ค่ายรถแข่งเดือดดัน “NPL” ปูด “ลีสซิ่ง” เข้มแตะเบรก “ดีมานด์เทียม”

ลีสซิ่งห่วงค่ายรถจัดแคมเปญดุเกิน ดึงลูกหนี้เสี่ยงสะสม หวั่นเอ็นพีแอลปูด กสิกรฯย้ำจุดยืนรักษาคุณภาพพอร์ต ยอมโตไม่เข้าเป้าดีกว่าตุนหนี้คุณภาพต่ำ จับตาปล่อยกู้แบบ “บอลลูน” ไปตายดาบหน้า ธปท.กางตัวเลขเอ็นพีแอลสินเชื่อรถขยับ 1.78% มั่นใจแบงก์เอาอยู่ ด้านค่ายรถยอมเฉือนเนื้อเร่งระบายสต๊อก

ตลาดรถยนต์เวลานี้กำลังเดือดสุดสุดกับแคมเปญต่าง ๆ ที่ค่ายรถระดมกันเข้ามาเพื่อเร่งระบายรถแก้ปัญหาสต๊อกบวม จึงเห็นโฆษณาทั้งลดแลกแจกแถมหนักหน่วง ทั้งดาวน์ต่ำสุด 0% ฟรีดอกเบี้ย ผ่อนต่ำสุดเริ่มต้นกันแค่ 3 พันบาท/เดือน

นายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เป็นห่วงกับสถานการณ์แข่งขันในตลาดรถยนต์และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในเวลา นี้ที่ค่ายรถยนต์และดีลเลอร์เร่งอัดแคมเปญกระตุ้นแรงซื้ออย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องดาวน์ต่ำ ฟรีดอกเบี้ย จึงเกรงว่าจะเป็นการดึงลูกค้าที่ความสามารถผ่อนยังไม่แข็งแกร่งเข้ามาในระบบ แล้วจะเป็นการสะสมความเสี่ยง ซึ่งอาจเกิดผลกระทบปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้นในอนาคตได้

“จังหวะนี้ยอมรับว่าตลาดอิ่มตัวมาก ตลาดรถใหม่ก็ยังซบเซา ส่วนรถมือสองก็มีปัญหาเรื่องราคาตกไป 20-25% ถ้ามาเร่งอัดแคมเปญหนัก ๆ โดยไม่ได้กรองลูกค้าให้ดี อาจจะเกิดปัญหาตามมาได้ โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อแบบบอลลูน ที่ผ่อนน้อย ๆ ในช่วงต้น แต่ต้องโปะเงินก้อนใหญ่ในปีที่ 4-5 บางกรณีต้องโปะถึง 40-50% ของวงเงินสินเชื่อ มีโอกาสเสียหายเยอะ”

นายอิสระกล่าวต่อว่า แนวโน้มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ช่วงครึ่งปีหลัง คงชะลอลงมากพอควร หลังเริ่มเห็นสัญญาณว่าสินเชื่อในกลุ่มรถคันแรกและรถมือสองที่ปล่อยไปก่อนหน้าเริ่มมีปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้น และราคาขายต่อตกลงมากจนทำให้การยึดรถมาจะยิ่งขายขาดทุน 20-25% ซึ่งเป็นประเด็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กังวล ดังนั้นช่วงครึ่งปีหลังสถาบันการเงินก็คงชะลอสินเชื่อลงบ้าง และตอนนี้บางค่ายก็หมุนทีมมาร์เก็ตติ้งมาช่วยติดตามหนี้แทน

เข้มลูกค้าใหม่กำลังผ่อนอ่อนลง
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวยอมรับว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เดินเข้ามาขอสินเชื่อในช่วงนี้ถือว่าความสามารถผ่อนชำระต่ำกว่าเดิมมาก จังหวะนี้สถาบันการเงินต้องมีจุดยืนที่จะคุมคุณภาพหนี้ให้รัดกุม นอกจากประเมินว่าลูกค้าต้องไม่แบกหนี้เกิน 40-50% ของรายได้แล้ว ยังต้องมีเงินออมไว้ระดับหนึ่งเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต

ปัญหาหนี้เสียตอนนี้ถือว่ายังทรงตัว โดยเฉพาะกลุ่มรถคันแรกที่ธนาคารปล่อยไปยังมีอัตราหนี้เสียต่ำกว่าปกติ เพราะลูกค้าจะถูกบังคับให้ต้องมีวินัยการเงิน มิฉะนั้นหากกลายเป็นหนี้เสียและถูกยึดรถ ก็จะต้องจ่ายเงินภาษีคืนให้รัฐด้วย ขณะที่สถาบันการเงินก็ต้องระมัดระวัง เพราะตลาดรถมือสองยังไม่ฟื้น ถ้ายิ่งมีรถเป็นหนี้เสียแล้วต้องขายต่อก็จะยิ่งขาดทุนมาก

“ลูกค้าต้องประเมินกำลังซื้อของตัวเองให้ดี แต่ถ้าใครมีดีมานด์จริงและกำลังซื้อถึงก็ถือเป็นนาทีทองซื้อรถ เพราะเงื่อนไขดีมาก ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ก็อัดงบฯเข้ามากระตุ้นยอดขายสูงมากอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน บางรายคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 10% ของมูลค่ารถ จากปกติแค่ 3-5% เท่านั้น” นายศักดิ์ชัยกล่าว

แบงก์คุมเข้มดาวน์ 20-25%
นายธีรชาติ จิรจรัสพร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่าซื้อ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า แคมเปญที่แข่งขันกันรุนแรงในเวลานี้น่าจะเป็นลูกเล่นการตลาดที่ค่ายรถยนต์พยายามดึงดูดลูกค้าให้เข้าโชว์รูม โดยใช้ลีสซิ่งในเครือ (แคปทีฟไฟแนนซ์) มาเป็นกลไก แต่เชื่อว่าแคปทีฟไฟแนนซ์ก็ต้องมีเงื่อนไขที่ช่วยคัดกรองไม่ให้ความเสี่ยงสูงเกินไป ส่วนสถาบันการเงินที่ทำธุรกิจเช่าซื้อนั้น เชื่อว่าปล่อยอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว โดยคุมเรื่องเงินดาวน์ไว้ที่ระดับ 20-25% และผ่อนชำระประมาณ 60 งวด ทั้งลูกค้าต้องมีรายได้ประมาณ 2-2.5 เท่าของค่างวด

“สำหรับสถานการณ์รถคันแรกถือว่ายังดีอยู่ หนี้เสียต่ำกว่ารถปกติที่เข้ามาในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะเงื่อนไขค่อนข้างรัดกุม ทั้งเกณฑ์การคืนภาษีที่ต้องรอครบ 1 ปีหลังจากยื่นเอกสาร และต้องครอบครองรถ 5 ปี ทำให้ลูกค้าไม่ค่อยกล้าทิ้งรถ มิฉะนั้นจะเจอทั้งปัญหาขายขาดทุนและต้องคืนเงินภาษีกลับให้รัฐ ส่วนราคารถมือสองในตลาดตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้น เชื่อว่าปัญหาถึงจุดต่ำสุดไปแล้ว” นายธีรชาติกล่าว

หนี้เสียขยับ 1.78%
นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวยอมรับว่า อัตราหนี้เสียของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม เอ็นพีแอลสินเชื่อเช่าซื้อขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.78% เทียบจากปลายปีที่แล้วอยู่ที่ 1.4% แต่ถือว่าเป็นระดับที่ไม่ได้น่ากังวลมากนัก เพราะยังต่ำเมื่อเทียบกับอัตราหนี้เสียของสินเชื่อทั้งระบบที่ 2.2%

“สัญญาณหนี้เสียส่วนใหญ่มาจากกลุ่มรถยนต์มือสองมากกว่า เพราะมีผลกระทบเรื่องราคาขายที่ตกลง ขณะที่กลุ่มรถคันแรกถือว่าหนี้เสียยังอยู่ระดับต่ำ โดยภาพรวมของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไม่ได้สร้างความหนักใจให้ ธปท.มากนัก แต่ก็ยังจับตาอยู่ตลอด โดยตัวเลขการค้างชำระช่วง 1-3 เดือนอยู่ในระดับ 6.85% จากปลายปีที่แล้วอยู่ที่ 6.03%”

ธนาคารพาณิชย์รู้อยู่แล้วว่าหนี้เสียมีทิศทางเพิ่มขึ้น จึงเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ยึดมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เป็นนโยบายของธนาคารอย่างเคร่งครัด ไม่ได้ยืดหยุ่นเหมือนเดิมแล้ว

จับตาสินเชื่อรายย่อยแผ่วลง
นอกจากนี้นางสาลินีกล่าวว่า ธปท.ยังคงให้น้ำหนักกับการติดตามสินเชื่อกลุ่มอื่น ๆ เช่นกัน ซึ่งยอมรับว่าการเติบโตของกลุ่มสินเชื่อรายย่อยตอนนี้เริ่มสะดุดบ้าง มีอัตราเติบโตที่ลดลง จึงติดตามอย่างใกล้ชิด โดยพบว่ายอดค้างชำระ 1 เดือนอยู่ที่ประมาณ 2.2% ขยับขึ้นมาเล็กน้อย

ทั้งนี้ ณ ส.ค. 2556 สินเชื่อรวมเติบโต 12.2% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่ขยายตัวราว 15% โดยกลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอียังคงรักษาระดับเติบโตที่ประมาณ 15% เช่นเดิม ส่วนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่เร่งตัวขึ้นเล็กน้อยเติบโต 6% จากเดิม 4% ขณะที่สินเชื่อรายย่อยเริ่มชะลอลงอย่างชัดเจนเหลือเติบโต 15% จากเดิมที่เคยเติบโตกว่า 20%

ค่ายรถกัดฟันยอมเฉือนเนื้อ
นายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า การจัดแคมเปญของผู้ผลิตรถยนต์นั้นถือว่ามาสุดทางแล้ว แต่ทุกค่ายมีวงเงินใกล้เคียงกันคือ สำหรับรถยนต์บีคาร์จะมีเพดานงบฯจัดแคมเปญประมาณ 45,000-50,000 บาท

แม้ผู้ผลิตรายใหญ่ใช้แคมเปญผ่อนชำระต่อเดือนที่ต่ำ แต่น่าจะเป็นแคมเปญเพื่อดึงลูกค้าเข้าโชว์รูมเท่านั้น และมีเงื่อนไขการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวด ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผู้ผลิตจะได้กำไรต่อคันประมาณ 8% แต่การแข่งขันที่รุนแรงทำให้บางค่ายแทบไม่เหลือกำไร โดยสต๊อกของแต่ละค่ายขณะนี้ค่อย ๆ ลดลงในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้โปรโมชั่นก็ไม่น่าจะรุนแรงไปกว่านี้

สำหรับแคมเปญของมาสด้าคือ รับรถวันนี้ผ่อนปีหน้า บริษัทจะเป็นผู้จ่ายค่างวดให้กับลูกค้าก่อน วิธีนี้เป็นการช่วยยืดระยะเวลาการผ่อนชำระออกไป ทำให้ลูกค้าพร้อมออกรถภายในปีนี้ คาดว่าจนถึงสิ้นปีน่าจะมียอดขาย 55,000 คัน และหากรวมกับยอดขายรถยนต์รุ่นใหม่ซีเอ็กซ์-5 ยอดขายก็น่าจะถึง 60,000 คัน ถือว่าน่าพึงพอใจ เพราะยอดขายในปี 2554 อยู่ที่ 48,000 คัน ถือว่ายังมีอัตราการเติบโต

ด้านนายวัลภล ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเล่นแคมเปญที่รุนแรงขึ้น ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะตลาดรถยนต์กำลังจะฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าลูกค้ามีจำนวนจำกัด ตรงนี้อยากให้ทุกคนมีความระมัดระวังและมองภาพตลาดให้ชัดเจน

ขอขอบคุณข้อมูล ประชาชาติธุรกิจ