
ในกรณีที่เครื่องมีปัญหา ไม่ว่าจะขณะจอดหรือวิ่ง เต็มที่ก็เครื่องดับและนิ่งสนิทไปไหนไม่ได้ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องเบรค ไม่ว่าจะด้วยจากการที่แรงดันในระบบรั่วไหลหรือจะเป็นเบรคจม ที่แรงเสียดทานไม่มากพอที่จะหยุดรถ ยิ่งกับตอนที่รถเคลื่อนที่อยู่ด้วยล่ะก็ ไม่อยากคิดเลยล่ะครับ หลายคนอาจจะเคยได้ยินอาการเบรคจมหรือเฟดกันมาบ้าง แต่พอจะทราบสาเหตุ, การป้องกันและวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของอาการดังกล่าวหรือยัง ถ้ายังล่ะก็ ตาม “นาย T” มาเลยครับ
เบรคจมหรือเบรคเฟด (Brake Fade) คือการสูญเสียประสิทธิภาพในการชะลอความเร็ว ซึ่งเกิดจากความร้อนสะสมในระบบที่สูงมาก อันเนื่องมาจากการใช้เบรคหนักๆ ต่อเนื่องนานๆ (อย่างเช่นตอนลงเขาหรือทางที่ลาดชันมากๆ), ผ้าเบรค-จานเบรคหรือน้ำมันเบรคคุณภาพต่ำ ซึ่งจะทำให้น้ำมันเบรคเดือดง่าย, ผ้าเบรคความฝืดในการสร้างแรงเสียดทานให้กับตัวจานเบรค สรุปก็คือเหยียบจนแป้นเบรคเกือบทะลุ รถก็ยังไม่หยุดไหลนั่นเองครับ แต่นอกจากองค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการเบรคเฟดได้อีกด้วยล่ะครับ
ความร้อนกับระบบเบรค เป็นอะไรที่แยกกันไม่ออก เพราะระบบเบรคนั้นอาศัยความฝืดที่เกิดจากผ้าเบรคกับตัวจาน (หรือดุมในกรณีที่เป็นดรัมเบรค) ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความร้อนสูงๆ ที่เกิดจากการเสียดสีของผ้าเบรคกับตัวจานได้
ตรงนี้ตัวผู้ผลิตเค้าก็ได้เลือกเฟ้นชิ้นส่วนคุณภาพมาให้เราในระดับหนึ่ง สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว แต่ในกรณีที่เอาไปใช้งานผิดประเภทหรือต้องเจอกับสภาวะที่ต้องเบรคอย่างหนัก หน่วง อย่างแปรสภาพไปเป็นรถแข่ง (อันนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง),บรรทุกหนักและลงเขาหรือทางลาดชัน
พฤติกรรมแรกคงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องหาของแต่งที่คุณภาพสูงกว่ามาเปลี่ยนแทน ซะ (ถ้าคิดว่าจะเอาดีทางนี้อ่ะนะ) ส่วนการบรรทุกหนักหรือกับเส้นทางที่ต้องลงทาง ลาดชันยาวๆ นั้น อาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่กันซักหน่อย (ต้องพึ่ง Engine Brake ด้วย) อย่างการบรรทุกหนักเนี่ย เบรคหน้าต้องรับภาระหนักกว่าเดิมอยู่แล้วครับ เพราะเวลาที่เบรคน้ำหนักจะถ่ายเทมายังล้อคู่หน้าเสมอ ยิ่งขับเร็วก็ยิ่งต้องเบรคหนักกว่าปกติ ซึ่งนั่นหมายถึงการที่เบรคจะต้องรับภาระอันหนักอึ้งตามไปด้วย เพราะฉะนั้นหากต้องบรรทุกหนัก ก็ควรจะใช้ความเร็วพอประมาณ ไม่ใช่ขับระห่ำจนประสิทธิภาพของเบรคเอาไม่อยู่นะครับ
กับการขับรถลงเขาหรือทางลาดที่มีระยะทางค่อนข้างยาว แล้วใช้เบรคอย่างเดียวนั้นไม่ถูกนะครับ เพราะนั่นหมายถึงการโยนภาระให้กับระบบเบรคเพียงอย่างเดียว ลองนึกภาพตามนะครับว่าบนถนนที่ลาดชันเนี่ย น้ำหนักมันก็จะถ่ายเทไปที่ล้อคู่หน้ามากกว่าบนพื้นราบอยู่แล้ว ทีนี้เมื่อเราเบรคน้ำหนักก็จะยิ่งถ่ายเทไปยังที่ล้อค
หน้าเยอะตามไปด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เบรคจมยังไงไหวล่ะครับ ดังนั้นเราจึงควรที่จะใช้ตัวช่วยอย่าง Engine Brake ร่วมด้วย ในกรณีที่เป็นเกียร์ธรรมดาก็ง่ายหน่อย เพราะสามารถเปลี่ยนไปใช้เกียร์ 1, 2 หรือ 3 ได้ทันที (ต้องพิจารณาจากความเร็วกับรอบเครื่องเป็นสำคัญ)
ส่วนเกียร์อัตโนมัตินั้นก็ต้องย้ายตำแหน่งคันเกียร์ไปอยู่ที่ L (Low), 1 หรือ 2 แทน และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือแวะพักเป็นระยะๆ เพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของระบบเบรคได้คลายความ ร้อนที่สะสมบ้างนั่นเองครับ แต่หากต้องเผชิญกับการใช้งานดังกล่าวบ่อยๆ “นาย T” ว่าควรจะอัพเกรดชิ้นส่วนต่างๆ ควบคู่ไปด้วยเลยก็ดีครับ อย่างผ้าเบรคทนอุณหภูมิสูงกับน้ำมันเบรค DOT 4 หรือ 5 ก็พอที่จะช่วยป้องกันอาการเบรคจมได้เช่นกันครับ และที่สำคัญคือปรับพฤติกรรมการชะลอและลดความเร็วซักนิดก็ดีครับ เพราะเบรคมีไว้เพื่อลดความเร็วเมื่อต้องการจะหยุดรถ ไม่ใช่ลงทางลาดแล้วหวังพึ่งแต่เบรคอย่างเดียวก็ไม่ได้นะครับ
“นาย T” เคยคุยกับคนขับรถตู้ (รับจ้าง) ซึ่งเคยพาลูกค้าไปทัวร์ภาคเหนือ ซึ่งต้องบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันขึ้น-ลงดอยที่ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆ ตอนขึ้นนะไม่เท่าไหร่ เพราะเครื่องยนต์มีกำลังพอ แต่ตอนลงนี่ซิ พี่เค้าเล่นให้ฟังแบบหวาดเสียวว่าบางจังหวะมีอาการเบรคเกือบไม่อยู่ด้วย ดีที่พี่เค้ายังจอดพักให้ผ้าเบรค, จานเบรคกับน้ำมันเบรคได้คลายความร้อนบ้าง ฟังแล้วหวั่นๆ แทนผู้โดยสารเลยอ่ะครับ ก็อย่างที่ “นาย T” บอกนั่นแหละครับ ว่าถ้าเครื่องมีปัญหา เต็มที่ก็จอด แต่ถ้าเบรคมีปัญหาแล้วจะไปเอาอะไรมาลดความเร็วล่ะครับ พี่น้อง ?
ขอขอบคุณข้อมูล www.thaicartrick.com/
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
โตโยต้า อัลติส | โตโยต้า รีโว | Honda City | Honda Civic | มาสด้า 2 | Mazda CX-5 | นิสสัน อัลเมร่า | นิสสัน คิกส์ | Suzuki Swift | มิราจ | แอททราจ | ISUZU D-MAX | ISUZU MU-X
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " เบรคไม่อยู่ หรือ เบรคจม "