รัฐบาลจีน เบรกส่งออกรถ EV คุมเข้ม “เรื่องราคา คุณภาพ และบริการหลังการขาย” ต้อง ขอใบอนุญาตส่งออก มีผล 1 มกราคม 2026

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ร้อนแรงสุด ๆ กำลังถูก “เช็กบิล” เพราะล่าสุดรัฐบาลออกกฎใหม่บังคับให้ผู้ผลิต EV ต้อง ขอใบอนุญาตส่งออก เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2026 เป็นต้นไป!
ทำไมจีนถึงต้องออกกฎนี้?
- ปัญหาการแข่งขันด้านราคา ที่ดุเดือดในประเทศ และการร้องเรียนจากต่างชาติว่า รถจีนราคาถูกล้นตลาด ทำให้หลายประเทศกังวลเรื่องคุณภาพ
- รัฐบาลจีนอยากให้ บริการหลังการขาย มีมาตรฐานขึ้น เพราะที่ผ่านมา มีหลายเคสที่รถถูกส่งออกไปโดยไม่มีศูนย์บริการหรือเครือข่ายซัพพอร์ต ทำให้ลูกค้าต่างประเทศเจอปัญหาแล้วแก้ไม่ได้
- การออกกฎเข้มขึ้นจะทำให้ผู้ส่งออก ต้องถูกตรวจสอบเข้ม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเคสแบบนั้นอีก และช่วยสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว

จีน = ยักษ์ใหญ่การส่งออกรถยนต์
- จีนเพิ่งขึ้นแท่นเป็น ผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าญี่ปุ่นไปสด ๆ ร้อน ๆ
- คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จีนอาจส่งออกรถยนต์ได้ถึง 10 ล้านคัน/ปี
- แค่ในประเทศเองก็มีกำลังซื้อสูงมาก คาดว่ายอดขายในตลาดจีนอาจแตะ 30 ล้านคัน/ปี เพราะประชากรเยอะมหาศาล
ศักยภาพที่ยังเหลืออีกเพียบ
Cui Dongshu เลขาธิการสมาคมรถยนต์นั่งของจีนชี้ว่า
- พื้นที่ชนบทและเมืองรองของจีนยังมี อัตราการครอบครองรถต่ำมาก
- ตอนนี้จีนมีรถเพียง 1 คันต่อประชากร 1,000 คน เท่านั้น
- เทียบกับยุโรปที่มีถึง 641 คันต่อ 1,000 คน หรือสหรัฐฯ ที่สูงถึง 860 คันต่อ 1,000 คน เรียกได้ว่า จีนยังมีช่องว่างให้โตอีกมหาศาล

บทสรุป
การออกกฎควบคุมส่งออกครั้งนี้ แม้จะเหมือน “เหยียบเบรก” แต่จริง ๆ แล้วคือการ เตรียมระบบให้แข็งแรงกว่าเดิม เพื่อปกป้องชื่อเสียงรถยนต์จีนในตลาดโลก และเพื่อให้แบรนด์จีนก้าวสู่การเป็นผู้เล่นระดับท็อปในระยะยาว ไม่ใช่แค่ขายถูกแต่ไม่มีคุณภาพ
สุดท้ายนี้ ถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รัฐบาลจีน เบรกส่งออกรถ EV คุมเข้ม “เรื่องราคา คุณภาพ และบริการหลังการขาย” ต้อง ขอใบอนุญาตส่งออก มีผล 1 มกราคม 2026 "