HAREY-DAVIDSON FLRT Freewheeler ไปทุกที่…ที่อยากไป

เครื่องยนต์ เป็นแบบ 4 จังหวะ 2 สูบ V-twin

ระบบระบายความร้อน ด้วยอากาศ

ความจุเครื่องยนต์ 1,690 ซีซี.

จากกระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ 98.4 X 111.1 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ 9.7 : 1

ระบบวาล์ว แบบก้านกระทุ้ง 2 วาล์ว

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์

ชุดเกียร์ แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ เป็นแบบชนิดเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค (คลัทช์น้ำมัน)

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน สายพานส่งกำลังมายังชุดเกียร์และใช้สายพานอีกเส้นทำหน้าที่ส่งกำลังจากเกียร์ไปยังชุดขับหลังที่วางเยื้องศูนย์อยู่บนคานล้อ

โครงสร้างเฟรม มีการแก้แบบให้มุมล้อเอนเฉียงไปด้านหน้าเพื่อความเสถียรยามขับขี่

ถังน้ำมัน ทรงหยดน้ำ ฝาถังฝังไมล์ลงไปด้วย ฝาปิดถังออกแบบตามสไตล์ H-D มีสองรูเติมน้ำมันเชื้อเพลิง

เรือนไมล์ สไตล์ผ่าถังฝังไมล์

วงล้ออัลลอย
– ด้านหน้าขนาด 10 ก้าน ใช้ยางขนาด 130/60-19 นิ้ว
– ด้านหลังขนาด 205/65 R15 ยางหลังทั้งคู่จะคล้ายกับของรถยนต์ มีหน้ายางที่แบนราบกว้างชิดกับถนน

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับเทเลสโคปิค ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยม ปรับตั้งไม่ได้
– ช็อคอับหลัง เป็นแบบคานที่ทำงานร่วมกับช็อคอับสปิง

เบรค
– เบรคหน้า เป็นแบบจานเบรคคู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ ขนาบขวาและซ้ายของดุมล้อ คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ สั้งงานด้วยระบบไฮดรอลิค
– เบรคหลัง แบบเดี่ยวชนิดตายตัว คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ ใกล้เคียงกับรถยนต์

ถ้านึกถึง HAREY-DAVIDSON ทุกคนจะนึกถึงรถมอเตอร์ไซค์ครูสเซอร์ที่มีความเท่ความเก๋า แต่ในครั้งนี้มีความเปลี่ยนไปเล็กน้อยนั้นคือล้อหลังและเฟรม โครงสร้างเฟรมมีการแก้แบบให้มุมล้อเอนเฉียงไปด้านหน้าเพื่อเพิ่มความเสถียรยามขับขี่ และลดระดับความสูงของมุมเสาคอให้ต่ำลง ประกอบกับใช้แฮนด์โหนนิด ๆ ทำหน้าที่ควบคุม สำหรับผู้โดยสารก็มีตัวจับกันตกที่ประจำการอยู่บนบังโคลนหลัง ถังน้ำมันเครื่องและแบตเตอรี่อยู่ใต้เบาะคนขี่ ลักษณะของรถเน้นสีเดียวเสริมด้วยงานโครเมี่ยม รับรองเลยว่าใครที่เป็นคนชอบขี่มอเอตร์ไซค์ถ้าได้เห็นเป็นต้องอยากลองขี่หรือร่วมเดินทางกับมันสักครั้งรุ่นนี้มีกันสะบัดด้วยนะครับ

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com