รีวิว Mitsubishi Pajero Sport GLS-LTD 2WD สปอร์ต แรง ขับสนุก ราคาดี

รีวิว Mitsubishi Pajero Sport GLS-LTD 2WD สปอร์ต แรง ขับสนุก ราคาดี

All New Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ได้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก เมื่อเดือน สค. ที่ผ่าน ณ งาน Big Motor Sale 2015 และเพียงแค่เปิดตัวไปได้เพียง 10 วัน Pajero Sport ใหม่ สามารถกวาดยอดขายไปได้มากถึง 2,200 คัน เรียกได้ว่า New Pajero เป็น 1 รถ เรือธงของ Mitsubishi ในปีนี้เลย ที่เข้ามาช่วยกวาดยอดขายสู้กับคู่แข่งค่ายญี่ปุ่นแบรนด์อื่นๆ

สำหรับ New Pajero ได้รับการออกแบบใหม่หมดจด ด้วยแนวคิดการออกแบบรถ Off Road ที่ทันสมัย และสะดวกสบาย บนสโลแกน Designed for Perfection ที่สุดของความสมบูรณ์แบบ  ซึ่งไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์เท่านั้นที่น่าสนใจ แต่เครื่องยนต์ใหม่ Clean Diesel ก็ให้สมรรถนะที่โดดเด่น ด้วยเช่นกัน

ซึ่งหลายคนให้ความสนใจกับ New Pajero Sport กันมาก สื่อหลายที่อาจได้ทำรีวิวรุ่นท๊อป อย่าง GT Premium กันไปมากแล้ว ในวันนี้ 9carthai เราขอทำรีวิวที่แตกต่าง เป็นรีวิวในรุ่นเริ่มต้น All New Mitsubishi Pajero Sport GLS-LTD สี Deep Bronze คันนี้กันครับ

ภายนอก All New Mitsubishi Pajero Sport GLS-LTD คันนี้ มากับความโดดเด่นสะท้อนรสนิยมหรู ใช้ไฟหน้าแบบ Projector หลอดไฟ Halogen พร้อมไฟตัดหมอก

ไฟท้าย Spectrum LED, กระจกมองข้างโครเมียม พร้อมปรับไฟฟ้า, กาบบันไดข้าง ระบบเปิดประตูด้วย Keyless โดยมีปุ่มที่มือจับประตู ฝั่งคนขับทั้ง 2 ข้าง

ล้ออัลลอยขนาด 18” แบบ Monotone สีเงิน สวมยาง Bridgestone Dueler ไซส์ 265/60/18

มองจากภายนอกแล้ว แม้ Pajero จะอิงพื้นฐานมาจาก Pick Up Triton ใหม่ แต่การออกแบบมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันช่างดู งดงามหรูหรา ทางด้านหน้า ลงตัวกว่า PPV คันไหนๆ  แต่มองทางด้านท้าย ดีไซน์แปลกตาเป็นอย่างมากจากไฟท้ายลากยาว ซึ่งจุดนี้บางเสียงก็ว่าชอบ บางเสียงก็บอกไม่สวย  แต่โดยรวมเราว่ามันโดดเด่นพอตัว  แต่กันชนท้ายที่อยู่ระนาบเดียวกับฝากระโปรง ทำให้บั้นท้ายมันไร้ทรวดทรงองเอว เสียจริง ซึ่งผู้เขียนมองว่า ถ้าติดกันชนท้ายแบบยื่นออกมา และเสริมสปอยเลอร์ จะช่วยให้ด้านท้ายดูมีมิติ มากกว่า ดูเหลี่ยมแบนเรียบเช่นนี้

สำหรับมิติตัว All New Pajero Sport มี (ความยาวxกว้างxสูง) = 4,785 x 1,815 x 1,800 มม. ระยะฐานล้อ 2,800 มม. ระยะ Ground Clearance 218 มม. มีในรุ่น GLS มีน้ำหนักตัวที่ 1.95 ตัน มีความจุถังน้ำมันทรงโต 68 ลิตร

ต่อกันที่ภายในห้องโดยสาร เมื่อเปิดประตูด้วยระบบกุญแจ KOS ซึ่งให้มาแม้แต่รุ่นต่ำสุดอย่าง GLS คันนี้ เราจะพบกับเบาะที่ใข้วัสดุผ้าสีดำ

พวงมาลัยหุ้มหนัง 4 ก้าน ที่ได้รับการดีไซน์ ใหม่ ดูสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมาก มาพร้อมปุ่ม Multifunction และปุ่ม ควบคุมจอ MID แต่ไร้ซึ่งปุ่ม Cruise Control และรับสายโทรศัพท์ และไม่มี Paddle Shift หลังพวงมาลัย

เครื่องเล่นเพลงแบบ 2Din ที่รองรับ CD, MP3, USB ถ่ายทอดผ่านลำโพง 4 ตำแหน่ง

เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ตอน 2 และ 3 ที่ฝังอยู่บนเพดานหลัง

หัวเกียร์ทรงเหลี่ยม ขนาดใหญ่ ซึ่งเราพบว่าดูจะใหญ่เกินไป

ปุ่มเบรกมือไฟฟ้า อยู่ใต้คันเกียร์ มีปุ่มปิด TCS และเรดาร์ขณะถอยอยู่ใต้ปุ่ม Push Start

ใน New Pajero ได้มีช่องเก็บแว่นเหนือศรีษะให้มาด้วย

ในด้านของตัวเบาะนั้นกระชับดีพอสมควร  นั่งสบายเวลาขับเดินทางไกล

ขณะที่พื้นที่วางขาที่แถว 2 กว้างขวางสบาย แต่แถว 3 ถือว่าแคบอยู่ดีตามแบบฉบับรถ SUV/PPV 7 ที่นั่ง  ถ้าไม่ใช่เด็กคงจะอึดอัด จากการต้องนั่งชันเข่า แต่ก็ยังดีตรงที่เบาะหลังพอเอนได้อยู่ ซึ่งหากเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวไม่ใหญ่มาก นั่งโดยสารในระยะทางไม่ไกล ก็อาจจะพอไหว

เบาะตอนหลัง สามารถปรับได้อย่างหลากหลาย ตามแบบฉบับรถ SUV ในสมัยนี้ เพื่อรองรับการขนสัมภาระ ในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บของด้านหลังเบาะแถว 3 พร้อมฝาปิด ซึ่งถือว่ามีลูกเล่นดีไม่เบา

ขณะที่พื้นที่เก็บของสัมภาระด้านท้ายห้องโดยสาร พบว่าในการพับเบาะตอน 3 ใหราบเรียบลงนั้น ค่อนข้างมีความลำบากอยู่เล็กน้อย เนื่องจากต้องพับถึง 2 ทบ ซึ่งถ้าไม่ได้เก็บของแบบกินพื้นที่มาก ก็สามารถใช้วิธีพับเอนเบาะให้ไปเอียงพิงกับเบาะแถว 2 ได้ นอกเหนือจากนี้ที่เบาะตอน 2 ยังสามารถพับเบาะเลื่อนไปทางด้านหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เก็บสัมภาระให้กว้างขึ้นได้อีกด้วย

จากการใช้งานในห้องโดยสารเราพบว่า ตรงบริเวณคอนโซลกลางไม่มีช่องวางของ ให้วางกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะต้องวางในตำแหน่งวางแก้วแทน หรือเลื่อนไปวางที่ช่องเก็บของตรงประตูซึ่งไม่สะดวกต่อการหยิบใช้งานนัก และหัวเกียร์ดูจะใหญ่เบ้อเริ่มไปหน่อย

สำหรับการเก็บเสียงถือว่าโดดเด่นกว่า PPV อยู่หลายค่าย จากการขับของเราเดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ยระดับ 130 กม./ชม. ก็ยังพบว่ามันเก็บได้ดีในระดับรถยนต์นั่งญี่ปุ่น หรือ ดีกว่า Lancer EX เองที่ผู้เขียนใช้อยู่เสียด้วยซ้ำ (เสียงลมปะทะ) ขณะเสียงจากยาง และเครื่องยนต์ก็ยังมีเล็ดลอดบ้าง แต่ไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด

เครื่องยนต์ Mivec Clean Diesel VG Turbo อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2,442 ลิตร มีกำลังอัด 15.5:1 ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า@3,500rpm  พร้อมแรงบิด 430Nm@2,500rpm

โดยเครื่องบล๊อกนี้คงความโดดเด่น จากการใช้วัสดุอลูมีนัม อัลลอย ที่เสื้อสูบ และฝาสูบ ที่มีน้ำหนักเบา แต่ให้ความทนทานแข็งแรง
ส่งกำลังผ่านเกียร์ 8 Speed ซึ่งมากับระบบ INU (Idle Neutral Control) ซึ่งจะตัดกำลังเพลาขับเคลื่อนขณะเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถในตำแหน่งเกียร์ D ช่วยลดภาระเครื่องยนต์ ส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองที่ดี และยืดอายุการใช้งานเกียร์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมากับ G-Sensor ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้แม่นยำขึ้นบนทางลาดชัน

แม้ในรุ่น GLS คันนี้จะไม่มี ระบบ HDC ควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน แต่ G-Sensor ก็ทำหน้าที่ในการวัดองศาการลาดเอียงของตัวลด และช่วย Hold ตำแหน่งเกียร์นั้นเอาไว้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นการควบคุมความเร็วด้วย Engine Brake ทางหนึ่ง

ภาพรวมการขับขี่ ถือได้ว่าเครื่องยนต์บล๊อกใหม่นี้ จับคู่เกียร์ 8 Speed ทำให้เราประทับใจอย่างมาก

แม้ว่า เครื่องยนต์ นั้นไม่ได้มีแรงบิดที่มาแรงสุดตั้งแต่รอบต่ำ แต่หากกดคันเร่งหนักๆ เพื่อออกตัวอย่างรุนแรง มันก็ตอบสนองได้ รวดเร็วพอตัว เนื่องจากเทอร์โบเริ่มทำงานที่รอบต่ำ นั่นส่งผลให้หลังกระชากหลังติดเบาะได้ไม่ยาก พร้อมเสียงเอี๊ยดอ๊าดที่เกิดจากยางบดพื้นถนน แม้จะเปิดระบบ TCS แล้วก็ตาม

แน่นอนจุดขายของ Pajero ใหม่ คือ บุคลิกการขับที่ สุภาพ ขึ้นเยอะ! จากการเปลี่ยนเกียร์ที่ไหลลื่นสมูท ต่อเนื่อง และการตอบสนองของเกียร์ก็ทำได้รวดเร็วทันใจ แม้การเปลี่ยนเกียร์ด้วยโหมด Sport โดยการโยกคันเกียร์ ก็ให้การตอบสนองได้ไวทันท่วงที

แต่น่าเสียดายที่ไม่มี Paddle Shift ให้ ดังนั้นการเปลี่ยนเกียร์ผ่าน Sport Mode จะต้องทำการ Shift เกียร์โดยการโยกหัวเกียร์เท่านั้น

ภาพรวมรุ่น 2WD ที่เบากว่าตัวท๊อปขับเคลื่อน 4WD ถึง 135 กก. เราจึงพบว่ามันมีอัตราเร่งที่ดูจะทำได้โดดเด่นกว่ารุ่นขับ 4WD โดยเรามีตัวเลข 0-100 กม./ชม. มาให้ดูกัน ซึ่งทดสอบ 2 ครั้ง เปิดและปิด TCS (10.59/10.605 วินาที) พบว่ามีค่าใกล้เคียงกันมาก เนื่องจากการทำงานของ TCS ยังจับไม่เต็มที่ ล้อยังออกตัวฟรีให้เห็นอยู่ เราจึงได้ค่าเมื่อปัดเศษอยู่ที่ 10.6 วินาที ขณะที่อัตราเร่งย่าน 80-120 กม./ชม. อยู่ที่ 7.7 วินาที

ด้านอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ความเร็วระดับ 110 กม./ชม. อยู่ที่ 14.6 กม./ชม. จากการขับจริงเดินทางไกลที่ใช่ความเร็วเฉลี่ยช่วง 110-130 กม./ชม. วิ่งไปราว 580 กม. เหลือระยะทางวิ่งได้จากแดชบอรด์แจ้งอีก 170 กม. ซึ่งเราพบว่ามันสามารถวิ่งได้ร่วม 800 กม./1ถัง หากไม่หวดมันมากจนเกินไป

ระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 ม.  ยังคงมีน้ำหนัก พอสมควรขณะสาวออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง แต่เมื่อขับเคลื่อนได้ระยะความเร็วมันเริ่มเบาขึ้นในระดับที่คุมง่ายดี และให้ฟีลลิ่งที่ดูเป็นธรรมชาติ การขับเข้าโค้งนั้น อาจไม่ให้ฟีลลิ่งกระฉับกระเฉงคมไวนัก แต่มันก็ให้การควบคุมแบบตึงมือกำลังดี คุมง่าย ไม่ต้องเครียดกับการคุมพวงมาลัยมากนัก พวงมาลัยไม่คืนวงเลี้ยวให้ในทันที นั่นจึงอาจทำให้หลายคนที่ขี้เกียจขับมือเดียวแบบผ่อนคลายได้ชิลๆ แต่อย่างไรก็ดีอย่าประมาท เชียวแม้พวงมาลัยไม่คืนวงเลี้ยว แต่ถ้าเจอพื้นถนนสุดแย่ ก็มีอาการพวงมาลัยดิ้นได้เหมือนกัน

ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบ Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโครง ด้านหลัง แบบ 3 Link Torque Arm คอยล์สปริง ซึ่วถือเป็นอีก 1 จุดขายของ New Pajero เลย “นุ่มนวล แน่น หนึบ” เอาสโลแกนนี้ไปเลย  ความสบายผ่อนคลายจากช่วงล่าง ถือว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกว่ารุ่นก่อน การกระด้างจากล้อขอบ 18” แก้มยาง 60 มีน้อย นุ่มนวลเข้าใกล้รถ SUV จนมันนิ่มกว่า SUV บางค่ายเสียอีก  ขณะที่การทรงตัวในทางตรงทำได้ดีหายห่วง ขับ 140 กม./ชม. ได้ไม่มีเครียดเพราะไม่พบอาการรถโคลงเคลงนัก  การเข้าโค้งก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง เท่าที่รถทรงสูง PPV จะทำได้ อาการโคลงตัวนั้น น้อยกว่าที่คิดทั้งที่ช่วงล่างเซ็ทมานุ่มนิ่มก็ตาม ขับได้สนุกในระดับที่เทียบกับ PPV ด้วยกัน

ระบบเบรก Pajero ใหม่ ใช้ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ ซึ่งได้เปรียบคู่แข่ง โดยคู่หน้ามาพร้อมช่องระบายความร้อน และคาลิปเปอร์ 2 สูบ ด้านหลัง แบบ Drum in Disc มาพร้อมช่องระบายความร้อน การเบรกชะลอรถไว้ใจได้ แม้จะเซ็ทแป้นเบรกมาต้องลงเท้าลึกเสียหน่อย แต่ก็ ถือว่าทำได้ดี ให้การตอบสนองในการชะลอรถได้นุ่มนวลขึ้น ไม่หน้าจิกแบบสไตล์ Pick Up และแน่นอนว่า คุณงามความดีก็ มาจากการใช้เบรกดิสก์ 4 ล้อ พร้อมการเซ็ทแป้นเบรกที่ดีลงตัวกับสไตล์ของตัวรถด้วยเช่นกัน

ระบบความปลอดภัย ในรุ่น GLS นี้ ถือว่ามีมาให้พอตัว ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า, กุญแจ KOS พร้อม Immobilizer และสัญญาณกันขโมย, ระบบเบรก ABS, EBD, BA, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน HSA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ATC, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC, สัญญาณกะระยะจอดด้านหลัง

สรุป All New Mitsubishi Pajero Sport GLS-LTD 2WD ซึ่งถือเป็นรุ่นล่างสุด ที่เน้นทำราคา Low Cost
ด้านสมรรถนะการขับขี่ถือว่าทำได้ดีเลย ขุมพลัง Clean Diesel ที่ให้ความแรงพอตัว และจุดเด่นที่ระบบส่งกำลัง 8 Speed ที่โดดเด่นกว่าใครในคลาส
ขณะที่ความสะดวกสบายในการโดยสาร ก็ดูดีทั้งความนุ่มนวลของช่วงล่างที่ใกล้เคียง SUV

โดยรวมแล้ว ออปชั่นกับราคาของรุ่น Low Cost คันนี้ ก็ถือว่า ค่อนข้างคุ้มค่า แต่เราคิดว่าน่าจะมีการติดตั้งกล้องมองหลังมาให้ตั้งแต่ในรุ่นล่างสุด ร่วมกับ Cruise Control จะยอดเยี่ยมและ Perfect มากในรถ PPV เพราะบางอย่างก็ให้มาแบบค่อนข้างครบตั้งแต่ในรุ่นเริ่มต้น ระดับเริ่มต้นเช่น Pajero Sport คันนี้ (โดยเพิ่มราคาอีกสัก 1 หมื่น – 1.5 หมื่นบาทกำลังดี)

ผู้เขียนมีความเห็นว่า ถ้างบถึง เพิ่มอีกสัก 1.2 แสนบาท น่าจะได้ออปชั่นที่คุ้มค่ากว่า เนื่องจากในรุ่น ท๊อป โดนโครงสร้างภาษีใหม่ ทำให้คุณต้องเพิ่มเติมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และออปชั่นความปลอดภัยเพิ่มเติมบางอย่างอีกถึง 2 แสนบาท

จุดเด่น

• รุปลักษณ์ที่ดูหรูหรา มีระดับ
• เครื่องยนต์ Clean Diesel ที่ทรงพลัง และอัตราสิ้นเปลืองที่ดี
• ระบบเกียร์ 8 Speed และระบบ INU ที่ช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์ขณะเบรกหยุดรถด้วยเกียร์ D

จุดที่อยากให้มีเพิ่มเติม

• ดีไซน์ด้านท้าย น่าจะมีสปอยเลอร์หลัง และ กันชนที่ยื่นออกมาทางด้างล่าง เมื่อเสริมความมีมิติทางด้านท้าย
• รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ น่าจะให้ออปชั่นเสริมเพิ่มได้แก่ กล้องมองหลัง, หน้าจอมัลติมีเดีย, ระบบ Cruise Control

อุปกรณ์มาตรฐาน PAJERO SPORT 2WD GLS-LTD ราคา 1,138,000.

ความยาว x ความกว้าง x ความสูง = (4,785 x 1,815 x 1,805)

ภายนอก
– ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ แบบฮาโลเจน
– ไฟตัดหมอกหน้า
– ไฟท้ายแบบ Spectrum LED
– ไฟเบรกดวงที่สาม
– ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อค และระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์

ภายใน
– จอแสดงข้อมูลการขับขี่
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– แผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลังและแยกอิสระ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
– พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับเข้า-ออก
– สวิตช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย
– กระจกมองหลังแบบปรับแสงสะท้อน
– กระจกหน้าต่างไฟฟ้า แบบปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ (ด้านคนขับ) พร้อมระบบ Safety
– กระจกมองข้างปรับและผับด้วยไฟฟ้า
– เซ็นทรัลล็อค พร้อมระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว
– ที่ปัดน้ำฝนหน้า-หลัง พร้อมจังหวะหน่วงเวลา
– ไฟอ่านแผนที่คู่หน้า และไฟส่องสว่างสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2 และ 3 พร้อมไฟส่องสว่างข้างประตู
– ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ หน้าและหลัง
– ช่องเก็บแว่นตาเหนือศีรษะ
– ที่บังแดดหน้า เฉพาะด้านผู้โดยสาร
– มือจับสำหรับขึ้น-ลงรถ 4 ตำแหน่ง
– พรมรองพื้นห้องโดยสาร
– เบาะหน้า-เบาะแถวที่สอง เบาะผ้าสำดำ
– เบาะหน้าปรับระดับสูง-ต่ำได้ แบบแมนนวล เฉพาะด้านคนขับ
– เบาะหน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้
– เบาะแถวสองแยกพับแบบ 60:40
– เบาะแถวสองพนักพิงสามารถปรับเอน และพับไปด้านหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน
– เบาะแถวสองที่พักแขนสำหรับที่นั่งแถวที่สอง พร้อมที่วางแก้ว และจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX x2
– เบาะแถวที่สามเบาะผ้าสีดำ
– เบาะแถวที่สาม พนังพิงสามารถปรับเอนได้
– ปรับแบนราบกับพื้นห้องโดยสารได้
– กุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
– เครื่องเสียง 2DIN – วิทยุ, ซีดี, เอ็มพี 3 พร้อมช่องต่อ USB
– ลำโพง 4 ตัว

ความปลอดภัย
– ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้า
– ระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
– ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก (BOS-Brake Override System)
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– เข็มขัดนิรภัย คู่หน้า ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง, แถวที่ 2 ELR 3 จุด 1 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง, แถวที่สาม ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง พร้อมระบบผ่อนแรง เฉพาะด้านคนขับ
– ไฟห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อปลดล็อก
– ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
– ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
– ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
– ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวขณะลากจูง
– สัญญาณกะระยะจอด ด้านหลัง
– ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน

Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ มีราคาจำหน่ายดังต่อไปนี้
GLS-LTD 2WD – 1,138,000 บาท (รุ่นที่เรานำมาทดสอบ)
GT 2WD – 1,250,000 บาท
GT-Premium 4WD – 1,450,000 บาท

ดูรายละเอียดราคาและสเปคแบบละเอียดเพิ่มเติมได้ลิงค์ด้านล่างครับ

ใหม่ All New Mitsubishi Pajero Sport ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

ขอขอบคุณ Mitsubishi Motors สำหรับรถทดสอบ All New Mitsubishi Pajero Sport GLS-LTD 2WD สี Deep Bronze คันนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai