รู้หรือไม่? มาตรฐานของน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดของโลก คืออะไร และดียังไง ไปดูกัน!!

รู้หรือไม่? มาตรฐานของน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดของโลก คืออะไร และดียังไง ไปดูกัน!!

นวัตกรรมแห่งโลกยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด เห็นได้ชัดจากการที่ค่ายรถเริ่ม Downsizing Engine (ลดขนาดเครื่องยนต์) แต่ยังคงมอบสมรรถนะที่เทียบเท่า หรือในบางรุ่นอาจดีขึ้นกว่าเดิม โดยส่วนใหญ่แล้วจะมาพร้อมกับระบบอัดอากาศ Turbo รวมไปถึงการใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดตรง Gasoline Direct Injection (GDI) ทำให้การบำรุงรักษาชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ ต้องมีการยกระดับมาตรฐานที่สูงขึ้นตามไปด้วย

และนั่นจึงเป็นที่มาของมาตรฐานใหม่ในน้ำมันเครื่อง โดยเปลี่ยนแปลงจาก API-SN / ILSAC GF-5 ที่เราคุ้นตากันดี เป็นมาตรฐานใหม่ที่ดีที่สุดในโลก API SP / ILSAC GF-6A เพื่อก้าวไปสู่ศตวรรษที่ 21 และรองรับกับนวัตกรรมเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร้ขีดจำกัด

ล่าสุด!! แบรนด์น้ำมันเครื่องที่ครองยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทยมากว่า 11 ปี และมีวางจำหน่ายไปกว่า 42 ประเทศทั่วโลก อย่าง PTT Lubricants ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมรถทุกประเภท ได้คิดค้นและพัฒนาขีดสุดความสามารถของสมรรถนะในน้ำมันเครื่อง เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด EVOTEC Technology ที่พัฒนาน้ำมันเครื่องกลุ่มเครื่องยนต์เบนซินจนผ่านมาตรฐานการรับรองของน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดในโลก API-SP / ILSAC GF-6A ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานใหม่นี้

และในวันนี้ทีมงาน 9carthai.com ได้ไปศึกษาข้อมูลเชิงลึกมาแล้ว ว่าน้ำเทคโนโลยีใหม่ ที่มีอยู่ในน้ำมันเครื่อง PERFORMA สูตรใหม่จาก PTT Lubricants ที่ผ่านมาตรฐานสูงสุดของน้ำมันเครื่อง มีรายละเอียด และข้อดีอย่างไร จึงอยากนำข้อมูลมาแชร์ให้ทราบโดยทั่วกัน

EVOTEC Technology คืออะไรและมีข้อดีอย่างไรบ้าง?

EVOTEC Technology เกิดจากแนวคิดในการพัฒนาน้ำมันเครื่องให้ดียิ่งขึ้นเพื่อยานยนต์และโลกยุคใหม่ ด้วยการคำนึงถึงประโยชน์ใน 3 ด้านหลัก คือ 3E Benefits ได้แก่ Endurance, Efficiency และ Environment เพื่อตอบโจทย์ตั้งแต่ในระดับผู้ใช้งานทั่วไป ไปจนถึงในระดับมหภาคซึ่งเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมน้ำมันเครื่องครั้งสำคัญดังนี้

1. ENDURANCE ชะล้างสิ่งสกปรก พร้อมกับการปกป้องเครื่องยนต์ให้ทนทานสูงสุดทุกสภาวะ

• ควบคุมความสะอาดของเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
• ป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะในชุดขับเคลื่อนวาล์ว เช่น โซ่ราวลิ้น, ลูกเบี้ยวและเพลา จึงทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุของเครื่องยนต์ได้ยาวนาน
• ลดปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) โดยเฉพาะในเครื่องยนต์ Turbo-GDI จึงช่วยปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากความเสียหายอย่างรุนแรงและฉับพลัน

2. EFFICIENCY เติมสมรรถนะ เต็มพลังทุกอัตราเร่ง

• ลดความเสียดทานของเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม ทุกชิ้นส่วนทำงานได้อย่างคล่องตัว ราบเรียบ ไม่ติดขัด จึงช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มกำลัง เต็มสมรรถนะ ตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้นในทุกสภาวะ อีกทั้งยังให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น

3. ENVIRONMENT ประหยัดเชื้อเพลิงเต็มประสิทธิภาพ และลดการปล่อยมลพิษ

• ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปริมาณก๊าซไอเสียลดลง
• สามารถรองรับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ยุคใหม่ที่เน้นการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดภาระงานของเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์ GDI, Turbo-GDI, เครื่องยนต์ของรถ Hybrid และระบบ Engine Start-Stop
• ไม่ทำอันตรายต่ออุปกรณ์ในระบบบำบัดไอเสีย เช่น TWC และ GPF
• สามารถต้านทานการเสื่อมสภาพจากความร้อนและปฏิกิริยาเคมีได้ดียิ่งขึ้น ระยะการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 15,000 กิโลเมตร
• สามารถรองรับเชื้อเพลิงเบนซินได้ทุกประเภททั้งเบนซินธรรมดาและแก๊สโซฮอล์ E10, E20 และ E85

โดย EVOTEC Technology นี้จะถูกนำมาพัฒนาในการผลิตน้ำมันเครื่องทุกกลุ่มของ PTT Lubricants ให้มีคุณภาพที่ดีสุด และในปัจจุบันได้พัฒนากับผลิตภัณฑ์ PERFORMA ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องยนต์เบนซิน จนได้นวัตกรรม SMART Molecules สารเติมแต่งในผลิตภัณฑ์ PERFORMA ที่ผสานการทำงานของสารทำความสะอาดให้เครื่องยนต์สะอาดสูงสุดไปพร้อมการยับยั้งการเกิด LSPI (การชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ) ที่เป็นอันตรายกับเครื่องยนต์ Turbo-GDI

ข้อดีของ SMART Molecules

1. ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น : ทั้งในด้านความสะอาดและลดการสึกหรอ เครื่องยนต์จึงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุได้ยาวนานสูงสุด (Endurance + Efficiency)
2. แก้ปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างดีเยี่ยม : โดยเฉพาะในเครื่องยนต์ Turbo-GDI ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและฉับพลัน (Endurance)
3. ลดความเสียดทาน/แรงต้านในเครื่องยนต์ได้มากยิ่งขึ้น : เครื่องยนต์ทำงานราบเรียบ เต็มกำลัง ตอบสนองอัตราเร่งได้ดีในทุกสภาวะ (Efficiency) และประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไอเสีย (Environment)
4. น้ำมันเสื่อมสภาพช้าลง และทนความร้อนได้ดียิ่งขึ้น : หล่อลื่นได้ดีตลอดระยะการใช้งานที่ยาวนานสูงสุดถึง 15,000 กิโลเมตร (Endurance + Environment)

ผลิตภัณฑ์ใหม่จาก PTT Lubricants ที่มาพร้อม EVOTEC Technology นี้ จะมีให้เลือกใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์  PERFORMA (สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน) ได้แก่

1. PERFORMA Super Synthetic 0W-20

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% พัฒนาเป็นพิเศษ ช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้นในระดับขีดสุดทุกช่วงความเร็วและทุกช่วงอุณหภูมิ อีกทั้งยังเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ดียิ่งขึ้นสูงสุด 38% และควบคุมความสะอาดได้เหนือกว่าถึง 9.5% เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไปมาตรฐาน API SP เครื่องยนต์จึงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนั้นยังช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพจากความร้อนและสารเคมีได้มากขึ้นถึง 66% ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดโคลนตะกอนได้เหนือกว่าถึง 9.6% น้ำมันจะยังคงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในทุกสภาวะได้ตลอดจนถึงเปลี่ยนถ่าย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วยป้องกันอาการการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างดีเยี่ยมเหนือกว่ามาตรฐาน API SP ทั่วไปถึง 49%

2. PERFORMA Super Synthetic 0W-30

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% พัฒนาเป็นพิเศษ เพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ดียิ่งขึ้นสูงสุด 38% และควบคุมความสะอาดได้เหนือกว่าถึง 7.1% เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไปมาตรฐาน API SP เครื่องยนต์ตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้นในระดับขีดสุดทุกช่วงความเร็วและทุกช่วงอุณหภูมิ พร้อมการประหยัดน้ำมันมากขึ้น 33% เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องเบอร์เดียวกัน อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพจากความร้อนและสารเคมีได้ดียิ่งขึ้นในระดับขีดสุดถึง 100% และลดการเกิดโคลนตะกอนได้เหนือกว่าถึง 9.6% น้ำมันจึงยังคงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในทุกสภาวะได้ตลอดจนถึงเปลี่ยนถ่าย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วยป้องกันอาการการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างดีเยี่ยมเหนือกว่ามาตรฐาน API SP ทั่วไปถึง 35%

3. PERFORMA Synthetic ECO Car SAE 0W-20

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% พัฒนาพิเศษ สำหรับเครื่องยนต์ของรถ Eco Car ทั้งหัวฉีดแบบทั่วไป (PFI) และแบบฉีดตรง (GDI) ทุกรุ่น

ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้นในระดับขีดสุดถึง 27% พร้อมการทำงานของเครื่องยนต์ที่คล่องตัวในทุกสภาวะทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง เพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ดียิ่งขึ้นสูงสุด 38% และควบคุมความสะอาดได้เหนือกว่าถึง 9.5% (เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไปมาตรฐาน API SP) ช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพจากความร้อนและสารเคมีได้มากขึ้น 66% และลดการเกิดโคลนตะกอนได้เหนือกว่าถึง 9.6% น้ำมันยังคงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในทุกสภาวะได้ตลอดจนถึงการเปลี่ยนถ่าย และป้องกันอาการการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะในรถยนต์ Eco Car รุ่นใหม่ เหนือกว่ามาตรฐาน API SP ทั่วไปถึง 49%

ทั้งนี้คุณสามารถเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติที่ดีที่สุดอย่าง PERFORMA ที่มี EVOTEC Technology ผ่านการรับรองมาตรฐานน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดในโลก API-SP / ILSAC GF-6A ได้แล้ววันนี้ที่ PTT Station หรือ FIT Auto ทุกสาขา รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ