รีวิว Triumph Street Twin คลาสสิคโมเดิร์น สุดคุ้ม ณ ขณะนี้

โพสโดย : pon / วันที่ : 18 มีนาคม 2016

รีวิว Triumph Street Twin คลาสสิคโมเดิร์น สุดคุ้ม ณ ขณะนี้

Triumph-StreetTwin-9carthai_125

ในงาน Motor Expo 2015 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา Triumph Motorcycles Thailand ได้เปิดตัว รถใหม่ทายาทตระกูล All New Bonneville ถึง 3 Series ได้แก่ Street Twin, Bonneville T120, Thruxton R ซึ่งการเปิดตัวในประเทศไทยเรานี้นับเป็นครั้งแรกในเอเชีย แปซิฟิก ภายหลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน EICMA 2015

Triumph-StreetTwin-9carthai_113

และรุ่นที่ถือว่าได้รับความสนใจมากที่สุด นั่นคือ Triumph Street Twin เนื่องจากเป็นรุ่นที่ทำราคาเริ่มต้นของ Triumph อยู่ที่ 3.9 แสนบาท แต่เต็มไปด้วย ความคุ้มค่า ทั้งในด้านฟังก์ชั่น และสมรรถนะ

และเป็นโอกาสอันดีที่ 9carthai ของเราขอพาทุกท่านที่สนใจในรถคันนี้มาชมรีวิว Triumph Street Twin แบบเต็มๆกันเลยครับ

Triumph-StreetTwin-9carthai_114

Triumph Street Twin นั้นได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่ ให้เป็นรถทรงคลาสสิคร่วมสมัย ซึ่งถือเป็นภาพสะท้อนของรถ Bonneville ดั้งเดิม  ถึงแม้มันจะดู Look Modern ขึ้น แต่ยังแฝงกลิ่นอายสไตล์ Retro อยู่ไม่น้อย ได้แก่

Triumph-StreetTwin-9carthai_087
ไฟหน้าทรงกลม ที่มีโลโก้ T (Triumph แบบใหม่), ไฟท้ายรูปทรงรี แต่ทันสมัยด้วยหลอด LED

Triumph-StreetTwin-9carthai_021

ฝาถังน้ำมันโครเมียมรูปแบบคลาสสิค (สำหรับผู้ที่ไม่เคยขี่อาจจะงง กับการเปิดฝา เพราะคุณจะต้องหมุนที่ช่องวงกลมตรงกลาง เพื่อให้รูกุญแจเปิดออกแล้วจึงค่อยบิดกุญแจและ บิดหมุนที่ตัวฝาถังน้ำมันแบบปกติที่ควรจะเป็นได้ ซึ่งเวลาเติมคุณคงต้องถือเจ้าฝานี้เอาไว้ด้วยจนกว่าจะเติมเสร็จ,

Triumph-StreetTwin-9carthai_088

ท่อไอเสียสแตนแลสออกคู่

Triumph-StreetTwin-9carthai_085

, กระจกมองข้างทรงกลม แบบคลาสสิค, ไฟเลี้ยว เป็นแบบโคมใส ดูคล้ายของ Ninja250 ปี 2012 ไม่มีผิดเพี้ยน,

Triumph-StreetTwin-DASH

มาตรวัดแบบถ้วยแสดงผลความเร็วเป็นตัวเลข Analogue สูงสุด 200 กม./ชม. แต่น่าเสียดายที่ไม่มีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์

Triumph-StreetTwin-ODO

ในส่วนจอแสดงผล LCD ดิจิตอล ทางฝั่งซ้ายเป็นสเกลน้ำมัน และบอกตำแหน่งเกียร์, ขณะที่ตรงกลางแสดงผล ODO, ปรับเซ็ท Trip1 และ 2 ,อัตราสิ้นเปลือง Real Time และ AVG, นาฬิกา ซึ่งฟังก์ชั่นทั้งหมดสามารถกดปุ่ม i ที่สวิทช์ฝั่งซ้ายปรับเซ็ทได้,

Triumph-StreetTwin-9carthai_027

ก้านคลัชปรับได้ 4 ระดับ ก้านเบรกปรับได้ 5 ระดับ

Triumph-StreetTwin-9carthai_024

ทางสวิทข์ไฟฝั่งซ้ายจะมีปุ่ม I ที่ใช้ควบคุมหน้าจอ ตำแหน่งที่เป็นไฟ Pass นั้นจะเป็นการกดเพื่อใช้ไฟสูง

Triumph-StreetTwin-9carthai_025

สวิทช์ไฟขวา จะพบปุ่ม Engine Start ซึ่งคุณต้องกำคลัช พร้อมกดปุ่มลงเพียง 1 ครั้งสั้นๆ นอกจากนี้มีสวิทช์ไฟฉุกเฉินให้อีกด้วย

Triumph-StreetTwin-9carthai_128

ขณะที่รายละเอียดของตัวรถนั้นต้องบอกว่าเก็บรายละเอียดได้ประณีตและดูใส่ใจดี อาทิ ยางตรงแป้นพักเท้า ทั้งหน้าและหลัง มีคำว่า Triumph อยู่, ปลั๊กหัวเทียนก็มีโลโก้ Triumph ด้วยเช่นกัน  และเมื่อไขกุญแจเปิดเบาะนั่งออก จะพบกับ USB Socket อยู่ด้านบนแบตเตอรี่ เพื่อเอาไว้ชาร์จไฟแก่อุปกรณ์สื่อสารได้อีกด้วย

Triumph-StreetTwin-9carthai_070

สำหรับล้ออัลลอยใช้ลาย Multi Spoke หน้าขนาด 18”x2.75” หลังขนาด 17”x4.25” สวมยางจาก Pirelli Phantom SportsComp ด้านหน้าไซส์ 100/90/R18 หลังไซส์ 150/70/R17

Triumph-StreetTwin-9carthai_115

Street Twin มีน้ำหนัก Dry Weight ที่ 198 กก. เบาะนั่งมีความสูง 750 มม.  และถังน้ำมันจุ 12 ลิตร

Triumph Street Twin มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่
– สีแดง Cranberry Red แต่งแถบที่ถังน้ำมันและขอบล้อ
– สีเงิน Aluminium Silver แต่งแถบที่ถังน้ำมันและขอบล้อ
– สีดำด้าน Matt Black (+6,500 บาท)
– สีดำเงา Jet Black
– สีดำเมทัลลิก Phantom Black

Triumph-StreetTwin-9carthai_108

ในด้านของท่าทางในการนั่ง และควบคุมรถ

Triumph-StreetTwin-9carthai_045

ด้วยตำแหน่งเบาะที่ไม่สูง ตำแหน่งเบาะที่แคบและราบยาว ช่วยให้คนที่มีสรีระตัวไม่ใหญ่นักอย่างผู้เขียน ที่สูง 174 ซม. น้ำหนักที่ 58 กก. สามารถนั่งควบคุมรถได้ค่อนข้างสบาย รวมไปถึงผู้ซ้อนที่สรีระไม่สูงมาก จะนั่งซ้อนท้ายได้สบายพอดิบพอดี แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีส่วนสูงมาก การนั่งซ้อนจะต้องชันเข่ามากเสียหน่อยเนื่องจากเบาะเตี้ย

Triumph-StreetTwin-9carthai_001

และด้วยถังน้ำมันที่เล็กและดูเพรียวบาง แต่ก็มีช่องเว้าเข้ารับกับต้นขา ซึ่งผู้เขียนเองชอบมาก เพราะสามารถคร่อมควบคุมรถได้อย่างกระชับ และด้วยน้ำหนักตัวที่ไม่มาก ทำให้การขี่รถ หรือ เข็นเคลื่อนรถนั้นทำได้ไม่ยากลำบากแต่อย่างใด

Triumph-StreetTwin-9carthai_056

ขณะที่แฮนด์บาร์นั้นพบว่า มันดูไม่สูง ไม่เตี้ยจนเกินไป แต่ด้วยลักษณะการวางตำแหน่งแฮนด์ที่ผู้เขียนรู้สึกว่าต้องเหยียดแขนออกไปค่อนข้างมากหน่อย ซึ่งถ้าต้องการให้ตำแหน่งแขนอยู่ในระยะควบคุมที่พอเหมาะ อาจต้องนั่งร่นเบาะเข้ามาชิดถังน้ำมันด้านหน้ามากขึ้น ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสบายนักหากนั่งเป็นเวลานาน

ซึ่งข้อดีมันคือ การขี่ในเมือง ทำให้เราควบคุมองศาการหักวงเลี้ยวแฮนด์ได้มาก แต่ก็พบว่าหากขี่ทางไกล ถ้าตำแหน่งแฮนด์ลงเตี้ยกว่านี้อีกนิด น่าจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าต้นแขนลงได้อีก

Triumph-StreetTwin-9carthai_080

ขุมพลังบล๊อกใหม่ เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 900cc  SOHC 8 วาล์ว

ให้กำลังสูงสุด 55 แรงม้า PS@5,900rpm แรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร@3,230rpm (สูงกว่ารุ่น T100 ถึง 18% นอกจากนี้ยังกินน้ำมันน้อยกว่ารุ่นก่อนถึง 36% (27 กม./ลิตร ตามเคลม) นอกจากนี้ยังใช้คันเร่งไฟฟฟ้า ride-by-wire ในการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ลงสู่เกียร์ 5 สปีด

Triumph-StreetTwin-9carthai_016

หากเราวิเคราะห์จากกราฟล่ะก็จริงอยู่ที่มองเผินๆ แรงม้าของ Street Twin น้อยกว่า T100 ถึงราว 15 ตัว แต่นั่นในส่วนของรอบเครื่องช่วงปลายเท่านั้น หากมองในช่วงรอบเครื่องช่วงต้น-ย่านกลาง เครื่องยนต์บล๊อกใหม่นี้ ได้เปรียบในเรื่องของแรงบิดที่สูงกว่าซึ่งมาหนักตั้งแต่รอบต่ำ ขณะเดียวกันม้าก็เยอะกว่าตั้งแต่รอบเครื่องต่ำ-กลางด้วย ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่ Street Twin จะมีแรงกระชาก พุ่งทะยานออกตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากคุณใช้งานรถคันนี้แบบวิ่งในเมือง (ตามชื่อ Street ของมัน) คุณจะประทับใจกับทอร์คที่มีให้สัมผัสได้ทันทีที่เปิดคันเร่ง ช่วยให้การเร่งแซงรถทั้งหลายบนท้องถนน ทำได้ง่ายเพียงบิดข้อมือเพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และคุณอาจจะเพลินกับทอร์คที่มี จนลืมแรงม้าเพียง 55 ตัวไปเลย

Triumph-StreetTwin-9carthai_079

แต่เมื่อขี่ทางไกลนั้น ผู้เขียนก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ทำไมการปรับเซ็ทเครื่องยนต์บล๊อกใหม่นี้ของ Street Twin จึงไม่เน้นกำลังเครื่องที่รอบสูงนัก เนื่องจาก Nature ของรถสไตล์ Classic แล้วมันเน้นการใช้งานแบบขี่หล่อๆ สบายๆ ซึ่ง Street Twin แม้จะเป็น Classic ดีไซน์ร่วมสมัย แต่ก็ยังเน้นการใช้งานขับขี่ในรูปแบบนี้ ดังนั้นการขี่ในช่วงความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ถือเป็นอะไรที่ขี่ได้เพลิดเพลิน สบายๆ ไม่ตึงเครียด แต่ทว่าการขี่ด้วยความเร็วระดับ 120 กม./ชม. ขึ้นไป ร่างกายจะปะทะลมที่โต้เข้ามามากขึ้น จนคุณต้องขาหนีบถังเพื่อเพิ่มการยึดเกาะกับตัวรถ และก้มตัวลงเพื่อลดแรงลมที่เข้ามาปะทะ ซึ่งนั่นดูจะเป็นการขี่ที่ตึงเครียดไปเสียหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็ดี ช่วงทางตรงโล่งเส้นทางไปผู้เขียน ซึ่งมีขี่เจ้า Street Twin โดยมีคนซ้อนท้าย น้ำหนักรวมราว 110 กก. ได้มีโอกาสลองความเร็วย่านปลายกันหน่อย พบว่าความเร็วไต่ไปถึง 160 กม./ชม. นั้นกำลังเครื่องยนต์ยังมีเหลือให้ใช้อีกพอสมควร ซึ่งหากขี่เพียงคนเดียว และคุณสามารถก้มเพื่อหลบแรงต้านจากลมลงได้ ความเร็วระดับ 180 + มีให้เห็นอย่างแน่นอน

Triumph-StreetTwin-9carthai_078

ในส่วนภาพรวมการขี่ ด้านอื่นๆนั้น น้ำหนักคลัชถือว่าค่อนข้างนิ่มไม่หนักจนปวดนิ้ว (อานิสงค์ จาก Slip Assist Clutch)คันเร่งไฟฟ้าของ Street Twin นี้มีระยะหน่วงเพียงเล็กน้อย ช่วยให้ช่วงเปิดคันเร่งออกตัวนั้น เพิ่ม Throttle เพียงเล็กน้อยรถก็พุ่งทะยานออกไปได้ตามใจสั่ง

สำหรับรถคันนี้ เป็นเกียร์ 5 Speed ตามสไตล์ Classic ซึ่งนั่นส่งผลให้ Engine Brake หนักพอสมควร หากขี่มาด้วยความเร็วและทำการชะลอความเร็ว พร้อมการลดเกียร์ช่วย อย่ารวดเร็วคุณจะได้ยินเสียงเอี๊ยดแรงกระทำของ Engine เบรกที่ส่งไปยังล้อ

Triumph-StreetTwin-9carthai_061

ขณะที่ความร้อนนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ มีไอร้อนพอสมควรเข้ามาให้สัมผัส แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แม้จะขับขี่ในช่วงหน้าร้อนแดดแรง และรถติดอย่างในเมือง กทม.

แต่จุดที่ต้องระมัดระวังคือ หากมีผู้ซ้อน และคุณต้องเขยิบตัวไปด้านหน้าบริเวณถังน้ำมัน และช่วงหัวเข่าที่หนีบถังเวลาเบรกแล้วตัวร่นเขยิบอาจจะต้องระวังหัวเข่าไปโดนแคร้งเครื่องยนต์ซึ่งมีความร้อน ณ จุดตรงนี้เล็กน้อย

Triumph-StreetTwin-FUEL

ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองนั้น Street Twin ทำให้เราประทับใจมาก ตัวเลขสูงสุดบนแดชบอร์ดเราทำได้ที่ 28 กม./ลิตร จากการเดินทางนอกเมือง ใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม.  ขณะที่การเดินทางในเมืองก็ทำได้ที่ระดับ 26 กม./ลิตร

ซึ่งนั่นการันตีได้เลยว่าถ้าขับเดินทางไกลด้วยความเร็วคงที่ 100 กม./ชม. น้ำมัน 1 ถัง จะสามารถวิ่งได้ถึง 300 กม. ได้โดยอย่างไม่ยากเย็น

Triumph-StreetTwin-RANGE

เนื่องจากผู้เขียนได้เติมน้ำมัน 1 ถัง จับ Trip วิ่งไปราว 240 กม. ซึ่งใช้วิ่งทั้งเดินทางในเมืองและนอกเมือง และยังเหลือ ระยะทางคงเหลืออีกราว 50 กม.

สรุปเลย Street Twin มากับเครื่องหม้อน้ำใหม่ เครื่องยนต์ตอบสนองดีคันเร่งสมูท, ขี่เป็นมิตร ไม่ว่าจะในเมืออง หรือเดินทางไกลก็สบาย กระเป๋าไม่ฟีบเพราะค่าน้ำมันแน่นอน

Triumph-StreetTwin-9carthai_054

ระบบกันสะเทือน โช้คอัพหน้า KYB ขนาดแกน 41 มม. มีระยะเคลื่อนตัว 120 มม. โช้คอัพหลังคู่จาก KYB เช่นกัน ปรับ Preload ได้

การนั่งขี่คนเดียว เราพบว่ามันเซ็ทมาให้ขี่ได้สนุก แม้การปรับช่วงล่างที่อาจจะดูแข็งไปเล็กน้อย แต่ต้องขอบคุณโฟมของตัวเบาะที่ค่อนข้างหนา ทีเดียวทำให้แรงกระแทกที่มีต่อสะโพกและก้นนั้นไม่มากนัก

Triumph-StreetTwin-9carthai_095

ขณะที่การขับขี่ซ้อน 2 นั้น พบว่าทรงรถกำลังดูดีทีเดียว ดูแน่น และไม่ตึงตังมากเกินไป

แต่ต้องเข้าใจสภาพของรถคลาสสิค ล้อหน้าไซส์ 18” หลัง 17” ด้วยว่า แม้การเซ็ทช่วงล่างมาให้ขี่สนุก แต่การพลิกโค้ง ด้วยล้อด้านหน้าอาจจะยังต้องการพื้นที่แก้มยางเพิ่มอีกสักหน่อยในช่วงกำลังเข้าโค้ง แต่เมื่อคุณอยู่ในโค้ง ตำแหน่งแฮนด์ตรง เติมคันเร่งเพื่อหาทางออก เจ้า Street Twin นั้นมันให้การยึดเกาะได้ดีจนเรียกได้ว่าขี่สนุกเลยล่ะ

Triumph-StreetTwin-9carthai_038

ระบบเบรก หน้าจานดิสก์เดี่ยวขนาด 310 มม. ติดตั้งคาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบ มาพร้อมระบบ ABS ให้เป็นมาตรฐาน

Triumph-StreetTwin-9carthai_041

ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาดจาน 255 มม. ติดตั้งคาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบเช่นกัน

แม้ระบบเบรกจะไม่ใช่จานดิสก์คู่แบบพี่ใหญ่ T120  แต่ในด้านการชะลอความเร็วนั้นก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง ฟีลลิ่งของก้านเบรก ให้ความหนักแน่นได้ดี พละกำลังแรงเบรกจากล้อหลังนั้น ทำได้ไม่ขี้เหล่นัก เมื่อเทียบกับเบรกหลักทางด้านหน้า แต่ในจังหวะที่ซัดมาด้วยความเร็วและต้องการหน่วงความลงโดยทันที อาจจำเป็นต้อง ใช้ Engine Brake ลดเกียร์ช่วยชะลอช่วย แต่การที่ใช้เกียร์ 5 Speed ทำให้สัมผัสได้ถึงแรงที่กระทำต่อล้อคู่หลังค่อนข้างหนัก ซึ่งต้องควบคุมบาลานซ์รถให้ดี

Triumph-StreetTwin-9carthai_065

สรุป Triumph Street Twin น้องเล็กตระกูล Bonny คันล่าสุด ที่มาทดแทน T100 แต่มีราคาที่ถูกกว่า

แม้ความคลาสสิคจะดูลดลง แต่มันบ่งบอกถึงความมีสไตล์ในแบบโมเดิร์นที่ดูชัดเจน พร้อมสมรรถนะและฟังก์ชั่นที่ครอบคลุมการใช้งานมากกว่า เป็นมิตรต่อการขี่ และยังประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม

โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบรถสไตล์สปอร์ต แต่ขี่คลาสสิคน้องใหม่อย่าง Street Twin แล้ว หลงรักเลย จนอยากเปลี่ยนแนวมาออกเจ้า Street Twin สักคันเลยทีเดียวเชียว

นอกจากนี้ Street Twin ใหม่ ยังได้มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งกว่า 150 รายการ เพื่อเอาใจคอ Custom รถแบบ Fun to Ride เพื่อสร้างเอกลักษณ์ตัวตนของรถในแบบของคุณได้อีกด้วย

Triumph-StreetTwin-9carthai_100

จุดเด่น

  • ดีไซน์ Classic แต่ดูโดดเด่น ทันสมัย + มีช่อง USB Socket ใต้เบาะ
  • ทอร์คหนัก ตั้งแต่รอบต้น + อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยม
  • เบาะนั่งโดยสารนุ่มและนั่งได้สะดวกสบาย ทั้งผู้ขี่ และคนซ้อน
  • มีระบบ TTC ให้ในรถระดับราคาเริ่มต้นของ Triumph

 

Triumph-StreetTwin-9carthai_051

จุดที่อยากให้มีเพิ่มเติม
– มาตรวัดรอบเครื่องยนต์
– ฝาถังน้ำมันหมุน แล้วเปิดขึ้นแบบบานพับติดกับตัวถัง

Triumph-StreetTwin-9carthai_083

ขอขอบคุณ Triumph Motorcycles Thailand สำหรับ Triumph Street Twin สีแดง Cranberry Red ราคา 3.9 แสนบาท คันนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Triumph Street Twin คลาสสิคโมเดิร์น สุดคุ้ม ณ ขณะนี้ "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด