โชค บูลกุล เปิดใจทำไมต้อง “เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์” Chevrolet Trailblazer

นอกจากบททดสอบรถ “เทรลเบลเซอร์” แล้ว ทีมงานมีโอกาสสัมภาษณ์ “โชค บูลกุล” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเชฟโรเลต ถึงที่มา-ที่ไปของการรับงานครั้งนี้ พร้อมความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวรถ ..ที่อาจจะพูดได้ว่าเป็นความลงตัวระหว่างคนกับรถก็ว่าได้ ..

ทำไมถึงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์

จริง ๆแล้วด้วยความเป็นตัวผม ผมพยายามจะมองหาอะไรที่สนุก ท้าทายในการใช้ชีวิตอยู่แล้ว นานๆจะเจออะไรบ้างอย่างที่มีความรู้สึกว่า อันนี้เหมาะกับบุคลิกภาพเรา หรืออยู่ด้วยแล้วมันควรคู่กับเราจริง ๆ พอเห็นเจ้า “เทรลเบลเซอร์” และมีโอกาสได้ลองขับ รู้สึกว่านี่แหละความเป็นตัวตนของเรา บวกกับเรามีบุคลิกภาพหลายด้าน ทั้งนักธุรกิจ เจ้าของฟาร์ม หัวหน้าครอบครัว ..มันใช่เลย ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ ความแข็งแกร่ง สมบุกสมบัน และยังสามารถขับไปพบปะเพื่อนฝูง-ร่วมงานสังคม -ขับในฟาร์ม โดยเฉพาะความอเนกประสงค์ ผมคิดว่ามันเป็นรถที่มีความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป …จึงเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ “เทรลเบลเซอร์”

ชอบอะไรในตัวรถ

สิ่งที่ผมชอบสุดอย่างแรกคือภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย ความโอ่โถง ถ้าจำไม่ผิดผมคิดว่าภายในรถน่าจะกว้างขวางกว่ารถหลายยี่ห้อในประเภทเดียวกัน และที่สำคัญคือความพิถีพิถัน-ความประณีต …ผมค่อนข้างชอบอะไรที่พิถีพิถันและมีความประณีต แม้ภายนอกออกจะดูลุย ๆ อย่างที่สอง เบาะหลังแถวสอง แถวสาม สามารถพับได้เรียบไปกับพื้นห้องโดยสาร อีกอย่างที่ชอบคือเรื่องเสียงล้อแทบไม่ได้ยินเลย ทั้งนี้เพราะมันซิลมาดี เลยชอบ

“เชฟโรเลต” เป็นแบรนด์ที่อยู่ใจหรือเปล่า

ผมโตในเมืองนอก จะคุ้นเคยกับแบรนด์นี้อยู่แล้ว และเป็นแบรนด์แรกที่คลุกคลีด้วยตลอดเวลา ทำให้รู้สึกคุ้นเคยกับมันมานานตั้งแต่เรียนหนังสือ มันเป็นแบรนด์ที่คู่กับไลฟ์ไตล์อย่างที่เราเป็น ตอนอยู่ที่อเมริกา ผมเคยเป็นเจ้าของมาก่อน และผมคิดว่ามันเป็นเหตุผลหนึ่งที่เข้ากับบุคลิกภาพของผม

ที่บ้านมีรถหลากหลาย

มีหลายยี่ห้อ แล้วแต่ว่าจะใช้ไปทำกิจกรรมอะไร แต่ถ้าเราเลือกมาคันหนึ่งและสามารถใช้มันได้หลายสถานะ หรือมีความหลากหลาย ก็ดีนะ ยิ่งเราทำงานหลากหลายหน้าที่ ทำให้เราต้องเปลี่ยนรถบ่อย ผมคิดว่ารถแบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ปกติชอบรถสปอร์ตไหม

ผมว่าผู้ชายชอบทุกคน แต่ด้วยนิสัยของผมไม่ชอบอยู่นิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดหรือวันธรรมดา จะพยายามหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์ มีสาระ ดังนั้นรถที่ใช้ประจำวันนอกจากขับเร็วได้แล้วควรจะทำอย่างอื่นได้ด้วย ..รถสปอร์ตก็ชอบนะ แต่ผมคิดว่าถ้าเรามีรถสักคันหนึ่ง หรือสองคัน ก็อยากมีรถที่ครบครัน ครบเครื่อง เก็บไว้บ้าง

ขี่ม้ากับขับรถ

คนละฟิลลิ่งกันเลย ม้าเนี่ยมันก็มีความสนุก ใครไม่เคยขี่ม้าจะไม่เข้าใจความรู้สึก การที่เราได้ควบคุมอะไรบางอย่างที่มันมีชีวิตคุณต้องรู้จักความรู้สึกเขา ด้วย เพราะไม่อย่างนั้นม้าจะไปทาง-คนไปทาง ม้ากับคนถ้าไม่สัมพันธ์กันมันก็จะคึกคะนอง ….ผมคิดว่ารถจะง่ายกว่า เพราะใครขับก็ได้ แต่ถ้าหากขับรถที่เรามีความรู้สึกว่าใช่ตัวเรา มันก็จะสนุกไปด้วย ..แต่ถ้าไม่มีความรู้สึกแบบนี้ผมว่าขี่ม้าดีกว่านะ

สรุปได้ว่า เทรลเบลเซอร์ ถูกใจ

เราจะเลือกอะไรสักอย่าง หรือเราจะปรากฏตัวที่ไหนก็ตาม ไม่ใช่ว่าเราทำเพราะเราทำไปอย่างนั้น มันไม่ใช่ ผมคิดว่าหลายเรื่องที่เรามอง คุณภาพ สมรรถนะ มันคือเราด้วย ผมกล้าบอกเลยว่า เทรลเบลเซอร์ นี่แหละคืออะไรบางอย่างที่มันตอบโจทย์ความเป็นตัวตนของเรา ไม่ว่าจะเป็น Attitude ของรถ และ Attitude ของเรา