100,000 บาทต่อคัน เพื่อนำเงินไปแลกเป็น รถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ หวังให้เกิดการซื้อ-ขาย รถปลั๊ก-อินไฮบริด (PHEV) 25,000 คัน และ อีวีพลังงานไฟฟ้า 100% จำนวน 25,000 คัน
ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ใช้ชื่อแคมเปญ “วินสะอาด” ระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี 2563 – 2566 เป้าหมาย คือ ผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่มีเสื้อวินเป็นชื่อตนเอง จำนวน 53,000 คัน ให้เปลี่ยนมาใช้ รถจักรยานยนต์อีวี โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ รับซื้อรถเก่า (10 ปี) 15,000 บาท/คัน และชดเชยดอกเบี้ยส่วนต่าง 10,000 บาท/คัน ภายในระยะเวลา 3 ปี และค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ 30,000 บาท/คัน ภายในระยะเวลา 6 ปี
นายสมคิด เปิดเผยว่า ในการประชุมมีหัวข้อสำคัญ 2 ข้อ คือ ทำอย่างไรให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ และทำอย่างไรให้รถจักรยานยนต์ที่ปล่อยมลภาวะให้ปรับเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้า ขณะเดียวกัน ต้องคำนึงถึงเรื่องแบตเตอรีที่มีข้อเสนอคือ นำเข้ามาก่อนเพื่อให้เกิดการใช้งาน จากนั้นจะส่งเสริมให้เกิดการผลิตแบตเตอรีในประเทศ และเพื่อสร้างความต้องการซื้อ รัฐบาล-เอกชนต้องทำแพลตฟอร์มร่วมกัน
“เป็นเรื่องไก่กับไข่ ที่เราต้องสร้างแรงจูงใจให้เกิด ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นภาษีนำเข้า, ภาษีสรรพสามิต การผลักดันให้รถราชการ รถขนส่งมวลชนต่างๆ รถประจำตำแหน่ง วินมอเตอร์ไซค์มาใช้ ส่วนไข่คือโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีประจุไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนที่จะใช้รถพลังงานไฟฟ้า” ดร.สมคิด กล่าว
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " EV ประชารัฐ ออกนโยบายรับซื้อรถเก่า 10 ปี ราคา 1 แสนบาท เพื่อแลกซื้อรถยนต์พลังไฟฟ้า "