การดูแลรักษารถยนต์

การดูแลรักษารถยนต์

ทริปเล็ก ๆ ในการขจัดยางไม้

เรื่อง ความสะอาดสำหรับตัวรถ แต่ละคนคงให้ความสำคัญแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโอกาส, พื้นที่และความใส่ใจของเจ้าของแต่ละคน ยิ่งช่วงที่ฝนตกบ่อยๆ ด้วยแล้ว สังเกตุได้เลยว่าแต่ละคันนี่ต้องมีคราบติดตัวกันทั้งนั้น เพราะถึงจะขัดสีจนเอี่ยมซักเพียงไหน พอเจอฝนหรือน้ำขังมันก็เลอะเหมือนเดิม แต่คราบสกปรกแบบนี้ยังธรรมดา เมื่อเทียบกับคราบยางมะตอยหรือยางไม้ ที่หากเอาออกไม่ถูกวิธี (ขูดอย่างเดียว) นี่มีตัวถังเป็นรอยกันมั่งล่ะครับ การล้างรถด้วยแชมพูล้างรถธรรมดา ไม่สามารถกำจัดคราบแมลง,  ยางไม้หรือยางมะตอยได้ครับ แต่เชื่อเถอะว่าง่ายกว่าที่คุณคิด    เพียงแต่ต้องมีตัวช่วยอย่างแอล-กอฮอล์สำหรับจุดไฟ  (Denatured Alcohol  หรือเอธิลแอลกอฮอล์  95 %)  หรือBug & Tar Remover  ที่เป็นน้ำยาทำความสะอาดเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ

หลอดไฟหน้าขาด...ไม่ต้องถึงมือช่างก็ได้

หลอดไฟหน้าขาด…ไม่ต้องถึงมือช่างก็ได้

ระบบส่องสว่างกับยานยนต์ ดูจะเป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้เลยนะครับ โดยเฉพาะยิ่งกับไฟหน้าที่เสมือนเป็นผู้ช่วยชั้นดีในยามค่ำคืน  ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะขับเฉพาะตอนกลางวัน แต่จริงๆ แล้วกลางวันบางครั้งก็ต้องใช้อยู่ดี เพียงแต่มันจะไม่ได้เปิดตลอดเหมือนในตอนกลางคืน เพราะจะได้ใช้เป็นครั้งคราว (สั้นๆ ด้วย) เท่านั้นเองด้วยอายุการใช้งานในยามอับแสงของแต่ละคน – คันไม่เท่ากัน  มันก็เลยพลอยทำให้อายุการใช้งานของหลอดไฟแตกต่างกันไปด้วย  เพราะฉะนั้นการคาดคะเนอายุของหลอดไฟจึงเป็นอะไรที่ทำได้ยากยิ่ง ก็อย่างที่ “นาย T” นั่นแหละครับ  ว่าหลอดไฟสามารถที่จะขาดได้ทุกเมื่อ  ถ้าเป็นกลางวันก็ดีหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่รู้ตัวอยู่ดี กว่าจะรู้ก็ตอนมีอาการหน้ามืด (เพราะหลอดไฟขาด)  ตอนกลางคืนนั่นล่ะครับ  ถ้าเป็นรถที่มีไฟตัดหมอกก็อาจจะต้องเปิดใช้เป็นการชั่วคราว  เพราะจริงๆแล้วชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าใช้สำหรับ ทะลุทะลวงกลุ่มหมอก หรือ ฝนแทนที่ไฟหน้าปกติ  

ยางหิ้วท่อขาด...อย่านิ่งดูดาย

ยางหิ้วท่อขาด…อย่านิ่งดูดาย

ด้วยความที่ท่อไอเสียต้องประสบกับอุณหภูมิสูงๆ ของไอเสียที่ไหลมาจากพอร์ทไอเสียตลอดเวลา (ที่เครื่องยนต์ทำงาน) วัสดุที่ใช้ในการผลิตจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเป็นโลหะ ที่มีความสามารถในการทานทนต่อความร้อนสูงๆ ได้ดีกว่าและไม่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงจนเกินไป ยางหิ้วท่อที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างตัวท่อกับแชสซีส์จึงต้องรับ บทหนักไม่น้อย เพราะไหนจะต้องหิ้วท่อหนักๆ แล้ว ยังต้องถูกความร้อนรบกวนโดยตลอด และด้วยความที่ยางหิ้วท่อเป็นชิ้นส่วนที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน ทำให้หลายต่อหลายคนละเลยซึ่งชิ้นส่วนนี้ไปเลย บางทีกว่าจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อท่อไอเสียหลุดไปครูดพื้นแล้วก็มีครับ การตรวจเช็คสภาพยางหิ้วท่อไอเสียแบบง่ายๆ นั้น สามารถที่จะทำได้เองโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องทำในขณะที่ดับเครื่องมานานจนไม่มีความร้อนสะสมที่ตัวท่อแล้วนะครับ ขั้นตอนก็เพียงแค่ดันปลายท่อไปทางซ้ายหรือขวา ว่าชนกับขอบชนหลังหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ถ้ายางหิ้วท่อยังอยู่ในสภาพที่ดี มันจะรั้งปลายท่อเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวมากเกินไป รวมไปถึงระยะห่างระหว่างปลายท่อกับขอบกันชนที่จะต้องไม่มีช่องว่างมากเกินไป เพราะถ้าห่างมากกว่าปกติ ก็มีสิทธิ์ที่ยางหิ้วท่อเริ่มเสื่อมสภาพแล้วล่ะครับ โดยเฉพาะกับยางที่ต้องหิ้วหม้อพักไอเสียที่มักจะไปก่อนเพื่อน อันเนื่องมาจากต้องแบกน้ำหนักมากกว่าชิ้นส่วนอื่นๆ นั่นเองครับ จริงๆ

เมื่อเซ็นเซอร์ ABS สกปรก

เมื่อเซ็นเซอร์ ABS สกปรก

เมื่อก่อนนี้จำได้เลยว่าระบบป้องกันล้อล็อคหรือ ABS : Anti-lock Braking System นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่พอสมควร เพราะถ้าไม่ใช่รุ่นราคาแพงหรือตัวท้อปแล้วล่ะก็ ยากที่จะได้ใช้ครับ แต่ในยุคปัจจุบันนั้นไม่ใช่เลย เพราะไม่ว่าจะเป็นรถราคาถูกหรืออ๊อปชั่นน้อยแค่ไหน ก็จะมีระบบ ABS ไว้คอยรับใช้เสมอ ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่พอมีระบบหรืออุปกรณ์อะไรใหม่เพิ่มเข้ามา ก็จะต้องการการดูแลรักษาเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอีกนิดล่ะครับ ถ้า ไฟเตือน ABS โชว์ โดยที่ระบบเบรคยังปกติ ก็อาจเป็นได้ว่าเซ็นเซอร์ ABS มันมอมแมมจนไม่อาจจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างที่ควรจะเป็น (นอกเหนือไปจากตัวเซ็นเซอร์หรือกล่องควบคุมเจ๊ง) แต่ “นาย T” คิดว่าถึงไฟเตือน ABS

วิธีการดูแลยางรถยนต์

วิธีการดูแลยางรถยนต์

วิธีการดูแลยางรถยนต์ 1. รัน – อินต้องมีการรัน-อิน ยางใหม่ก็เช่นกันในช่วง 100 – 200 กิโลเมตรแรก ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 80 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อให้โครงสร้างแก้มยาง และหน้ายางมีการปรับตัว เพราะยางทุกเส้น ถูกผลิตออกมาให้รับกับมุมแคมเบอร์ของล้อเท่ากับ 0 คือตั้งฉากกับพื้น แต่รถยนต์ทุกคันไม่ได้มีมุมแคมเบอร์เท่ากับ 0 มีทั้งแบะหรือหุบ ในช่วงแรกจึงต้องใช้เวลาให้หน้ายางสึกปรับตัวรับกับศูนย์ล้อ 2. ถ่วงล้อยางต้องหมุนนับพันรอบต่อนาที โดยเฉพาะล้อคู่หน้าที่มีการเลี้ยงด้วยจึงต้องมีการถ่ วงสมดุล เพราะถ้าล้อคู่หน้าไมได้สมดุล

ปัญหายอดฮิตของระบบเบรก
วิธีดูแลระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์

วิธีดูแลระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์

อุปกรณ์ในระบบหล่อเย็นที่สำคัญและจะขาดเสียไม่ได้อีก อย่างหนึ่งก็คือ พัดลมหม้อน้ำ เพราะช่วยในการถ่ายเทความร้อนระหว่างรังผึ้งหม้อน้ำก ับอากาศให้สมดุลกับปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้น ปัจจุบันพัดลมหม้อน้ำในรถยนต์ส่วนใหญ่จะเป็นชนิดที่ข ับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพราะการควบคุมการทำงานได้ง่ายกว่าชนิดขับด้วยสายพาน แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถทำให้มีขนาดใหญ่มาก ๆ ได้เนื่องจากกระแสไฟฟ้าในรถมีน้อย รถที่ต้องการอัตราการไหลของอากาศมาก ๆ เนื่องจากอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์สูง เช่น รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจึงยังจำเป็นต้องใช้พัดลมชน ิดที่ขับด้วยสายพานโดยใช้กำลังจากเครื่องยนต์อยู่ โดยปกติพัดลมหม้อน้ำจะไม่ต้องการการบำรุงรักษาใด ๆ เพราะหากชำรุดขึ้นก็เปลี่ยนใหม่ แต่อย่างไรก็ดีควรหมั่นตรวจดูสภาพและการทำงานเป็นระย ะ ๆ โดยการตรวจสภาพและการทำงานของพัดลมหม้อน้ำ ซึ่งควรทำทุกครั้งที่ตรวจระดับน้ำหล่อเย็น ต่อจากนั้นตรวจดูใบของพัดลมว่าไม่แตกหักเสียหายหรือเ ปลี่ยนรูปไป ตรวจดูโครงยึดและกรอบบังลมว่าตรึงแน่นอยู่ในตำแหน่งอ ย่างถูกต้องและไม่มีร่องรอยของการเสียดสี สายไฟและปลั๊กต่อว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่ขาด

การดูแลรักษาใบปัดน้ำฝน และยางปัดน้ำฝน

หลายคนคงจะรำคาญบ้างนะครับที่ทุก ๆ เดือน หรือสองเดือนต้องมานั่งเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนหรือยังปัดน้ำฝน ทั้งที่ยางที่ซื้อมาก็เป็นเกรดดี ซิลิโคนไม่ใช่ของถูก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการละเลยการดูแลรักษายางปัดน้ำฝน หรืออาจจะดูแลไม่ถูกวิธีครับ คำว่า “ยางปัดน้ำฝน” ทุกคนที่ขับรถย่อมรู้จักกันดี หน้าที่ของมันก็คือ ใช้ปัดน้ำที่มีอยู่ที่กระจกบังลมหน้า, หลัง หรือในบางครั้งก็อาจจะเป็นสิ่งอื่น เช่น โคลน, ใบไม้, แมลงหรืออื่นๆ เพราะฉะนั้นการใช้ยางปัดน้ำฝนไม่จำเป็นที่จะต้องปัดน้ำเพียงอย่างเดียวมีประโยชน์ในด้านอื่นด้วย ที่ปัดน้ำฝนและฉีดน้ำล้างกระจกที่ปัดน้ำฝน เรื่องของ “ที่ปัดน้ำฝน“ดูจะพูดมากและพูดถึงกันบ่อย แต่ก็ต้องว่า และ ตอกย้ำกันต่อไปเนื่องจากมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในการช่วยเพิ่มทัศนวิสัยของการขับขี่ยามฝนตก ส่วนใหญ่มักจะละเลยและไม่นึกถึง จะมาเห็นความสำคัญก็ตอนที่

เทคนิคการดูแลรักษารถยนต์ ให้ดูดีและใหม่อยู่เสมอ

เทคนิคการดูแลรักษารถยนต์ให้ดูดีเสมอ และถนอมเครื่องยนต์อย่างถูกวิธีเพื่อทะนุถนอมอายุการใช้งานรถของท่านให้ยืนยาว 1. เติมน้ำมันล้นถังไม่เป็นผลดี ในสภาพอากาศร้อนจัดอย่าเติมน้ำมันจนล้นถัง เพราะความร้อนจะทำให้เพิ่มความดัน มีผลทำให้น้ำมันขยายตัวลื่นไหลออกจากถังเกิดอันตราย สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ 2. ลากเกียร์ทำให้คลัตช์เสียเร็ว การใช้เกียร์ควรทำให้เหมาะสมและถูกจังหวะ อย่าลากเกียร์บ่อย จะทำให้คลัทช์เสียเร็วและยางหมดอายุเร็วขึ้น 3. อย่าขับรถจนน้ำมันหมดถัง การขับรถจนน้ำหมดถัง จะทำให้เครื่องกรองน้ำมันมีโอกาสเสียได้มาก เนื่องจากตะกอนบางอย่างที่สะสมอยู่ในถังจะไปค้างที่เครื่องกรอง 4. อย่าใช้อิฐแทนแม่แรงรถ อิฐสร้างบ้านก้อนที่แข็งที่สุดยังสามารถแตกได้ อย่าใช้รองหรือหนุนรถแทนแม่แรงต่างหาก เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 5. ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดกระจก แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อโรคและยังใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เป็น แก้วหรือกระจกได้ กระจกรถของคุณที่มีคราบสกปรก จะถูกขจัดได้อย่างง่ายดายด้วยแอลกอฮอล์ 6.

การดูแลรักษารถหลังน้ำท่วม

การดูแลรักษารถหลังน้ำท่วม

ตอนนี้เหตุการน้ำท่วมยังเป็นปัญหากับเมืองไทยของเราแทบจะทุกจังหวัด ทางเว็บจึงอยากเสนอวิธีการรักษาดูแลรถที่ประสบภัยน้ำท่วมครับ แม้นี่จะเป็นความทุข์ยากตอนน้ำมาแต่จะชีช้ำยิ่งกว่าเมื่อตอนน้ำลดที่ข้าว ของต่างๆได้รับความเสียหาย และหนึ่งในบรรดาของหลายๆ อย่างนั้น คงเป็นรถยนต์ที่จมน้ำหลายร้อยคันเลยทีเดียว การดูแลรถยนต์ในสถานการณ์น้ำท่วมนั้น ความจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแต่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการทำให้รถ ของท่านกลับมาวิ่งได้อีกครั้ง และมันก็ไม่ยากถ้าคุณรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างทันทีที่น้ำลด 1.อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่ออุทกภัยจากไปและคุณอยากใช้รถ หลายคนอยากที่จะดูว่าทรัพย์สินอยู่ดีหรือไม่ โดยเฉพาะรถยนต์ที่หลายคนมักจะรีบไปสตาร์ทดูว่าจะใช้งานได้อยู่หรือไม่ ในกรณีนี้ขั้นแรกไม่ควรสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด ให้เปิดฝากระโปรง ดูความเสียหายภายในห้องเครื่องยนต์ก่อนว่า มีน้ำอยู่ในชิ้นส่วนใดบ้าง โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ ที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์นั้น ยิ่งไม่ควรสตาร์ทรถทันทีเป็นอย่างยิ่ง 2. ลากไปอู่ นี่อาจเป็นข่าวดีและฝันร้ายสำหรับบรรดาช่างเครื่องทั้งหลายที่คงจะต้องมีงาน ให้ลากยาวถึงปีใหม่กันเลยทีเดียว แต่เมื่อคุณคิดว่าพร้อม ก็จัดการลากไปให้ผู้เชี่ยวชาญดู โดยกำชับว่ารถคุณถูกน้ำท่วมมา ซึ่งปกติแล้วจะแยกเป็น

การตั้งศูนย์ล้อ การถ่วงล้อ และการสลับยาง

หลายท่านอาจจะมีความสงสัยกันมากว่าทำไมเราต้องตั้งศูนย์ล้ออยู่บ่อย ๆ ทุก 6 เดือน หรือทุก 10,000 กม. แล้วก็ต้องมาสลับยางหน้าหลังอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก สับสนอยู่พอสมควร  สาเหตุคือดังนี้ครับ ทำไมถึงต้องมีการสลับยาง? วัตถุประสงค์หลักของการสลับยาง ก็เพื่อให้ยางทุกเส้นมีการสึกที่เท่ากัน ดังนั้นท่านควรศึกษาคู่มือการใช้รถเกี่ยวกับคำแนะนำในการสลับยาง ซึ่งโดยปกติแล้ว ท่านควรสลับยางทุกๆ 9,000 – 13,000 กิโลเมตร หากรถของท่านเป็นรถใหม่ ท่านควรจะสลับยางในทันทีที่ท่านใช้รถครบ 10,000 กิโลเมตรแรก หากยางเกิดการสึกที่ไม่สม่ำเสมอ ท่านควรรีบปรึกษากับร้านผู้ชำนาญงาน เพื่อตรวจเช็คศูนย์ล้อ ถ่วงล้อ

รู้ทันช่างซ่อมรถยนต์ ไม่ให้โดนหลอก

รู้ทันช่างซ่อมรถยนต์ ไม่ให้โดนหลอก

ทำอย่างไรจะรู้ทัน…ช่างซ่อมรถยนต์ หลายคนอาจจะพอนึกแนวทางเหล่านี้ออกแต่กับคุณผู้หญิงหลายๆท่าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณมักไม่กล้า เพราะคิดว่าช่างเหล่านี้ต่างน่ากลัวทั้งนั้น (ก็อาจจะจริง) แต่สิ่งสำคัญ คือเราต้องมั่นใจว่าเขาซ่อมรถให้เราถูกที่คัน ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น กลับเป็นอีกที่แต่ซ่อม ในส่วนที่มันไม่ได้พัง ทุกวันนี้พวกเราหลายคนคงต้องเผชิญหน้ากับบรรดาช่างที่พวกเขาเปิดรับบริการซ่อม รถยนต์คอยรักษาปัญหาอาการไม่สบายของรถให้หายเป็นปลิดทิ้ง ที่แยกกันมีตั้งแต่เบรค โช๊ค ช่วงล่าง แบตเตอร์รี่ ไปจนถึงเครื่องยนต์ และการซ่อมตัวถังที่หลายคนที่มักไม่ค่อยระวังได้แวะเวียนไปใช้กันบ่อยๆ อาชีพ ช่างซ่อมรถยนต์ นับว่าเป็นอาชีพที่เราน่าจะคุ้นเคยที่สุด หลังจากออกรถมากกว่าเซลล์ ที่ผีปากกล้าขายรภให้เรา แต่มีสักกี่คนที่รู้ว่าช่างเหล่านั้นทำอะไรกับรถเราบ้าง เราไม่ได้จะสอนให้คุณเป้นช่างแต่ วันนี้เราจะมาพูดถึงการรู้ทันช่างที่บางครั้งจำเป็นต้องรู้ เพื่อจะได้เข้าใจถึงความคุ้มค่าและราคาที่เราได้และต้องเสียเงินให้พวกเขาทำงาน ซึ่งก็ไม่ยากจนเกินเข้าใจ 1. รู้ปัญหา

สาแหตุและวิธีแก้ปัญหาล้อสั่น

วิธีการตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้น

วิธีการตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้น สำหรับผู้ที่เดินทางในระยะทางใกล ๆ เพื่อความพร้อมของสภาพเครื่องยนต์ โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงหรือตรวจเช็คหลัก ๆ ด้วยกัน 11 ขั้นตอนได้แก่ 1. น้ำหล่อเย็น ควรตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ โดยตรวจเช็คในขณะที่ดับเครื่องและเครื่องเย็น ถ้าระดับน้ำลดลงเป็นปริมาณมาก ก็อาจ จะมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็คสาเหตุ (อย่าลืมเติมน้ำก่อนนำรถไป) 2. ระดับน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องอุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานแล้วดับ เครื่องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง – เพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับเครื่องยังร้อน

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด