Triumph Bonneville Bobber สวยงาม ดุดัน คลาสสิกฉบับบอนเนวิลล์

Triumph Bonneville Bobber สวยงาม ดุดัน คลาสสิกฉบับบอนเนวิลล์

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) เปิดสมรรถนะสุดยอดไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ที่ทุกคนต่างรอคอย บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ (Bonneville Bobber) รถสายเลือดตระกูลบอนเนวิลล์อันเลื่องชื่อ ที่มาพร้อมสมรรถนะและเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและความปลอดภัยเหนือระดับ โดยถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์สายพันธ์แท้ที่ถูกตกแต่งโดยตรงจากโรงงาน สไตล์เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราของรูปลักษณ์ตามแบบฉบับบอนเนวิลล์ดั้งเดิมขนานแท้อย่างครบถ้วน มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บอนเนวิลล์ แรงบิดสูง ขนาด 1200 ซีซี ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด เหมาะแก่ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความเร็วแรง แต่ในขณะเดียวกันก็ให้คาแรคเตอร์ที่ดูสมาร์ทคลาสสิกที่พร้อมสะกดทุกสายตาให้จ้องมอง โดยมีโทนสีพรีเมียมให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ สี Ironstone สี Morello Red สี Competition Green / Frozen Silver และสี Jet Black สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 570,000 บาท

นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ รุ่น “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) รถมอเตอร์ไซค์สายเลือดบอนเนวิลล์ที่สืบทอดตำนานอันไร้คู่เปรียบ เต็มเปี่ยมด้วยภาพลักษณ์ที่ทุกคนต่างปรารถนาครอบครอง ถือเป็นรถที่ถูกตกแต่งโดยตรงจากโรงงาน พร้อมการประกอบด้วยมืออย่างพิถีพิถัน มีสไตล์เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจยามแรกเห็น โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บอนเนวิลล์ แรงบิดสูง ขนาด 1200 ซีซี ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด จึงเหมาะแก่ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความเร็วแรง แต่ในขณะเดียวกันก็ให้คาแรคเตอร์ที่ดูสมาร์ทคลาสสิกแบบฉบับบอนเนวิลล์ขนานแท้

นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ด้านรูปลักษณ์โดดเด่นพร้อมสะกดทุกสายตาให้จ้องมอง ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งท้ายโล่ง ที่นั่งเดี่ยวในตำแหน่งต่ำ แฮนด์บังคับเลี้ยวแบนกว้างและโครงรถคุณภาพระดับพรีเมียม รวมถึงคุณสมบัติตำแหน่งการขี่แบบปรับได้ และแพนเบาะอะลูมิเนียมแบบลอยพร้อมแผ่นโฟมที่ยืดหยุ่นพร้อมการเดินด้ายเย็บอย่างวิจิตร ซึ่งระบบการปรับตำแหน่งเบาะดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ขี่สามารถปรับเบาะแบบแหงนขึ้นหรือกดต่ำลง เลื่อนไปด้านหน้าและเลื่อนถอยหลังได้เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ อีกทั้งในส่วนหน้าปัดเรือนไมล์ทรงนาฬิกายังเป็นแบบ Quick-Release ช่วยเพิ่มความสะดวกในการปรับตำแหน่งให้สอดประสานกับตำแหน่งที่นั่งและสไตล์การขี่ได้อย่างลงตัว ซึ่งสามารถปรับตำแหน่งต่ำสุดของเบาะได้ที่ระดับ 690 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังได้รังสรรค์ภาพลักษณ์แบบ Hardtail อันเป็นสัญลักษณ์ของ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ อาทิ Cage Swing Arm งานฝีมือสุดประณีต ชุดกันสะเทือนหลังแบบ Mono Shock ท่อไอเสีย cat box และท่อเก็บเสียง Peashooter แบบตัดเฉียงที่ซ่อนไว้อย่างมิดชิด รวมถึงล้อแบบซี่ลวดเพื่อเสริมภาพลักษณ์ความเป็นสายพันธุ์แท้ ด้วยล้อหน้า Avon Cobra AV71 ขนาด 19 นิ้ว และล้อหลังยางเรเดียล AV72 ขนาด 16 นิ้ว ที่มีลายร่องยางแบบ Cobra Tread เพื่อความเสถียรภาพในการขี่กว่ารถระดับเดียวกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ พร้อมสำหรับนักขี่ทุกคนและทุกสไตล์

นอกจากนี้ ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ ได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการแต่งรถเป็นหัวใจสำคัญ จึงมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกมากมายกว่า 150 รายการ เพื่อการปรับแต่งรถตามสไตล์ รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางหรือแม้แต่เสริมประสิทธิภาพของรถ อาทิ แฮนด์บังคับเลี้ยวแบบ Ape Hanger เบาะแบบบากร่องและบุนวม ชุดระบบควบคุมความเร็วคงที่ และกระจกปลายแฮนด์ทรงกลมเพื่อภาพลักษณ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับ FOX เพื่อเสริมศักยภาพบอบเบอร์ให้สูงขึ้นอีกระดับ ด้วยการร่วมกันพัฒนาโช้คหลังแบบปรับได้ นอกจากนี้ยังมีท่อไอเสียใหม่หลากหลายสไตล์จาก Vance & Hines ที่มาพร้อมฝาปิดโลหะอะลูมิเนียมขึ้นรูป เป็นต้น ในส่วนของการบำรุงรักษาก็มีการขยายระยะทางเป็น 16,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปีแล้วแต่อย่างใดจะถึงก่อน

นอกจากนี้การรับประกันคุณภาพของรถยังยาวนานถึง 2 ปี โดยที่ไม่จำกัดระยะทาง ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ มีโทนสีพรีเมียมคลาสสิกให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ สี Ironstone สี Morello Red สี Competition Green / Frozen Silver และสี Jet Black สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 570,000 บาท นายจักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย