Audi จับมือพันธมิตรพัฒนาเทคโนโลยีช่วงล่าง พร้อมท้าชน BMW และ Benz

ค่ายรถสุดหรูหราอย่าง Audi นั้นล่าสุดได้ขึ้นแท่นเป็นค่ายรถที่ขายดีที่สุดแล้วในรถแบบ Premium ขึ้นไปโดยในปีที่ผ่านมานั้นก็ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมาก ทำให้ล่าสุดนั้นพวกเขาอนุมัติเงินกว่า 22,000 ล้านปอนด์ (30,000 ล้านดอลล่าร์) ในการพัฒนารถและเทคโนโลยีใหม่ๆสำหรับรถรุ่นใหม่เพิ่มเติม

โดยพวกเขาตั้งใจจะวิจัยเทคโนโลยีแบบ suspension spring technology (ระบบช่วงล่างกันสะเทือนแบบใหม่) ซึ่งออกแบบมาให้มันมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและจะทำให้มันเหนือกว่าคู่แข่งจากประเทศเยอรมันให้จงได้

ปัจจุบันนั้นระบบสปริงและช่วงล่างกันสะเทือนของ Audi เองนั้นทำมาจากเหล็กทั้งหมด แต่ล่าสุดในรถแบบ Mid Size Model นั้นพวกเขาก็ได้เตรียมใช้วัสดุอย่าง  fiber-reinforced polymer ที่มีน้ำหนักเบาเข้าไปช่วยในเรื่องของการดูดซับแรงกระแทกแทนระบบแบบเดิมๆ

สปริงแบบ GFRP รุ่นใหม่นั้นจะมีสีเขียวสามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย ซึ่งมันจะมีน้ำหนักเบากว่าเดิมประมาณ 40%, น้ำหนักทั้งหมดรวมกันประมาณ 1.6 กิโลกรัม (3.5 ปอนด์) และทำให้น้ำหนักรถนั้นเบาลงกว่าเดิม  4.4 กิโลกรัม (9.7 ปอนด์)

Audi นั้นร่วมมือกันพัฒนาระบบช่วงล่างกันสะเทือนและสปริงแบบ GFRP กับพาร์ทเนอร์ในประเทศอิตาลีโดยตรง ซึ่งวัสดุอย่างคาร์บอนไฟเบอร์และโพลีเมอร์นั้นนอกจากจะมีความแข็งแรงทนทานกว่าเดิมแลัวมันยังทนความร้อนได้ถึง 100 องศาเซลเซียส (212 องศาฟาเรนไฮต์) ทีเดียว

จนถึงตอนนี้นั้นไม่แน่ชัดว่าพวกเขาจะใส่สปริงและระบบช่วงล่างที่พัฒนแล้วนี้กับรถรุ่นไหน แต่คาดการณ์ว่าอาจจะเป็นรถแบบ 2015 Audi A7 ในปีหน้าก็เป็นได้