Ford Focus รุ่นปรับโฉม เปิดตัวแล้วในจีน ! มาพร้อมรูปลักษณ์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น

Ford Focus รุ่นปรับโฉม เปิดตัวแล้วในจีน ! มาพร้อมรูปลักษณ์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น

Ford Focus รุ่นปรับโฉม เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศจีน โดยแสดงให้เห็นความแตกต่างด้านสไตล์เล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นยุโรปที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โมเดลนี้มีให้เลือกทั้งแบบ Sedan และ Hatchback โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ

ดีไซน์ภายนอกนั้นโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงเหลี่ยมที่ผสานเข้ากับไฟหน้า LED และช่องดักอากาศที่ดุดันด้วยสีดำ ส่วนกันชนหน้าเป็นสีเดียวกันตัวรถ ดิฟฟิวเซอร์ท้ายแบบสปอร์ต และท่อไอเสียคู่

ตัวถัง Hatchback มีความยาวอยู่ที่ 4,401 มม. และตัวถัง Sedan มีความยาวอยู่ที่ 4,664 มม. โดยยังคงฐานล้อไว้เหมือนเดิมที่ 2,705 มม.

สำหรับในประเทศจีนจะมีรุ่น ST-Line ที่ตกแต่งสไตล์สปอร์ต มาพร้อมล้ออัลลอยสีเทาชาร์โคลขนาด 18 นิ้ว คาลิปเปอร์เบรกสีแดง และรุ่น S Edition ใหม่ มาพร้อมกับล้อสีดำเงา สปอยเลอร์หลังสีดำ และชุดสติ๊กเกอร์สไตล์รถแข่ง

ภายในห้องโดยสารติดตั้งแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 8 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว SYNC + Zhi Mo ที่พัฒนาโดย Ford และ Baidu (ต่างจาก SYNC 4 ) ระบบเครื่องเสียง B&O และชุด Ford Co-Pilot360 ADAS ที่ให้การขับขี่อัตโนมัติระดับ 2 ขึ้นอยู่กับรุ่น

เบาะนั่งสีดำและสีน้ำเงิน สไตล์คาร์บอนไฟเบอร์และขอบเหมือนหนังกลับ เข็มขัดนิรภัยสีน้ำเงิน และพวงมาลัยหนังเจาะรูพร้อมตะเข็บสีแดง

Ford Focus รุ่นปรับโฉม สำหรับประเทศจีน จะมีขุมพลังที่แตกต่างจากรุ่นที่ทำตลาดในยุโรป ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ EcoBoost แบบ 4 สูบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร เกียร์อัโนมัติ 6 สปีด

มีโหมดการขับขี่ 3 โหมด Standard, Economy และ Sport สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.9 วินาที

Ford เปิดเผยว่าได้รับการปรับแต่งระบบกันสะเทือน และพวงมาลัยในรุ่นปรับโฉม สำหรับรุ่น ST-Line และ S Edition มีแชสซีส์ที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้นที่ปรับให้ต่ำลง 10 มม.

รวมไปดึงการอัปเกรดระบบเบรกด้วยดิสก์เบรกหน้าขนาด 308 มม. และดิสก์เบรกหลัง 302 มม.

Ford Focus รุ่นปรับโฉมนี้ผลิตโดยบริษัทร่วมทุนของ Changan Ford ในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน และเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 2 สำหรับ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 4 ในประเทศจีน หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 และการปรับโฉมครั้งแรกในปี 2020