ขับเคลื่อนนุ่มนวล ทรงพลัง ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร ที่ผสาน 2 พลังของมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Dual VVT- i ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ประหยัดน้ำมันสูงสุด 17.9 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก ECO Sticker) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยี E-Four ใหม่
และโครงสร้างสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ที่ออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว และเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม มั่นใจกว่าด้วยความปลอดภัยเหนือระดับ Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ ให้ทุกการขับเคลื่อนเต็มไปด้วยสมรรถนะที่ดีเยี่ยมและนุ่มนวลเป็นที่สุดแห่งสุนทรียะในทุกการเดินทาง
สัมผัสยนตรกรรมระดับเฟิร์สคลาสกับ ALL-NEW ALPHARD ใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบภายในจากบรรยากาศของเครื่องบินส่วนตัว มอบความรู้สึกเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขวาง สงบ และผ่อนคลาย ภายใต้แนวคิด “OMOTENASHI ” ซึ่งสะท้อนถึงการต้อนรับแบบญี่ปุ่นที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ภายในอัดแน่นด้วยความหรูหราและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแบบ Executive Lounge แยกอิสระ ปรับได้ถึง 10 ทิศทาง
มาพร้อม เบาะรองน่องปรับไฟฟ้า และฟังก์ชัน Massage Relaxation ที่ควบคุมผ่าน Detachable Tablet
หลังคาแบบ Twin Moonroof เสริมบรรยากาศโปร่งโล่ง
ระบบไฟตกแต่งภายใน Ambient Illumination Light ปรับได้ถึง 64 สี
ตกแต่งภายในด้วยวัสดุหนังแท้ Premium Nappa
เสริมความหรูด้วยลายไม้แบบ Uzuramoku สไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์
ALL-NEW ALPHARD พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางระดับสูงสุด ทั้งความสะดวก ความสบาย และความเหนือระดับในทุกเส้นทาง
พร้อมกับ ALL-NEW VELLFIRE ใหม่ ด้วยการออกแบบภายนอกที่โดดเด่น ดุดัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราในทุกสัมผัส เรียบหรูด้วยภายในสีดำสไตล์สปอร์ต พร้อมระบบความบันเทิง และความสะดวกสบายด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย ลำโพง JBL 15 ตำแหน่ง และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมสัมผัสแห่งความหรูหรา กว้างขวาง และสะดวกสบาย เต็มไปด้วยอรรถประโยชน์ครบครัน
สัมผัสที่สุดของความเป็นเลิศตามแบบฉบับ ALL-NEW TOYOTA ALPHARD / VELLFIRE ได้ 3 สีพิเศษ
Platinum White Pearl ใหม่
Precious Metal ใหม่
และ สี Black
TOYOTA ALPHRAD 2.5 HEV
“เปิดประสบการณ์ Comfort Luxury ใหม่ กับความหรูหรา สะดวกสบาย เสมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่”
การออกแบบภายนอก
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไปเลี้ยวแบบ Sequential
หลังคา Twin Moonroof
ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย
การออกแบบภายใน
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแยกอิสระ ปรับได้ 10 ทิศทาง พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet
คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว
Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง
ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลแบบสีบนกระจกหน้ารถ (HUD)
หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว
ระบบนำทาง Navigator และระบบเชื่อมต่อ T-Connect
การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe™X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้า
สีเบาะภายในสีเบจ Neutral Beige (สำหรับสีรถภายนอก Platinum White Pearl และ Black)
และสีภายในสีดำ Black (สำหรับสีรถภายนอก Precious Metal)
มั่นใจทุกการเดินทาง ด้วยสมรรถนะ และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย
เครื่องยนต์ไฮบริด A25A-FXS ขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-i กำลังรวมสูงสุด 250 PS และประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก eco sticker)
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD เทคโนโลยี E-Four ใหม่
โครงสร้างสถาปัตยกรรม TNGA เพื่อการทรงตัว เกาะถนนดีเยี่ยม
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง
กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
TOYOTA VELLFIRE 2.5 HEV
“เปิดประสบการณ์ Sport Luxury ใหม่กับความหรูหราสะดวกสะบาย พร้อมรูปลักษณ์ดุดัน”
การออกแบบภายนอก
พิเศษ! ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
พิเศษ! ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์พิเศษเฉพาะ VELLFIRE พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential
พิเศษ! กันชนหน้าและหลัง ดีไซน์พิเศษเฉพาะ VELLFIRE
หลังคา Twin Moonroof
ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย
การออกแบบภายใน
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแยกอิสระ ปรับได้ 10 ทิศทาง พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet
คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว
Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง
ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลแบบสีบนกระจกหน้ารถ (HUD)
หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว
ระบบนำทาง Navigator และระบบเชื่อมต่อ T-Connect
การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe™X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้า
สีเบาะภายในสีดำ Black
มั่นใจทุกการเดินทาง ด้วยสมรรถนะ และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย
เครื่องยนต์ไฮบริด A25A-FXS ขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-i กำลังรวมสูงสุด 250 PS และประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก eco sticker)
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD เทคโนโลยี E-Four ใหม่
โครงสร้างสถาปัตยกรรม TNGA เพื่อการทรงตัว เกาะถนนดีเยี่ยม
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง
TOYOTA ALPHARD 2.5 HEV LUXURY
“เปิดประสบการณ์ High End Elegance ใหม่ กับการนั่งโดยสารระดับเฟิร์สคลาส”
การออกแบบภายนอก
พิเศษ ! ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
พิเศษ ! สัญลักษณ์ Executive Lounge
ไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential
หลังคา Twin Moonroof
ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย
การออกแบบภายใน
พิเศษ ! เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแยกอิสระ แบบ Executive Lounge ปรับได้ 10 ทิศทาง เบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet พร้อมโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้
พิเศษ ! ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยลายไม้แบบ Uzuramoku
พิเศษ ! สีเบาะภายในสีดำ Black (สำหรับสีรถภายนอก Platinum White Pearl และ Black) และสีภายในสีน้ำตาล Sunset Brown (สำหรับสีรถภายนอก Precious Metal)
พิเศษ ! เพิ่มวัสดุบุนุ่มภายในห้องโดยสาร
พิเศษ ! ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe™X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้าและหลัง
คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว
Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง
ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลแบบสีบนกระจกหน้ารถ (HUD)
หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว
ระบบนำทาง Navigator และระบบเชื่อมต่อ T-Connect
การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
มั่นใจทุกการเดินทาง ด้วยสมรรถนะ และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย
เครื่องยนต์ไฮบริด A25A-FXS ขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-i กำลังรวมสูงสุด 250 PS และประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก eco sticker)
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD เทคโนโลยี E-Four ใหม่
โครงสร้างสถาปัตยกรรม TNGA เพื่อการทรงตัว เกาะถนนดีเยี่ยม
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง
กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
พิเศษ ! เพิ่มความสปอร์ตแบบ Exclusive ได้มากกว่า ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง MODELLISTA*
ALPHARD MODELLISTA ประกอบด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง
– กระจังหน้า
– สเกิร์ตหน้า
– สเกิร์ตข้างซ้าย-ขวา
– สเกิร์ตหลัง
– สัญลักษณ์ Modellista ด้านท้ายรถ
ราคา (รวมค่าติดตั้ง) 149,000.
VELLFIRE MODELLISTA ประกอบด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
– สเกิร์ตหน้า
– สเกิร์ตข้าง ซ้าย-ขวา
– สเกิร์ตหลัง
– อุปกรณ์ตกแต่งท่อไอเสีย
– สัญลักษณ์ Modellista ด้านท้ายรถ
ราคา (รวมค่าติดตั้ง) 169,000.
มั่นใจสูงสุดกับระบบไฮบริด และศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศได้มากกว่า ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ **
แพ็กเกจขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี (ช่วงปีที่ 6-10) พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม.เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด
พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะจนถึง 100,000 กม.
*ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง MODELLISTA จัดจำหน่ายโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลล์ จำกัด
โดยชุดอุปกรณ์ตกแต่งมีจำหน่ายเฉพาะสี Platinum White Pearl และสี Black เท่านั้น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
คู่แข่งใกล้เคียง...
Toyota Hiace ราคาเริ่ม 1,019,000.
Toyota Commuter ราคาเริ่ม 1,289,000.
MG MAXUS 7 ราคา 1,599,900. (EV)
Hyundai Staria ราคาเริ่ม 1,659,000.
Toyota Majesty ราคาเริ่ม 1,989,000.
DENZA D9 ราคา 1,999,900. (EV)
Kia Carnival ราคาเริ่ม 2,234,000.
MG MAXUS 9 ราคาเริ่ม 2,499,000. (EV)
Zeekr 009 ราคา 3,099,000. (EV)
Mercedes-Benz Vito ราคาเริ่ม 3,100,000.
KIA EV9 ราคา 3,499,000. (EV)
Mercedes-Benz Sprinter 419 ราคาเริ่ม 3,950,000.
Toyota Alphard ราคาเริ่ม 4,129,000.
Mercedes-Benz V 250 d Exclusive ราคาเริ่ม 5,400,000.
Lexus LM350h Executive ราคา 6,290,000. (EV)
Lexus LM 500h ราคา 6,990,000. (EV)
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ใหม่ NEW Toyota Alphard 2025-2026 ราคา โตโยต้า อัลฟาร์ด ตารางผ่อน-ดาวน์ "