รีวิว Mercedes-Benz C300 Bluetech Hybrid AMG Dynamic ซาลูน หล่อ หรู ทรงพลัง

โพสโดย : pon / วันที่ : 27 ตุลาคม 2015

รีวิว Mercedes-Benz C300 Bluetech Hybrid AMG Dynamic ซาลูน หล่อ หรู ทรงพลัง

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_007

 เมื่อช่วงเดือน มีค. 2015 ที่ผ่านมา ทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถใหม่ประกอบในประเทศไทย Mercedes-Benz C300 Bluetech Hybrid ณ โรงงานธนบุรีประกอบยนต์ ซึ่ง C300 นับได้ว่าเป็นรถ Mercedes-Benz เครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดรุ่นแรกที่ประกอบและจำหน่ายในประเทศด้วย โดยในรุ่น Saloon 4 ประตู จะมี 2 รุ่น ได้แก่ Exclusive เริ่มต้นที่ราคา 2.84 ล้านบาท และรุ่น AMG Dynamic ราคา 3.09 ล้านบาทเป็นคันที่เราได้มีโอกาสมาทดสอบรีวิวกันในครั้งนี้

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_030

เริ่มต้นที่ภายนอก Mercedes-Benz C300 ใหม่ ถือได้ว่าเป็นการถอดแบบรูปทรงมาจาก New S-Class ทั้งรูปทรงตัวถัง ไฟหน้า-ไฟท้าย

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_153

ซึ่ง C300 Bluetech Hybrid นี้มากับฟังก์ชั่นที่หรูหราอัดแน่นมากมาย ทั้ง ไฟหน้า LED พร้อมระบบ Intelligent Light System ที่มีไฟ DRL ในตัวแบบ Fibre-Optic และยังมาพร้อมระบบ ALS (ไฟหน้าเลี้ยวตามองศาพวงมาลัย), Cornering Light ระบบเพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวโค้ง, Adaptive Highbeam Assist  ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ที่ให้ความปลอดภัยแบบจัดเต็ม

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_064

ขณะที่ไฟเบรก และไฟท้ายก็ใช้แบบ LED เช่นเดียวกัน

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_150

ที่มือจับประตู มีปุ่มที่ใช้ระบบสัมผัส ทำงานกับระบบกุญแจ Keyless-Go ใช้งานง่ายสะดวกสบาย

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_148

ในรุ่น AMG Dynamic นี้ให้หลังคา Panoramic Sunroof ที่เปิดได้กว้าง โดยตัวหลังคาเป็นสีดำ ตัดกับสีบอดี้ขาว ได้อย่างลงตัว และมาพร้อมชุดแต่ง AMG BodyStyle รอบคัน, ล้อ AMG 5 ก้าน ขอบ 18” สวมยาง Runflat ไซส์ 225/45/18 ด้านหน้า และ 245/40/18 ด้านหลัง จาก Bridgestone Potenza S001

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_066

ด้านมิติตัวถัง C300 มีความกว้างxยาวxสูง = 1,810×4,686x,1442 มม.

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_065

ระยะฐานล้อ 2,840 มม. มีน้ำหนักตัว 1,715 กก. ความจุถังน้ำมันที่ 50 ลิตร

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_137

สำหรับภายใน ของรุ่น AMG Dynamic คันนี้มีออปชั่นให้เลือก เบาะหนังสีดำ และสีแดง Cranberry Red ในคันนี้ โดยใช้ Trim ลายไม้ Black Ash Wood ตกแต่งด้วยขอบอลูมีเนียม ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์อันดุดันร้อนแรงให้กับ AMG Dynamic คันนี้

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_092

นอกจากนี้ตัว AMG Dynamic ยังให้แป้นเบรกและแป้นคันเร่งแบบสปอร์ต รวมไปถึงพวงมาลัยทรงสปอร์ตท้ายตัด มีปุ่ม Multifunction ที่ใช้ควบคุมหน้าจอแสดงผลตรงแดชบอร์ด และปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ขณที่ก้าน Cruise Control และ Speed Limit จะอยู่ด้านหลังพวงมาลัยฝั่งซ้ายล่าง  นอกจากนี้ยังมีก้าน Paddle Shift เอาไว้ควบคุมเกียร์แบบ Manual หลังพวงมาลัย

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_117

ที่แผงคอนโซลกลางมีปุ่ม Controller และ Touchpad ซึ่งให้คุณเลือกใช้งานตามสะดวกว่าจะใช้ระบบ Touchpad หรือ Controller

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_096

ในการควบคุมหน้าจอแสดงผล Freestand ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับ A-Class ดูรุปทรงจะไม่ค่อยเข้ากับภายในของ C300 ที่ดูหรูสักเท่าไร โดยจอ FreeStand นี้จะแสดงผลตั้งแต่ระบบเครื่องเสียง, การเชื่อมต่อ, ระบบนำทางจาก Garmin, แสดงผลการเซ็ทค่าต่างๆ อย่างครบถ้วน

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_122

หากพินิจมองที่แผงควบคุม Controller ส่วนนี้ จะพบว่ามันได้แชร์ชิ้นส่วนมาจากรถพวงมาลัยซ้าย สังเกตุได้จากปุ่ม Agility (Driving Mode 4 รูปแบบ) ที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือของปุ่ม Controller ขณะที่ปุ่ม Vol กลับอยู่ทางฝั่งขวามือ (ผู้ขับ)

น่าเสียดายเล็กน้อยที่ตัว AMG Dynamic คันนี้ ไม่มี Air Balance เอาไว้ให้ปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสารแบบเช่นตัว Exclusive

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_097

มองถัดขึ้นมาที่คอนโซลด้านหน้า จะพบช่องแอร์ 3 ช่องทรงกลม แบบอากาศยาน และปุ่มสวิทช์ต่างๆ ที่ใช้งานง่ายดูไม่ยุ่งมาก เพียงดันขึ้น-ลง ดีไซน์ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากอากาศยานเช่นกัน หรูหรามีระดับ ต่ำลงมาอีกนิดจะพบกับหน้าปัดนาฬิกาทรงกลมให้ความโมเดิร์นลงตัว

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_095

ถัดมาที่ช่องเท้าแขน สามารถกดเปิด เป็นที่เก็บของโดยมีช่องเชื่อม USB 2 Slot และ SD Card

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_141

บริเวณแผงประตูทั้ง 4 บาน ได้ติดตั้งลำโพง Burnester มอบคุณภาพเสียงแบบ Surround  และยังมีความสุนทรีย์ที่ถูกสร้างขึ้นได้ด้วยสี จากไฟเรืองแสง Ambient Light รอบห้องโดยสารถึง 3 สี ช่วยมอบอารมณ์ผ่อนคลายให้กับห้องโดยสารสุดหรูคันนี้ได้ดูยิ่งขึ้น

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_135

ขณะที่ผู้โดยสารตอนหลังก็ไม่ต้องพะวงกับอากาศที่ร้อน เนื่องจากมีม่านบังแดดหลังไฟฟ้า และแอร์ตอนหลังติดตั้งมาให้

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_131

สำหรับท่านั่งในตำแหน่งผู้ขับ จะพบว่าเบาะที่มี Memory Seat 3 ค่า พร้อมปรับตำแหน่งพวงมาลัย และกระจกข้างให้อัตโนมัติ นอกจากนี้เบาะนั้นยังมีตัว Support ต้นขาให้ปรับเพิ่มได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้การขับเดินทางไกล ไม่เมื่อยอีกต่อไป ในส่วนของเบาะนั่งถือว่ากระชับลำตัวเป็นอย่างดี แม้ปีกเบาะจะไม่โอบแบบรูปทรงสปอร์ตนัก แต่ก็ถือว่ามันนั่งได้ไม่อึดอัด สำหรับพื้นที่ความสูง Headroom 1,039 มม. นั้นดูจะน้อยไปนิด ซึ่งหากผู้ขับที่มีส่วนสูงอาจจะอึดอัดเล็กน้อย การที่เสา A ค่อนข้าง Slope เอียง ทำให้กระจกบานหน้าดูใกล้ชิดกับผู้โดยสารตอนหน้าไปหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่มันช่วยให้วิสัยทัศน์ทางด้านข้างขวานั้นไม่ถูกบดบังมาก เนื่องจากเสา A นั้นไม่อยู่ในตำแหน่งที่บังมุมในการมองเห็นขณะเลี้ยวขวา

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_088

ไปที่ห้องสัมภาระท้ายเมื่อเปิดฝากระโปรงหลังขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า จะพบพื้นที่เก็บสัมภาระ 435 ลิตร (480 ลิตร รุ่น C200) เนื่องจากสูญเสียพื้นที่ไปเล็กน้อยจากแบตเตอรี่ที่ถูกฝังอยู่ภายใต้เบาะหลัง

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_084

เครื่องยนต์ลูกผสม Bluetech Hybrid คือ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ ความจุ 2,143cc ให้กำลังรวม 204 แรงม้า@3,800rpm และ แรงบิด 500 Nm@1,600-1,800rpm จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีกำลัง 27 แรงม้า และ แรงบิด 250Nm เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.4 วินาที และ Top Speed 244 กม./ชม. คายไอเสียเพียง 94 – 104 กรัม/กม.

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_041

ในด้านของประสิทธิภาพในการขับขี่ เราต้องขอบอกเลยว่ามันทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก จะว่าไปมันเป็นรถเครื่องดีเซลที่ดีที่สุดที่ผู้เขียนเคยสัมผัสมาเลยก็ว่าได้  อัตราเร่งจากแรงบิดที่รอบต่ำเพียง 1,500rpm มีให้ใช้อย่างมหาศาล ช่วยให้รถเร่งแซงพุ่งทะยานได้ในเสี้ยวอึดใจ แม้นิสัยใจคอรถดีเซลต้นดีปลายย้วย ความเร็วช่วงปลายที่รอบสูงอาจไม่หวือหวาแบบรถเบนซิน แต่ทว่า C300 Bluetech Hybrid คันนี้ สามารถส่งคุณทะยานความเร็วไปที่ Top Speed ตามเคลม (240 กม./ชม.+) ได้ไม่ยากหากถนนมีเพียงพอ ยิ่งผสานการทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7G-Tronic Plus ซึ่งได้พัฒนาไปอีกขั้นจาก 7G-Tronic มันถ่ายทอดกำลังได้อย่างเต็มเปี่ยม แต่ยังมอบความนุ่มนวล และความรวดเร็ว ในการเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งมันดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด การเปลี่ยนเกียร์สมูท เงียบ ราบเรียบแทบไม่สัมผัสถึงรอยต่อ ไม่ว่าคุณจะเหยียบคันเร่งหนักแค่ไหนก็ตาม ซึ่งจะว่าไปมันทำได้ดีกว่าเกียร์ 8AT ในรถยุโรประดับเดียวกันอีก 2 ค่ายด้วยซ้ำ

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_180

โหมดการขับขี่ Agility ที่ควบคุมการตอบสนองของคันเร่งจาก ECU มีทั้งหมด 4 โหมด Comfort, Eco, Sport, Sport+  ซึ่งมันปรับได้ลำบากนิดจากการที่มันดันไปอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น

– Eco คันเร่งจะค่อนข้างหน่วงตอบสนองช้า และลดการทำงานของระบบปรับอากาศลง และ ระบบ Auto/Start Stop จะทำงานขณะจอดรถติด
– Comfort จะเซ็ทการตอบสนองของคันเร่งกลางๆ และ Climate มาในแบบสบายๆ สำหรับความสบายเป็นหลัก ขณะที่ระบบช่วงล่างจะปรับความนุ่มนวลเพื่อความนิ่มนั่งสบาย
– Sport การตอบสนองของพวงมาลัยจะแม่นยำขึ้น, ช่วงล่างเฟิร์มขึ้น และคันเร่งที่ตอบสนองฉับไว
– Sport+ ทั้งพวงมาลัย, แชสซีส์ และระบบขับเคลื่อน จะตอบสนองได้อย่างเร้าใจมากขึ้นกว่า Sport Mode

ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีข้อกังขาใดๆ ในด้านสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนของ C300 Bluetech Hybrid คันนี้ ที่ทำได้ดีเยี่ยม

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_050

มาว่ากันต่อที่อัตราสิ้นเปลือง Mercedes เคลมค่าเฉลี่ยไว้ที่ 25-27.7 กม./ลิตร  แต่เราพบว่าอัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานตามสภาพความเป็นจริงจะอยู่ที่ราว 17 กม./ลิตร ซึ่งที่จริงมันน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีก  โดยการขับขี่ผู้เขียนใช้โหมด Eco เป็นหลัก มีใช้โหมด Sport ในการเร่งแซงบ้าง กับ Sport+ ในบางครั้งที่ลองทำความเร็วสูงอีกเล็กน้อย ปะปนกับช่วงรถติดบ้างอีกเล็กน้อย

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_175

สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้คือการทำงานของระบบ Hybrid ที่ยังไม่ได้พูด  แม้รถจะมีระบบ Auto/Start Stop ซึ่งจะทำงานอัตโนมัติ ร่วมกับโหมด E-Drive คือเครื่องยนต์ดับวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว มันเริ่มตั้งแต่การสตาร์ทรถโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงเท่านั้น (เมื่อแบตเตอรี่มีประจุเหลือเพียงพอ)  แต่ทว่ามันกลับไม่สามารถเลือกปรับโหมดการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (EV) เพียงอย่างเดียวได้ เพราะระบบจะคำนวนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนหลักๆ ในช่วงเพิ่งสตาร์ทรถ และขับเคลื่อนที่รอบต่ำเท่านั้น นอกจากนั้นการทำงานอของเครื่องยนต์จะเข้ามาสอดแทรกร่วมด้วยตลอด

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_174

แม้ในจังหวะที่เบรก หรือ ทำการถอนคันเร่ง มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็น Generator แปลงพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นกลับไปชาร์จเป็นประจุเก็บไว้ในแบตเตอรี่ Li-ion  เมื่อรถเริ่มลอยลำที่ความเร็วระดับหนึ่ง และค่อยๆลดความเร็วลง เครื่องยนต์จะมีจังหวะที่หยุดการทำงานไปชั่วขณะ มอเตอร์ไฟฟ้าก็จะช่วยส่งกำลังเพื่อให้รถสามารถเคลื่อนตัวต่อได้ระยะหนึ่ง แต่เมื่อเติมคันเร่งต่อไปอีกนิด หรือ ประจุแบตเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ เครื่องยนต์ก็จะกลับมาทำงานอีก ซึ่งจะว่าไปแล้ว นั่นคือการทำงานของเครื่องยนต์และ มอเตอร์ไฟฟ้าที่สอดผสานคอยช่วยเหลือกัน ไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวต่อเนื่องได้อย่างรถที่มีระบบ EV ที่สามารถวิ่งจิรงได้ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. + ชั่วระยะเวลาหนึ่งที่มีแบตเตอรี่

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_134

ระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัย 3 ก้าน ท้ายตัดทรงสปอร์ตผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า และน้ำหนักถูกปรับตามความเร็วรถ

มันสามารถเซ็ทน้ำหนักของพวงมาลัยได้ 2 แบบ Sport และ Comfort ซึ่งผู้เขียนได้เซ็ทน้ำหนักของพวงมาลัยไว้ที่แบบ Sport จะพบว่าในช่วงความเร็วต่ำการสาวพวงมาลัยนั้นถือว่าผ่อนแรงได้ระดับหนึ่ง แม้ไม่เบาหว๋องชนิดไร้น้ำหนัก แต่ก็ยังพอให้ความกระฉับกระเฉงได้ดี (หากต้องการเน้นความเบาคงต้องปรับไปที่ Comfort) การเคลื่อนตัวที่ความเร็วสูงขึ้นพวงมาลัยให้ความหนักแน่นเพิ่มตามความเร็วที่มากขึ้น โดยมีระยะช่วงฟรีของพวงมาลัยเพียงเล็กน้อย นั่นจึงทำให้การขับขี่ที่ความเร็วสูงพวงมาลัยยังคงให้ความหนักแน่นได้เป็นอย่างดี การเลี้ยวโค้งให้น้ำหนักแรงต้านมือในระดับที่ดีไม่หนักเหมือนรถสปอร์ตอื่นๆ แต่ก็ไม่เบาจนคุมรถลำบาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นน้ำหนักพวงมาลัยที่ดีเยี่ยม เหมาะสมกับการขับขี่อย่างแท้จริง

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_045

ระบบกันสะเทือน แบบอิสระ 4 ล้อ ในรุ่น AMG Dynamic คันนี้ ใช้ช่วงล่างแบบสปอร์ตที่เตี้ยลง ต้องเรียกได้ว่าปรับเซ็ทมาได้อย่างเหมาะเจาะ กับรูปลักษณ์รถสปอร์ต และการขับในรูปแบบที่เน้นสมรรถนะให้สมกับชื่อ AMG

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_032

ช่วงล่าง แม้อาจถูกมองว่าแข็งไปหน่อย สำหรับคุณผู้ใหญ่ หรือผู้โดยสารตอนหลัง ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมีผลมาจากล้ออัลลอยขอบ 18” ที่มีแก้มยาง 45 มม. ทางด้านหน้า และ ด้านหลังเหลือเพียง 40 มม. แต่ในด้านการซับแรงมันยังทำหน้าที่ได้ดี ช่วงล่างที่ดูหนักแน่นตามสไตล์ Mercedes ที่ไม่นุ่มจนย้วย มันลงตัวมากทีเดียว การตอบสนองไปพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวที่ให้ความสมดุลย์ ช่วยให้รถ C300 Bluetech Hybrid AMG Dynamic คันนี้เป็นรถที่มีแชสซีส์ และการตอบสนองของพวงมาลัยที่ขับได้สนุกมากที่สุดของรถ Hybrid ที่ผู้เขียนได้เคยทดสอบมากเลยก็ว่าได้

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_070

ระบบเบรก แบบดิสก์ 4 ล้อ คาลิปเปอร์ขนาดใหญ่ มีคำว่า Mercedes-Benz สกรีนอยู่บนตัวคาลิปเปอร์ พร้อมระบบ ABS ที่มาพร้อมระบบช่วยเบรก BAS, Adaptive Brake ไม่พอแค่นั้น ยังมีฟังก์ชั่น HOLD และ Hill Start Assist ที่ช่วยในการล๊อกเบรกบนทางลาดชันช่วยไม่ให้รถไหลขณะออกตัวอีกด้วย

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_036

การใช้งานนั้นถือว่าเป็นเบรกของรถ Hybrid สมรรถนะสูงที่ทรงประสิทธิภาพ ในการหยุดชะลอรถได้อย่างดีเยี่ยม อาการเบรกหน่วง เบรกเฟด ที่มักชอบพบในรถ Hybrid ไม่ว่าคุณจะเบรก ด้วยความความนุ่มนวล หรือหนักหน่วง คาลิปเปอร์เบรกขนาดใหญ่ของ C300 คันนี้ ก็สามารถจัดการกับฝูงม้า 204 ตัว และแรงบิดขนานใหญ่ 500Nm ได้แบบสบายๆ ไร้กังวล

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_021

ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัย ทั้งกล้องมองภาพด้านหลัง ถุงลมนิรภัยทั้งสิ้นถึง 8 ตำแหน่ง, ระบบ Pre Safe, ระบบควบคุมการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR, ระบบช่วยเตือนการเหนื่อยล้า Attention Assist, เซ็นเซอร์ Parktronic

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_037

บทสรุป รีวิว Mercedes-Benz C300 Bluetech Hybrid AMG Dynamic คันนี้ ถือเป็นรถ Compact Saloon ที่มาพร้อมความหรูหรา มีระดับทั้งภายนอก, ภายใน ที่ให้เทคโนโลยีครบครัน  เครื่องยนต์ดีเซลที่ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดได้อย่างทรงพลัง  ประสิทธิภาพของทั้งระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อน แชสซีส์ การควบคุมทั้งหมดยอดเยี่ยมสมชื่อ AMG

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_025

ในราคา 3.09 ล้านบาทก็ถือว่า OK เลยสำหรับรถเยอรมันในระดับออปชั่นขนาดนี้  แต่ถ้าคุณไม่ต้องการรูปลักษณ์สปอร์ต และประสิทธิภาพของการขับขี่แบบสปอร์ต คุณอาจเลือกรุ่น Exclusive ในราคาถูกลงที่ 2.84 ล้านบาท

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_028

จุดเด่นของรถ

  • ระบบขับเคลื่อน+ระบบส่งกำลังที่ทรงประสิทธิภาพทั้งเครื่องยนต์ เกียร์, เบรก, ช่วงล่าง, พวงมาลัย
  • รูปลักษณ์หรูหรามีระดับ ทั้งภายนอก-ภายใน

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_040

จุดที่น่าจะมีเพิ่มเติม

  • ระบบไฮบริดที่น่าจะมีโหมด EV ให้สามารถวิ่งใช้งานได้จริง (ยาวนานมากกว่านี้) เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าของ C300 Bluetech Hybrid คันนี้ เป็นเพียงการผสานงานกับเครื่องยนต์ให้สอดคล้องในแบบช่วย ซึ่งยังไม่มี EV Mode ให้ขับเคลื่อนโดยตรง
  • หน้าจอ Freestand ที่น่าจะปรับรูปทรงให้ดูหรูขึ้นเข้ากับภายในของ C-Class มากกว่านี้

Review-Mercedes-Benz-C300-Bluetech-Hybrid_pon-9carthai_053

ขอขอบคุณ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย สำหรับรถทดสอบ Mercedes-Benz C300 Bluetech Hybrid AMG Dynamic

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai


สนใจลงโฆษณากับทาง 9CARTHAI ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของดีลเลอร์นะครับ

รถใหม่ 2024


รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...


รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.


Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.


Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.


Mitsubishi Triton  ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.


Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.




ราคารถใหม่  BMW, BYDFORD, HAVAL, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, MAZDA, MG, MINI, MITSUBISHI, MERCEDES-BENZ, NETA, NISSAN, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Mercedes-Benz C300 Bluetech Hybrid AMG Dynamic ซาลูน หล่อ หรู ทรงพลัง "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข่าวรถใหม่

บทความแนะนำ

หมวดหมู่

 

Sales ประจำเว็บนะครับ

BMW K.อุ๊ย
083-2222-456 / LINE : @auicarthai
BYD ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Ford K.พลิกล็อค 081-4307717ID Line : @logford
Honda K.บอล
085-082-2662 / LINE : ballz12345
Haval K.ฝน 062-695-9245ID Line : lawan.s
Hyundai K.จ๊ะจ๋า
098-4084660  / LINE : jaja9777
ISUZU K.อาม เพชรเกษม
087-332-1320 / LINE : armisuzu108
Mazda ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mercedes-Benz K.ลูกน้ำ
091-7866446  / LINE : puimg
MG คุณฮอน
098-198-2528 / LINE : pulleystation
MINI ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Mitsubishi ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
NETA K.จูน พระราม 2
082-625-3991  / LINE : 0826253991
Nissan เซลล์ น้องอ้อ
082-997-4556 / LINE : @nissansale
Suzuki ว่าง
รับสมัครเซลล์ประจำเว็บ 1 ท่าน
Toyota คุณแอ้
081-4976966 / LINE : @airetoyota
Volvo เซลส์ คุณมิ้ม
092-2965459 / LINE : mimmieka
* ถ้ามีการโอนเงินค่าจอง จะโอนเข้า ชื่อบริษัท เท่านั้น ไม่มีการโอนเป็นชื่อ Sales นะครับ
** โทรหา Sales บอกว่ามาจาก 9carthai ของแถมพิเศษ ครับ
*** พี่ๆที่ Comment รบกวนช่วย ทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมล ให้ Sales ติดต่อกลับด้วยนะครับ

ความเห็นล่าสุด