Audi R10 เข้าสู่อาณาจักรรถ Hypercar

Audi ได้เตรียมเข้าสู่การเป็นผู้นำในการผลิตรถซูเปอร์คาร์ระดับ high-end สำหรับรุ่น R10 ได้มาพร้อมสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นถึง 600bhp ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง Le Mans-winning R18 รุ่นล่าสุด

รถสองที่นั่งมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่สองของ R8 เชื่อมต่อกับความเป็นรถมอเตอร์สปอร์ตสัญชาติเยอรมันและธุรกิจรถยนต์

ในรุ่นนี้จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนดีเซล-ไฟฟ้า, เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยน่าจะเปิดตัวในงาน Frankfurt Motor Show ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

Wolfgang Dürheimer หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Audi’s R&D กล่าวในงาน Geneva Motor Show สัปดาห์ก่อนว่า Audi โฉมใหม่ กำลังอยู่ในช่วงประเมินการว่าจะผลิตหรือไม่ แต่เขาได้บ่งบอกสัญญาณที่ดีว่าน่าจะเข้าสู่กระบวนการการผลิต

Dürheimer ได้กล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการประเมินการผลิต โดยดูที่ตลาด, ภาพลักษณ์ของแบรนด์, ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา และเวลาในการเข้าสู่ตลาด ถ้าคืบหน้าอย่างไร เราจะแจ้งให้ทราบอีกทีในงาน Frankfurt Motor Show”

รถไฮเปอร์คาร์โฉมใหม่มีความพยายามที่จะนำเสนอเทคโนโลยี cutting-edge ภายหลังจากที่มีการเลื่อนแผนสำหรับ R8 e-tron

รถ coupe ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าถูกพัฒนาผ่านการเจริญเติบโตในด้านการผลิตภายใต้การนำของ Michael Dick อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขาดการสนับสนุน จึงนำไปสู่การล้มเลิกการผลิตไปเมื่อหลายเดือนก่อน

ขณะที่ Audi ยังคงปกปิดรายละเอียดของรถแห่งอนาคตไว้ ทาง Autocar ได้นำเสนอโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์แบบ Monocoque ที่ได้รับการพัฒนาและชุดตัวถังที่เชื่อมต่อเข้ากับรถแข่ง R18 ที่ดูแข็งแกร่ง Dürheimer กล่าวว่า “ฉันเห็นถึงข้อเสนอชุดแต่งและมันดูยอดเยี่ยม”

พลังขับเคลื่อนมาจากเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 6 สูบ ขับเคลื่อนล้อหลังผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 speed 309bhp และ 479lb-ft รวมถึงภายในที่เบาลงและข้อเหวี่ยงที่ยกขึ้น 90 องศา ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังถึง 420bhp และ 515lb ft

เครื่องยนต์ดีเซลมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพิ่มกำลังไปที่ล้อหน้า ทำให้เรานึกถึงภาพของ Porsche 918 Spyder ซึ่งเป็นรถที่พัฒนาขึ้นโดย Dürheimer เช่นกัน

เครื่องยนต์ดีเซลและมอเตอร์ไฟฟ้าเชื่อมต่อกันและส่งกำลังถึง 600bhp และแรงบิดที่ 737lb-ft

Dürheimer กล่าวว่า รถไฮเปอร์คาร์เครื่องยนต์ดีเซล-ไฟฟ้า เป็นทางเลือกที่จะนำ Audi ไปสู่ความเป็นรถไฮเปอร์คาร์แบบใหม่ เขายังชี้ให้เห็นว่า “มันไม่ได้อยู่ใน 5 โครงการที่จะเกิดขึ้น แต่มันเป็นความชอบส่วนตัวของฉัน”