MG เผยโฉม New MG6 XPower ซีดานตัวแรงแบบ Limited Edition ที่จะเปิดขายในจำนวนจำกัด

MG เผยโฉม New MG6 XPower ซีดานตัวแรงแบบ Limited Edition ที่จะเปิดขายในจำนวนจำกัด

MG ค่ายรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ผลิตในจีน เผยโฉม New MG6 XPower รุ่นตกแต่งพิเศษ ที่เพิ่มความสปอร์ตเร้าใจแบบรถแข่ง แต่สามารถขับใช้งานจริงบนท้องถนนได้ โดยจะเป็นรุ่นพิเศษแบบ Limited Edition ที่จะเปิดขายในจำนวนจำกัด

โดยดีไซน์ภายนอกของ New MG6 XPower นั้น จะได้รับการตกแต่งเสริมภาพลักษณ์สปอร์ตสุดเร้าใจ เริ่มจากด้านหน้าที่จะมาพร้อมกับฝากระโปรงหน้าใหม่ที่มีเหลียมสันที่ดูบึกบึนยิ่งขึ้น และมีช่องดักอากาศด้านหน้า พร้อมทำสีรมดำตรงกลางฝากระโปรง เพื่อให้สอดรับกับกระจังหน้าสีดำ และกันชนหน้าใหม่แบบสปอร์ตสีดำ พร้อมตะแกรงรังผึ้งขนาดใหญ่

ด้านข้างตัวรถได้รับการติดตั้งชุดสเกิร์ตสีดำ พร้อมทั้งเสริมขนาดของโป่งล้อที่ยื่นออกมาคล้ายกับชุดแต่ง Wide Body นอกจากนั้นแล้วด้านบนหลังคายังทำเป็นสีดำแบบทูโทนเพื่อตัดกับสีตัวถังสีเขียวแบบพิเศษ และล้ออัลลอยแบบสปอร์ตขนาด 19 นิ้วสีดำ ระบบเบรกอัปเกรดใหม่ใส่จานเบรกขนาดใหญ่ทั้งหน้า-หลัง และคาลิปเปอร์เบรกแต่งสีเขียว พร้อมระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ โหลดเตี้ยลงจากรุ่นมาตรฐานด้วย

ส่วนดีไซน์ด้านท้ายจะได้รับการติดตั้งชุดสปอยเลอร์ท้ายทรง GT-Wing ขนาดใหญ่ ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ รวมไปถึงชุด Diffuser ท้ายแบบสปอร์ต พร้อมชุดท่อไอเสียคู่ออกซ้าย-ขวา ที่เสริมภาพลักษณ์ที่เร้าใจมากยิ่งขึ้น

ส่วนภายในห้องโดยสารจะคุมโทนด้วยสีดำแบบสปอร์ต และจะถูกตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยวัสดุหนังกลับ Alcantara และเดินด้ายตะเข็บสีเขียวแบบเดียวกับสีตัวถังภายนอก หน้าจออินโฟเทนเมนท์ตรงกลางมีการปรับเพิ่มวัดรอบการทำงานของระบบเครื่องยนต์ เหมือนที่ติดตั้งใน Nissan GT-R มาให้ด้วย

เบาะนั่งเป็นแบบ Sport Bucket Seats สีดำพร้อมปักโลโก้ XPower และสายเบลท์สีเขียวบ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ พวงมาลัยจะเป็นแบบ 3 ก้านท้ายตัด D-Shape มัลติฟังก์ชั่น พร้อมมีปุ่ม Super Sport สีแดงให้กดใช้งานที่พวงมาลัยเหมือน MG HS

ส่วนสเปค และรายละเอียดด้านขุมพลังเครื่องยนต์ ณ ตอนนี้ ทาง MG ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมา แต่เชื่อได้ว่าจะได้รับการปรับแต่งเพิ่มสมรรถนะการขับขี่จาก MG 6 รุ่นมาตรฐาน

และที่เรายืนยันได้แน่ๆ คือ New MG6 XPower นั้น จะถูกผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดแบบ Limited Edition ซึ่งจะมีหมายเลขกำกับอยู่ที่เพลทชายล่างขอบประตูด้านใน โดยจากภาพจะเห็นว่ามีหลักตัวเลขทั้งหมด 4 หลัก ซึ่งอาจจะผลิตมาในจำนวนหลักพันคันนั่นเอง