TOYOTA แถลงยอดขายปี 2560 พร้อมตั้งเป้า 300,000 คันในปี 2561

โพสโดย : rapee / วันที่ : 16 มกราคม 2018

TOYOTA แถลงยอดขายปี 2560 พร้อมตั้งเป้า 300,000 คันในปี 2561

IMG_6530
มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2560 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2561 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
มร.ซึงาตะ กล่าวว่า “ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 870,748 คัน* มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13.3% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ผลักดันให้ GDP ของประเทศไทยเติบโต 3.9% ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไทยเติบโตครั้งแรกในรอบ 4 ปี”
สถิติการขายรถยนต์ ในปี 2560*
ยอดขายปี 2560                              เปลี่ยนแปลง          เทียบกับปี 2559
ปริมาณการขายรวม                                 870,748 คัน             +13.3%
รถยนต์นั่ง                                              345,501  คัน            +23.5%
รถเพื่อการพาณิชย์                                  525,247 คัน             + 7.4%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)     424,282 คัน             +7.7%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 364,706  คัน            +9.4%

โดยโตโยต้ามียอดขาย 240,137 คัน ลดลง 2.0% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 96,606 คัน เพิ่มขึ้น 10.7%
รถเพื่อการพาณิชย์ 143,531 คัน ลดลง 9.1% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 133,458 คัน ลดลง 10.1%
*หมายเหตุ: ตัวเลขยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2560 เป็นตัวเลขประมาณการ ณ วันที่ 12 มกราคม 2561

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2560
ปริมาณการขายโตโยต้า                             240,137 คัน     ลดลง 2.0%    ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
รถยนต์นั่ง                                                  96,606 คัน     เพิ่มขึ้น 10.7%  ส่วนแบ่งตลาด 28.0%
รถเพื่อการพาณิชย์                                    143,531 คัน      ลดลง 9.1%    ส่วนแบ่งตลาด 27.3%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)      133,458 คัน     ลดลง 10.1%    ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)  109,988 คัน     ลดลง 8.7%      ส่วนแบ่งตลาด 30.2%

ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 299,385 คัน ลดลง 6% คิดเป็นมูลค่า 159,321 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 65,387 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 224,708 ล้านบาท”

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2561 มร.ซึงาตะ กล่าวว่า “แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2561 มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของ GDP ที่ 3.9%* รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ และภาคเอกชน ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีส่วนในการกระตุ้นตลาดให้เติบโต และการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลายค่ายรถยนต์ต่างๆ ดังนั้นเราคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศปี พ.ศ. 2561 จะอยู่ในระดับ 900,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.4%

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2561
ปริมาณการขายรวม                                              900,000 คัน    เพิ่มขึ้น 3.4%
รถยนต์นั่ง                                                            352,000 คัน    เพิ่มขึ้น 1.9%
รถเพื่อการพาณิชย์                                               548,000 คัน    เพิ่มขึ้น 4.3%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)                  424,000 คัน     ลดลง 0.1%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)              364,000 คัน     ลดลง 0.2 %

โดยโตโยต้าตั้งเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 300,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 113,000 คัน เพิ่มขึ้น 17.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 187,000 คัน เพิ่มขึ้น 30.3% และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 157,000 คัน เพิ่มขึ้น 17.6%

ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2561
ปริมาณการขายรวม                                   300,000 คัน    เพิ่มขึ้น 24.9%    ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
รถยนต์นั่ง                                                 113,000 คัน    เพิ่มขึ้น 17.0%    ส่วนแบ่งตลาด 32.1%
รถเพื่อการพาณิชย์                                     187,000 คัน    เพิ่มขึ้น 30.3%   ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)        157,000 คัน    เพิ่มขึ้น 17.6%   ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)    133,000 คัน    เพิ่มขึ้น 20.9%   ส่วนแบ่งตลาด 36.5%
*หมายเหตุ: ตัวเลขการเติบโตของ GDP เป็นตัวเลขประมาณการ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2560

สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ คาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถรักษายอดส่งออกไว้ที่ระดับ 300,000 คัน เนื่องมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญ”

IMG_6423

มร.ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โตโยต้าขอแสดงความขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฮบริด หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)และลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)ร่วมกับกรมสรรพสามิต โตโยต้าตัดสินใจขยายการลงทุน  ด้วยการลงทุนสายการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ ที่โรงงานโตโยต้าเกตเวย์ และเราจะยังคงพัฒนายนตรกรรมให้ดียิ่งขึ้นเพื่อนำเสนอตัวเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค อีกทั้งเรายังพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโตโยต้า(New Era of Toyota) ด้วย 4 เทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะเป็นมาตรฐานของยานยนต์ในอนาคต ประกอบด้วย ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ นวัตกรรมโครงสร้างใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ระบบความปลอดภัยใหม่ที่มีมาตรฐานระดับโลก และระบบนำทางและเชื่อมต่อผู้ขับขี่กับรถยนต์ (Toyota T-connect Telematics) ซึ่งทั้งหมดนี้เราเริ่มนำเสนอเป็นครั้งแรกใน รถซับคอมแพคเอสยูวีรุ่นใหม่ TOYOTA C-HR”

“นอกจากนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความสุขให้กับสังคมไทย ผ่านการสร้างประสบการณ์ใหม่ภายใต้แนวคิด ‘LIVE ALIVE’ และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ โครงการCU Toyota Ha:mo โครงการโตโยต้าถนนสีขาวเพื่อรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนซึ่งจะครบรอบ 30 ปีในปีนี้ โครงการเมืองสีเขียวเพื่อการรณรงค์ทางด้านสิ่งแวดล้อม และโครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ที่นำองค์ความรู้และนวัตกรรมทางความคิดของโตโยต้าไปพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจชุมชน ซึ่งจะขยายไปยังทั่วประเทศในปี 2565”

มร.ซึงาตะ กล่าวย้ำถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทยว่า “ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาล เรายังคงมุ่งมั่นในการมีส่วนช่วยส่งเสริมและตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งโตโยต้ามุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถของวิศกรไทยในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านพันธกิจของบริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) เพื่อให้ประเทศไทยเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน และนี่คืออีกหนึ่งความสุขที่เราพร้อมขับเคลื่อนและยืนเคียงข้างกับคนไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป”
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนธันวาคม 2560*

IMG_6485

1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 103,400 คัน เพิ่มขึ้น 19.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า    31,382 คัน       เพิ่มขึ้น 11.9%   ส่วนแบ่งตลาด 30.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ         15,442 คัน       ลดลง 0.5%      ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า     14,463 คัน       เพิ่มขึ้น 39.8%   ส่วนแบ่งตลาด 14.0%

2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 40,700 คัน เพิ่มขึ้น 38.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า    12,244 คัน      เพิ่มขึ้น 32.9%    ส่วนแบ่งตลาด 30.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า     10,629 คัน      เพิ่มขึ้น 57.7%     ส่วนแบ่งตลาด 26.1%
อันดับที่ 3 นิสสัน        4,493 คัน       เพิ่มขึ้น 81.0%     ส่วนแบ่งตลาด 11.0%

3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 50,459 คัน เพิ่มขึ้น 8.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า    18,076 คัน        เพิ่มขึ้น 2.4%    ส่วนแบ่งตลาด 35.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ         13,982 คัน         ลดลง 1.0%     ส่วนแบ่งตลาด 27.7%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      6,377 คัน         เพิ่มขึ้น 32.9%  ส่วนแบ่งตลาด 12.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 7,903 คัน โตโยต้า 3,386 คัน-มิตซูบิชิ 2,127 คัน-อีซูซุ 1,326 คัน-ฟอร์ด 970 คัน-เชฟโรเลต 94 คัน

4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 42,556 คัน เพิ่มขึ้น 7.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า    14,690 คัน        เพิ่มขึ้น 1.4%    ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ         12,656 คัน        ลดลง 1.9%     ส่วนแบ่งตลาด 29.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด         5,398 คัน        เพิ่มขึ้น 34.7%  ส่วนแบ่งตลาด 12.7%

5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 62,700 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า    19,138 คัน        เพิ่มขึ้น 1.6%    ส่วนแบ่งตลาด 30.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ        15,442 คัน        ลดลง 0.5%      ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด        6,694 คัน        เพิ่มขึ้น 35.7%   ส่วนแบ่งตลาด 10.7%
*หมายเหตุ: ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนธันวาคม 2560 เป็นตัวเลขประมาณการ ณ วันที่ 12 มกราคม 2561

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2560*
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 870,748 คัน เพิ่มขึ้น 13.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า   240,137 คัน      ลดลง 2.0%      ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ        160,550 คัน      เพิ่มขึ้น 12.1%  ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า    127,768 คัน       เพิ่มขึ้น 19.0%  ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 345,501 คัน เพิ่มขึ้น 23.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า    96,606 คัน       เพิ่มขึ้น 10.7%   ส่วนแบ่งตลาด 28.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า     95,078 คัน       เพิ่มขึ้น 21.7%    ส่วนแบ่งตลาด 27.5%
อันดับที่ 3 มาสด้า      36,769 คัน       เพิ่มขึ้น 34.3%   ส่วนแบ่งตลาด 10.6%

3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 424,282 คัน เพิ่มขึ้น 7.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ        146,165 คัน      เพิ่มขึ้น 13.4%   ส่วนแบ่งตลาด 34.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า  133,458 คัน      ลดลง 10.1%      ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด       52,664 คัน       เพิ่มขึ้น 39.2%   ส่วนแบ่งตลาด 12.4%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 59,576 คัน โตโยต้า 23,470 คัน-มิตซูบิชิ 14,454 คัน-อีซูซุ 12,371 คัน-ฟอร์ด 8,131 คัน-เชฟโรเลต 1,150 คัน

4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 364,706 คัน เพิ่มขึ้น 9.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ       133,794 คัน    เพิ่มขึ้น 11.5%     ส่วนแบ่งตลาด 36.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 109,988 คัน    ลดลง 8.7%         ส่วนแบ่งตลาด 30.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด        44,533 คัน    เพิ่มขึ้น 44.4%    ส่วนแบ่งตลาด 12.2%

5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 525,247 คัน เพิ่มขึ้น 7.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ        160,550 คัน    เพิ่มขึ้น 12.1%    ส่วนแบ่งตลาด 30.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า   143,531 คัน    ลดลง 9.1%        ส่วนแบ่งตลาด 27.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด        55,585 คัน    เพิ่มขึ้น 39.0%    ส่วนแบ่งตลาด 10.6%

*หมายเหตุ: สถิติการจำหน่ายรถยนต์รวมปี 2560 เป็นตัวเลขประมาณการ ณ วันที่ 12 มกราคม 2561

IMG_6530IMG_6423 IMG_6443 IMG_6485


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " TOYOTA แถลงยอดขายปี 2560 พร้อมตั้งเป้า 300,000 คันในปี 2561 "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด