BMW Thailand สานต่อโครงการ แคร์ ฟอร์ วอเตอร์ ปีที่สอง มอบระบบการกรองน้ำให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลนในจังหวัดระยอง

BMW Thailand สานต่อโครงการ แคร์ ฟอร์ วอเตอร์ ปีที่สอง มอบระบบการกรองน้ำให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลนในจังหวัดระยอง

หลังจากที่ได้เปิดตัวโครงการแคร์ ฟอร์ วอเตอร์ ในประเทศไทยไปเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยเป้าหมายในการมอบการเข้าถึงน้ำสะอาดให้แก่ผู้ที่ขาดแคลน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ร่วมกับ ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ ได้ส่งมอบระบบการกรองน้ำจำนวน 1,930 และแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำให้แก่คนไทย 193,000 คน ใน 25 ชุมชนทั่วประเทศ เช่น โรงเรียน สาธารณสุขชุมชน

โครงการแคร์ ฟอร์ วอเตอร์ ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่สอง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และมร.เจฟฟรีย์ กอดิอาโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้นำคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และโรงงานในจังหวัดระยอง มอบระบบการกรองน้ำให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองที่โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 9 จังหวัดระยอง โดยมีแผนที่จะร่วมกับผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ ดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการดังกล่าวให้แก่ชุมชนในพื้นที่ขาดแคลนทั่วประเทศ ด้วยเป้าหมายที่จะส่งมอบระบบการกรองน้ำอย่างน้อย 5,000 ชุด ซึ่งสามารถยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของกว่า 500,000 คนในประเทศไทย ภายในช่วง 2 ปีนี้

โครงการแคร์ ฟอร์ วอเตอร์ เป็นความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และ Waves 4 Water องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรสัญชาติอเมริกา ที่มุ่งเน้นในการมอบการเข้าถึงน้ำสะอาดให้แก่ผู้ที่ขาดแคลนรอบโลก ในปัจจุบันความช่วยเหลือดังกล่าวได้ไปถึงชุมชนในประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย เม็กซิโก สาธารณรัฐประชาชนจีน และแอฟริกาใต้ โดยจุดมุ่งหมายและพันธกิจของโครงการแคร์ ฟอร์ วอเตอร์ คือการยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมสุขภาพที่ดี และลดปัญหาความยากจน
โครงการแคร์ ฟอร์ วอเตอร์ เป็นส่วนสำคัญในกิจกรรมเพื่อสังคมของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยเป็นปีที่สอง ซึ่งตัวแทนจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย รวมทั้งผู้จัดจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศ และ องค์กร Waves For Water ได้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ชาวบ้านจากแต่ละชุมชนในการติดตั้งและดูแลรักษาเครื่องกรองน้ำที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ในปี พ.ศ. 2559 ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ 17 ชุมชนที่ ขาดแคลนด้วยการบริจาคเครื่องกรองน้ำมากกว่า 1,300 ชุด ซึ่งสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านถึง 144,000 คนผ่านทางการเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาด นอกจากนี้ เครื่องกรองน้ำหนึ่งเครื่องสามารถใช้กรองน้ำสะอาดสำหรับ 100 คน ซึ่งชาวบ้านยังสามารถถ่ายทอดความรู้ในการบริหารจัดการน้ำดังกล่าวไปสู่ชุมชนอื่นๆ ได้เช่นกัน