
ใหม่ New MG MAXUS 9 PLUS 2025-2026 ราคา เอ็มจี แม็กซัส 9 พลัส ตารางผ่อน-ดาวน์
MG เปิดตัวรถตู้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดในไทยกับ MG MAXUS 9 PLUS ที่บอกเลยว่าใครกำลังมองหารถครอบครัวไฟฟ้าดี ๆ แบบ 7 ที่นั่งต้องห้ามพลาด เพราะมาพร้อมราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 1,799,000 บาท และจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
รุ่นนี้พัฒนามาจาก MG MAXUS 9 เดิม ที่เคยสร้างเสียงฮือฮาในฐานะ e-MPV ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของ MG และติดตลาดไปอย่างรวดเร็ว รอบนี้ MG เลยจัดเวอร์ชันใหม่ชื่อว่า “PLUS” ที่เพิ่มความคุ้มค่าเข้าไปอีก ทั้งในด้านฟีเจอร์ และการใช้งานจริง
ของใหม่ที่ใส่มาในรุ่น PLUS ก็มีเพียบ อย่างเช่น ม่านบังแดดด้านข้างเพิ่มความเป็นส่วนตัว เบาะ VIP หุ้มหนังลายใหม่ พร้อมโต๊ะพับปรับดีไซน์ให้ใช้งานง่ายขึ้น หน้าจอเชื่อมต่อ Apple CarPlay/Android Auto แบบไร้สาย ลำโพงรอบคัน 8 จุด และยังมี Sunroof สำหรับผู้โดยสารแถวหน้า ด้วยนะ เรียกได้ว่าสบายเหมือนนั่ง Business Class เลย
ดีไซน์ภายนอกก็ไม่ธรรมดา มีไฟ DRL แบบพาดยาวต่อเนื่องจากไฟหน้าซ้ายไปขวา ล้ออัลลอย 19 นิ้วลายใหม่ดูสปอร์ตมากขึ้น และยังไม่ทิ้งความเป็นรถสายแคมป์หรือสายอเนกประสงค์ เพราะรองรับการจ่ายไฟออก (V2L) สูงสุดถึง 6.6 kW เอาไว้ใช้กับพวกหม้อหุงข้าว, พัดลม, โน้ตบุ๊ก หรือชาร์จมือถือเวลาอยู่นอกสถานที่ได้สบาย ๆ
สเปกหลักของรถยังคงไว้แบบจัดเต็ม คือ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% แรงพอตัว นั่งสบาย ห้องโดยสารกว้างขวาง เงียบ และมีเทคโนโลยีช่วยขับมากมาย ครบทั้งความแรงและความนุ่ม
โปรโมชัน MG MAXUS 9 PLUS
– ฟรีประกันภัยชั้น 1 + พ.ร.บ. 1 ปี
– รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 160,000 กม.
– รับประกันแบตเตอรี่ + มอเตอร์ + ชุดควบคุม ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Warranty)
– แถมฟรี MG Home Charger พร้อมติดตั้งถึงบ้าน
– ฟรีพรมปูพื้น
*วันนี้ – 31 ก.ค. 2568 เท่านั้น
มิติตัวรถ
– ความยาว 5,270 มม.
– ความกว้าง 2,000 มม.
– ความสูง 1,840 มม.
– ระยะช่วงล้อ 3,200 มม.
– ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า 1,690 มม.
– ระยะห่างระหว่างล้อคู่หลัง 1,712 มม.
– ระยะต่ำสุดจากพื้น 140 มม.
สมรรถนะ
– มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor
– กำลังสูงสุด 245 แรงม้า
– แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
– แบตเตอรี่ Lithium-ion Battery ความจุ 90 kWh
– ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กม. มาตรฐาน NEDC
ระบบพวงมาลัย และช่วงล่าง
– ระบบพวงมาลัย ผ่อนแรง และควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
– รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.4 เมตร
– ระบบช่วงล่าง หน้า อิสระแมคเฟอร์สันสตรัท
– ระบบช่วงล่าง หลัง อิสระมัลติลิงก์
– ระบบเบรก หน้า ดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน
– ระบบเบรก หลัง ดิสก์เบรก
ขนาดล้อ และยาง
– ล้ออัลลอย 19 นิ้ว
– ยาง 235/55 R19
ภายนอก
– ไฟหน้าแบบ LED
– ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
– ไฟท้ายแบบ LED
– ระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
– ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
– กระจกมองข้างพับ ปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และระบบบันทึก
– ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
– สปอยเลอร์หลัง
– หลังคาซันรูฟ
ภายใน และความสะดวกสบาย
– สีภายใน สีดำ
– วัสดุหุ้มเบาะ หนังสังเคราะห์
– ตกแต่งภายในด้วยวัสดุ Soft Touch
– ไฟ Ambient Light 64 สี
– พวงมาลัยหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
– เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support 4 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึก ระบบนวด และระบบปรับอุณหภูมิ
– เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support 4 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึก ระบบนวด และระบบปรับอุณหภูมิ
– เบาะนั่งแถวที่สอง แบบ VIP พร้อมระบบนวด และระบบปรับอุณหภูมิ
– ช่องเก็บเอกสารด้านหลังเบาะด้านหน้า
– โต๊ะพับหลังเบาะคู่หน้า
– หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display)
– กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระหน้า-หลัง
– ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
– กระจกไฟฟ้า One Touch Up – Down 4 บาน
– ประตูสไลด์ด้านข้าง เปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
– ระบบปิดน้ำฝนอัตโนมัติ
– ช่องจ่ายไฟ 220V
– ระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load)
ระบบเครื่องเสียง
– พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
– ลำโพง 8 ตำแหน่ง
– หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว
– ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ
– ช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับที่นั่งทุกแถว
– ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดียจากสมาร์ทโฟน Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
ระบบความปลอดภัย
– ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
– ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
– ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
– ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam Control)
– ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
– ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
– ระบบช่วยเตือนการชน FCW และระบบช่วยเบรก AEB
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
– ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA / BSD / RCTA / DOW)
– ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
– จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ที่นั่งแถวที่ 2 และ 3
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
– กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
– สัญญาณเตือนระยะด้านหน้า และหลัง
MG MAXUS 9 PLUS รถ e-MPV ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ภายนอกให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ที่พาดยาวเชื่อมไฟหน้าทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน
มาพร้อมล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ที่มีเส้นสายก้านล้อแบบ Multi-spoke เรียงกันช่วยเสริมภาพลักษณ์ความโฉบเฉี่ยว
ขณะที่ในส่วนอื่น ๆ จะมาพร้อมกับไฟหน้า-ไฟท้าย แบบ LED พร้อมมีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED มีระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง หลังคาซันรูฟ กระจกมองข้างพับ ปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และระบบบันทึก
ส่วนประตูเป็นแบบบานสไลด์ด้านข้าง เปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารมาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากยิ่งขึ้น อาทิ ม่านกันแดดด้านข้าง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในห้องโดยสาร ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
เบาะนั่งแบบ VIP หุ้มหนังสังเคราะห์ พร้อมลวดลายใหม่ หลังคา Sunroof สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และลำโพงจำนวน 8 ตำแหน่ง พร้อมทั้งยังปรับเปลี่ยนรูปแบบของโต๊ะพับสำหรับผู้โดยสารแถวสอง ให้มีความคล่องตัวในการใช้งานมากขึ้น
สีภายในเป็นสีดำ ตกแต่งภายในด้วยวัสดุ Soft Touch ไฟ Ambient Light 64 สี พวงมาลัยหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support 4 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึก ระบบนวด และระบบปรับอุณหภูมิ ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง แต่ให้ฟังก์ชันครบเช่นเดียวกัน
หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระหน้า-หลัง มีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) กระจกปรับไฟฟ้า แบบ One Touch Up – Down ทั้ง 4 บาน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ ลำโพง 8 ตำแหน่ง หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดียจากสมาร์ทโฟน Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับที่นั่งทุกแถว
MG MAXUS 9 PLUS มาพร้อม มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion Battery ความจุ 90 kWh จัดวางแบบ Cell To Pack พร้อมระบบระบายความร้อน ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กม./ชาร์จ มาตรฐาน NEDC และตัวแบตเตอรี่ยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 5% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที* รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh
ชาร์จแบบเร็ว DC Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 120 kWh
รุ่น PLUS ยังเพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยระบบ V2L (Vehicle to Load) รองรับการจ่ายไฟสูงสุดถึง 6.6 kW เปลี่ยนรถให้กลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลากหลายนอกบ้าน
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลัง อิสระมัลติลิงก์ ระบบเบรก ด้านหน้าดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังดิสก์เบรก
– ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
– ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
– ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
– ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam Control)
– ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
– ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
– ระบบช่วยเตือนการชน FCW และระบบช่วยเบรก AEB
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
– ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA / BSD / RCTA / DOW)
– ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
– จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ที่นั่งแถวที่ 2 และ 3
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
– กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
– สัญญาณเตือนระยะด้านหน้า และหลัง
MG MAXUS 9 PLUS มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ 1.สีดำ (Black Knight) 2.สีขาวหลังคาดำ (Pearl White / Black Top) 3.สีเทาหลังคาดำ (Granite Grey / Black Top)
MG MAXUS 9 PLUS สีดำ (Black Knight)
MG MAXUS 9 PLUS สีขาวหลังคาดำ (Pearl White / Black Top)
MG MAXUS 9 PLUS สีเทาหลังคาดำ (Granite Grey / Black Top)
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ใหม่ New MG MAXUS 9 PLUS 2025-2026 ราคา เอ็มจี แม็กซัส 9 พลัส ตารางผ่อน-ดาวน์ "