GM รายงานรายได้สุทธิไตรมาสที่สาม 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

GM รายงานรายได้สุทธิไตรมาสที่สาม 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
และรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีสูงเป็นประวัติการณ์ 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดีทรอยท์ – เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่สาม รายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด เมื่อเทียบกับ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลดเมื่อปีที่แล้ว ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่สูงขึ้นในไตรมาสดังกล่าวชดเชยการขาดทุนสุทธิ จากรายการพิเศษ

ผลกำไรต่อหุ้นหลังการปรับปรุงรายการพิเศษอยู่ที่ 1.50 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 55 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปี 2557 สำหรับผลกำไรต่อหุ้นตั้งแต่ต้นปีถึงไตรมาสที่สามอยู่ที่ 3.63 เหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 96 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุงขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.0 เปอร์เซ็นต์ซึ่งทั้งสองตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเทียบกับรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 5.8 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่สามของปี 2557

“ผลประกอบการเหล่านี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเราในการช้เงินทุนให้เกิด ประโยชน์สูงสุดในสหรัฐอเมริกาและจีน พร้อมกับดำเนินการเชิงรุกเพื่อรับมือกับความท้าทาย” แมรี่ บาร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็มกล่าว “จีเอ็มเป็นบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อเทียบกับห้าปีที่แล้ว เรากำลังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ในธุรกิจหลักและดำเนินแผนการที่มุ่งสู่การขับ เคลื่อนส่วนบุคคลในอนาคต ทุกแผนการมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นในอีกหลายปีข้างหน้า”

รายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ ซึ่งรวมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษอยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนหักภาษี หรือ 0.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลดในไตรมาสที่สาม รายการพิเศษรวมถึงการบรรลุข้อตกลงกับสำนักงานอัยการสหรัฐฯ ในการเลื่อนการดำเนินคดีสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์ และค่าใช้จ่ายมูลค่าประมาณ 0.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการดำเนินคดีแพ่งบางกรณีที่เกี่ยวกับการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ปี 2557 รวมถึงการเรียกคืนสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์

รายได้สุทธิประจำไตรมาสที่สามของปีนี้อยู่ที่ 38.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปี 2557 อยู่ที่ 39.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  การเปลี่ยนแปลงของผลประกอบการมีสาเหตุมากกว่าผลกระทบด้านลบของอัตราแลก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ รายได้สุทธิอยู่ที่ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าไตรมาสที่สามของปี 2557

ภาพรวมผลประกอบการของจีเอ็ม (ตัวเลขหลักพันล้านยกเว้นในส่วนของปริมาณต่อหุ้น และเปอร์เซ็นต์)

ผลประกอบการในแต่ละภูมิภาค

• จีเอ็ม อเมริกาเหนือ รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 11.8 เปอร์เซ็นต์และรายได้สุทธิ 27.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 9.5 เปอร์เซ็นต์ของปีที่แล้ว
• จีเอ็ม ยุโรป รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง (0.2) พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ (0.4) พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
• จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง 0.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  ซึ่งเท่ากับปีที่แล้ว รายได้ที่เกิดจากการลงทุนในจีนอยู่ที่ 0.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เกิดผลกำไรสุทธิ 9.8 เปอร์เซ็นต์
• จีเอ็ม อเมริกาใต้ รายงานรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหลังการปรับปรุง (0.2) พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเท่ากับจุดคุ้มทุนในไตรมาสที่สามของปี 2557
• จีเอ็ม ไฟแนนเชียล รายงานรายได้ก่อนหักภาษีอยู่ที่ 0.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเท่ากับเมื่อปีที่แล้ว และมีผลประกอบการสุทธิ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

กระแสเงินสด และสภาพคล่อง

สำหรับในไตรมาสที่สาม กระแสเงินสดธุรกิจยานยนต์จากการปฏิบัติงานอยู่ที่ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่กระแสเงินสดอิสระหลังการปรับปรุงอยู่ที่ 0.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จีเอ็มปิดไตรมาสด้วยสภาพคล่องยานยนต์ที่แข็งแกร่งอย่างมากที่ 34.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เงินสดและหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดที่ 21.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม จีเอ็มได้มอบผลตอบแทนเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นประมาณ 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านการซื้อหุ้นคืนมากกว่า 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเงินปันผลมากกว่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

“ไตรมาสที่สามแสดงให้เห็นถึงอำนาจในการสร้างผลกำไรของบริษัทฯ ซึ่งเราจะเดินหน้าสร้างสถิติผลประกอบการต่อไปและดำเนินการตามความมุ่งมั่น ด้านการเงินของเรา” ชัค สตีเว่นส์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของจีเอ็ม กล่าว “เราคาดว่าผลกำไรของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกหลายปีข้างหน้า โดยมีการเติบโตของผลกำไรต่อหุ้นเป็นเลขสองหลัก”